ยายวัย 74 ปีร้องเพจสายไหมถูกตุ๋นไปทำงานปอยเปตกลับไทยกลับเจอหมายจับ 4 คดี


ผู้เสียหาย เดินทาง ขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด หลังนางนภา ธรรมดา ยายอายุ 74 ปี ถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกชวนไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา หวังจะนำเงินมาช่วยเหลือดูแลสามีพิการนอนป่วยติดเตียงแต่สุดท้ายถูกบังคักไปเปิดบัญชีม้า ต้องใช้ชีวิตอยู่กว่า 10 วันก่อนจะถูกปล่อยตัวกลับมาแต่มีหมายจับติดตัวกลับมาด้วย 4 หมายจับ ข้อหา“ฉ้อโกงประชาชน” ปัจจุบันยายต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ
นางสาวเจนิสตา พวงจำปา หลานสาว บอกว่า ปกติยายทำงานเป็นแม่บ้านดูแลคนป่วย จนกระทั่งคนที่ดูแลเสียชีวิตนายจ้างจึงให้มาทำความสะอาดที่บ้านระหว่างรองานใหม่ จนมีคนที่อาศัยอยู่แถวบ้าน มาชักชวนไปทำงานเป็นแม่บ้านที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชาบอกว่าได้เงินดี ยายก็หลงเชื่อตัวเองพยายามห้ามแล้วแต่ยายไม่ฟังเพราะยายบอกว่าอยากมีรายได้มาดูแลตาที่ป่วยติดเตียง จนกระทั่งตัดสินใจเดินทางไปซึ่งตอนนั้นติดต่อยายได้บ้างไม่ได้บ้างเนื่องจากสัญญาณไม่ค่อยดี หรือยายบอกว่าคนที่พาไปหลังจากมารับไปที่บ้านก็มุ่งหน้าไปที่จังหวัดสระแก้วและพาเดินเลาะตามเส้นทางธรรมชาติจนข้ามไปยังประเทศกัมพูชาได้
ปรากฏว่าพอไปถึงงานที่ไปทำกลับไม่ใช่งานเป็นแม่บ้าน แต่ถูกให้ไปรวมอยู่กับคนไทยอีกกว่า 1000 คนในห้องโถงใหญ่ที่มีมีทั้งเด็กผู้หญิงและคนชรา กินอยู่นอนเบียดเบียดกันภายในห้องนี้ก่อนจะมีคนดูแลที่คนที่นั่นเรียกกันว่า”เจ๊“ ซึ่งมีสามีเป็นชาวจีนจะคอยมาสั่งให้ลูกน้องพายายและคนในห้องออกไปทีละหลายหลายคนไปยืนอ้าปาก กระพริบตา และส่ายหน้า ลักษณะเหมือนการสแกนใบหน้าเพื่อเปืดบัญชี ซึ่งช่วงนั้นที่สามารถติดต่อยายได้ ก็ถามว่าเค้าให้ไปทำอะไร แต่ยายก็เล่ามา ว่าวันวันไม่ได้ทำอะไรคอยรอคนดูแลเรียกไปทำแบบนี้ซ้ำๆกันทุกๆวัน ตัวเองพยายามให้ยายหาทางกลับมา แต่ก็ไม่สามารถกลับมาได้ จนผ่านไปประมาณ 10 วัน ยายโทรศัพท์กลับมาบอกว่าตอนนี้ข้ามกลับมาที่ฝั่งไทยแล้วได้เงินกลับมา 4000 บาทกำลังจะหารถตู้กลับบ้าน
หลังจากกลับมาอยู่บ้านได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนจู่จู่ก็มีตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามประมาณ 7-8 คนเข้ามาที่บ้านพร้อมหมายจับยาย แจ้งว่ายายมีหมายจับข้อหาฉ้อโกงประชาชน และพรบ.คอมพ์ มูลค่าความเสียหายประมาณ 130,000 บาท แต่หลังมีการตรวจสอบพบว่ามีเงินเข้ามาในบัญชีเพียง 74,000บาท ก่อนจะคุมตัวยายไปยังสถานีตำรวจภูธรบ้านลาดและนำตัวส่งฟ้องศาล และต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ประมาณสองเดือน ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกมาซึ่งตัวเองกำลังจะไปรับแต่จู่จู่ก็มีตำรวจมารออายัดตัวยายที่หน้าเรือนจำส่งตัวไปต่อที่สถานีตำรวจภูธรชะอำ จึงมารู้ว่ายายถูกหลอกไปทำงานเปิดบัญชีม้าแล้วยังไปตรวจสอบยายยังมีหมายจับอีกสองหมายจับจากศาลจังหวัดเชียงใหม่ และศาลจังหวัดศรีสะเกษ
นางสาวเจนิสตา หลานสาวบอกต่อว่าวันนี้ที่เดินทางมาเพื่ออยากจะขอความช่วยเหลือจาก สายไหมต้องรอดเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับยายและอยากให้ตำรวจตรวจสอบในเรื่องของเส้นทางการเงิน ซึ่งแม้จะมีเงินเข้ามาผ่านในบัญชี แต่ยายก็ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเงินจำนวนนี้ แต่ต้องมาเป็นแพะรับบาป// มิหนำซ้ำยังมีตาที่อายุมากและป่วยติดเตียงอยู่ หลังจากรู้ว่ายายต้องไปต้องโทษจำคุกในเรือนจำตาก็มีอาการทรุดและซึมลงอย่างเห็นได้ชัด