มท.1 Kick off ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกชุมชนปลอดยาเสพติด


"ภูมิธรรม" Kick off ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด พร้อมเป็นประธานสักขีพยาน "ปฏิญญารวมพลังยับยั้งปัญหายาเสพติด" ระหว่างผู้ว่าฯ - ผู้บังคับการตำรวจ 76 จังหวัด มุ่งขจัดปัญหายาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทยอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน
วันนี้ (17 ก.ค. 68) เวลา 13.00 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาลและ Kick off ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก กรุงเทพฯ โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หัวหน้าส่วนราชการระดับกรมในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม และเป็นการถ่ายทอดการประชุมผ่านระบบวิดีโอทางไกลไปยังศาลากลางจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดและที่ว่าการอำเภอทั้ง 878 อำเภอ โดยมีนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมรับฟังทั่วประเทศ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปัจจุบันเราเผชิญกับอาชญากรรมจากภายนอกประเทศ ที่เล็ดลอดเข้าสู่ประเทศไทยผ่านตามแนวชายแดน ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย และที่สำคัญมีการ "ลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศไทย" จนกลายเป็นภัยร้ายแรงที่บ่อนทำลายประเทศไทยมาอย่างยาวนาน แม้นว่าไทยเราจะไม่ใช่ต้นกำเนิดของยาเสพติด แต่เราก็ได้รับผลกระทบจากการลักลอบขนยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านบริเวณชายแดนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือจนเข้าไปแพร่ระบาดในหมู่บ้าน/ชุมชน สร้างปัญหาที่ทำลายชีวิตของคน ทำลายความสงบสุขและความปลอดภัยของชุมชน ทำลายโอกาสดี ๆ ของคนรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไปไปรู้จบ
"ปัญหายาเสพติด" จึงเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลต้องการกำจัดให้หมดไปจากผืนแผ่นดินไทย และที่ผ่านมาก็ได้ดำเนินงานอย่างเข้มข้นจริงจังและต่อเนื่องโดยมาตรการและปฏิบัติการต่าง ๆ ทั้งการกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติดที่มีการกำกับติดตามประเมินผลผ่านตัวชี้วัดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมาตรการ Seal Stop Safe ที่ได้เริ่มเมื่อ 1 ก.พ. 68 ที่ผ่านมา ในพื้นที่ 14 จังหวัด 51 อำเภอชายแดน 76 สถานีตำรวจ ซึ่งได้เห็นความสำเร็จของการปฏิบัติงานอยู่เสมอและต้องขอชื่นชมและขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน และยังมีการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ต้นแบบ "ธวัชบุรีโมเดล" และ "ท่าวังผาโมเดล" โดยขยายผลไปยังพื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องการขยายผลให้การแก้ปัญหายาเสพติดเป็นไปอย่างเข้มข้นและครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกรุงเทพมหานครและ 76 จังหวัด 878 อำเภอที่ต้องอาศัยความร่วมมือของข้าราชการทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการเข้าถึงพี่น้องประชาชน สามารถขจัดปัญหายาเสพติดไปได้อย่างแท้จริง
จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายอำเภอ ผู้กำกับการสถานีตำรวจ หัวหน้าสถานีตำรวจ ได้นำนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดขับเคลื่อนให้ครบทุกมิติ ทั้งการป้องกันไม่ให้มียาเสพติดเข้าสู่ประเทศ การปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน ตลอดจนการฟื้นฟูคนดีกลับสู่สังคม ทำให้ประชาชนรับรู้เข้าใจและสัมผัสได้ถึงความตั้งใจของรัฐบาลและพวกเราทุกคน ยกระดับให้เป็นวาระของจังหวัด อำเภอ และหมู่บ้าน/ชุมชนทั่วประเทศ ผ่านปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด โดยมีเป้าหมายและตั้งตัวชี้วัดว่า "ภายใน 3 เดือนนี้" หมู่บ้าน/ชุมชนที่มีปัญหายาเสพติดจะต้องเริ่มแก้ไขปัญหา วางกลไกของชุมชน และประกาศตนเป็นหมู่บ้าน/ชุมชนปลอดยาเสพติดที่จะต้องไม่มีทั้งผู้ค้าและผู้เสพต่อไป" นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม ได้มอบนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติด ได้แก่ 1) ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจับมือร่วมกันทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ด้วยการบูรณาการร่วมกันทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะในเรื่องการประสานแลกเปลี่ยนข้อมูล การวางกำลังและการจัดกำลังเพื่อสนับสนุนภารกิจของกันและกัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องเป็น CEO ในการจัดการปัญหายาเสพติดบนข้อมูลสถานการณ์จริงตามบริบทของพื้นที่ที่แตกต่างกัน ต้องรู้สภาพปัญหาและเงื่อนไขความท้าทายที่เกิดขึ้นในจังหวัดของตน พร้อมนำปัญหามาแปลงเป็นแนวทางแก้ไขที่ตอบโจทย์ของพื้นที่ พร้อมทบทวนเป้าหมายตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกระยะ เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพสูงสุด ใช้กลไกของกระทรวงมหาดไทยที่มีความเข้าใจและเข้าถึงพี่น้องประชาชนมาดำเนินงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่ระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล และหมู่บ้าน โดยการมอบหมายภารกิจให้นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานเรื่องยาเสพติด ทั้งการสกัดกั้น เฝ้าระวัง ตรวจตรา และ X-Ray ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่สถานบันเทิงหากพบผู้เสพยาเสพติด ให้นำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา นอกจากนี้ ยังต้องมีการนำกลไกฝ่ายปกครอง มาใช้หาข่าวในพื้นที่ด้วย เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้ค้ายาเสพติดและดำเนินการตามกฎหมายและต่อยอดไปสู่การทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดทั้งระบบต่อไปโดยเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่ทั้งหลาย
2) ด้านการบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติด ให้ยึดหลัก "ผู้เสพคือผู้ป่วย" ที่ต้องได้รับการรักษา ตามรูปแบบและกลุ่มของผู้ป่วย โดยจังหวัดต้องให้ความสำคัญกับการดำเนินงานของศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม เพื่อให้ผู้ป่วยที่ผ่านการบำบัดได้มาฟื้นฟูสมรรถนะและศักยภาพให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนจะกลับเข้าไปใช้ชีวิตในสังคมโดยไม่กลับไปใช้ยาเสพติดซ้ำอีก ซึ่งสามารถนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ที่เป็นอีกส่วนที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและสนับสนุนการดำเนินงานใน
3) อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเกิดผลสัมฤทธิ์ คือ "พลังของพี่น้องประชาชน" โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทุกคนนับเป็นผู้นำของหมู่บ้าน/ชุมชนซึ่งอาจมีการกำหนดกติการ่วมหรือ "ธรรมนูญหมู่บ้าน" เรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ทุกคนรับทราบและปฏิบัติร่วมกัน พร้อมทั้งสนธิกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่มีจำนวนมากกว่า 670,000 คนทั่วประเทศซึ่งล้วนเป็นผู้ที่อยู่ในหมู่บ้านที่เป็นพลังสำคัญและเป็นหัวใจในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่ต้องสร้างพลังมวลชนในการ X-Ray ทุกพื้นที่ และส่งเสริมให้มีขบวนการตาสับปะรด ช่วยสอดส่องดูแลและให้ข่าวกับภาครัฐ เพื่อทำให้ปัญหายาเสพติดหมดไปจากทุกพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ไม่ให้มีผู้ค้ายาเสพติดได้เล็ดลอดในชุมชน และเฝ้าระวังไม่ให้ผู้เสพยาเสพติดหรือมีอาการคุ้มคลั่งจากการเสพยาเสพติด ถ้าพบก็ให้ส่งเข้ากระบวนการบำบัดรักษาฟื้นฟูตามแนวทาง ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะทำให้ชุมชนปลอดภัย ไม่มีผู้เสพยาเสพติดรายใหม่เพิ่มเติม และป้องกันไม่ให้ยาเสพติดกลับเข้ามาระบาดในพื้นที่ต่อไป
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า รัฐบาลมีความตั้งใจในการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และการแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วย "กองทุนแม่ของแผ่นดิน" โดยให้ทุกจังหวัด ทุกหน่วยงานขับเคลื่อนการดำเนินงานแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการนำกองทุนแม่ของแผ่นดินมาช่วยสนับสนุนในการเสริมสร้างพลังแห่งความดีของบุคคล พลังแห่งความดีของผู้คนที่ช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดของหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อสนองพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เรื่องในโอกาสมงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 และ 12 สิงหาคม 2568 เดือนอันเป็นมิ่งมงคลของพระพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า และอีกหนึ่งรูปแบบ คือ การดำเนินงาน "จังหวัดสีขาวปลอดยาเสพติด" เช่นธวัชบุรีโมเดล จ.ร้อยเอ็ด และท่าวังผาโมเดล จ.น่าน โดยดำเนินการร่วมกันระหว่างทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ศุลกากร กอ.รมน. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน และให้จังหวัดที่อยู่บริเวณจังหวัดชายแดนอื่นนอกเหนือจาก 14 จังหวัด Seal Stop Safe นำรูปแบบการดำเนินงานดังกล่าวไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพปัญหาและบริบทของพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศไทยเป็นแหล่งแพร่ระบาดของยาเสพติด และยับยั้งไม่ให้ประเทศของเราเป็นทางผ่านของยาเสพติดไปสู่ประเทศที่ 3
"ในการเดินทางไปหมู่บ้านหลายครั้ง ตนพบกับพี่น้องประชาชนที่ประสบความทุกข์ในเรื่องยาเสพติด ซึ่งสิ่งหนึ่งที่เขากังวลใจ คือ ตกลงรัฐบาลเอาจริงหรือไม่ ถ้ารัฐบาลเอาจริงเขาก็พร้อมที่จะร่วม ซึ่งปัญหาที่ผ่านมานอกจากปัญหาอาชญากรที่สร้างอาชญากรรมแล้ว ยังมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหลายส่วน หลายระดับ ซึ่งทำให้ปัญหายาเสพติดจึงไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ตอนนี้เราได้เห็นแล้วว่าภัยยาเสพติดมันกระทบกับคนไทยรุนแรงมากแค่ไหน และทุกข์ของพี่น้องประชาชนที่เห็นวันนี้ มันรุนแรงมากจนเป็นที่กล่าวถึงทุกแห่ง อยากให้เราคิดถึงครอบครัวเราว่า ถ้ามีลูกหลานเราติดยาเสพติดและทำตัวติดยาจนกระทั่งกลายเป็นอาชญากรขึ้นมา เราได้เห็นแล้วภาพที่พ่อยิงแม่ ยิงลูก ลูกยิงพ่อยิงแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดในสังคมไทย มันเกิดขึ้นเพราะปัญหาเพียงแค่ว่า อยากได้เงิน อยากได้สตางค์เอาไปซื้อยาเสพติดมาเสพ"
วันนี้เราเดินเข้าหมู่บ้านแน่นอนปัญหาเศรษฐกิจเป็นปัญหาพื้นฐาน แต่สิ่งที่เมื่อพูดแล้วมันเกิดความสะเทือนใจเขา คือ ลูกหลานเขาติดยาเสพติดและเขารู้หมดว่าในหมู่บ้านใครค้า ใครขาย ใครสนับสนุน วันนี้พวกเราต้องร่วมมือแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ตนไม่เชื่อว่าเราแก้ไม่ได้ ปัญหาคือ เราเอาจริงหรือเปล่า เรากล้าที่จะทำอย่างจริงจังหรือเปล่า วันนี้ได้เวลาแล้วที่จะต้องเอาจริงเอาจัง อย่างน้อยในช่วง 3 เดือนนี้ จะแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และ "ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลัง ชุมชนปลอดยาเสพติด" นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ต้องร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การทำงานครอบคลุมทุกมิติ ทั้งในมิติของพื้นที่และมิติของการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงนายอำเภอและผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจต้องร่วมการทำงานอย่างใกล้ชิดในระดับอำเภอ รวมทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและสาธารณสุขอำเภอด้วยที่เรามีผู้ป่วยจากการเป็นผู้เสพยาจะต้องบำบัดรักษา ฟื้นฟู
โดยมี หน่วยทหาร ตำรวจ และกระทรวงศึกษาธิการมาช่วยกันฟื้นฟูสมรรถนะ สมรรถภาพ โดย ป.ป.ส. สนับสนุนให้การดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อคืนคนดีสู่สังคม ซึ่ง "ปฏิญญารวมพลังยับยั้งปัญหายาเสพติด" ในวันนี้ถือเป็นคำมั่นสัญญาที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจะแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ของตนเองให้ประสบความสำเร็จ โดยยึดหลักการทำงานร่วมกันให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อบรรลุผลความสำเร็จตามพี่น้องประชาชนคาดหวัง ช่วยกันสร้างความดี ทำให้ยาเสพติดหมดไปจากสังคมไทยอย่างถาวรและยั่งยืน