พปชร.บี้"ม.รามและสตช." การชี้มูล"สามารถ+พตท."ร่วมโกงเข้าเรียน+การสอบ"

พปชร.บี้"ม.รามและสตช." การชี้มูล"สามารถ+พตท."ร่วมโกงเข้าเรียน+การสอบ"





ad1

พปชร.บี้"ม.รามและสตช."
 การชี้มูล"สามารถ+พตท."
""ร่วมโกงเข้าเรียน+การสอบ"

แหล่งข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายสามารถ เจนชัยจิตวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม เเละอดีตผอ.ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะนักศึกษาปริญญาเอก คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรามคำเเหง ถูกสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยรามคำเเหง แจ้งว่า "สถาบันฯ ได้ตรวจสอบพบว่ามีผู้มาเรียนและเข้าสอบแทนนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ตั้งแต่วันที่ 6 - 7 มีนาคม 2564 ในการนี้ สถาบันฯ ได้ตัดสิทธิ์ในการเรียนวิชาดังกล่าวของนายสามารถเเล้ว" โดยนายสามารถส่งพ.ต.ท.นายหนึ่งสังกัดบช.น.ในขณะนั้น ไปดำเนินการเข้าเรียนและเข้าสอบแทน ตามที่สถาบันภาษาฯกล่าวหา แต่นายสามารถปฏิเสธเรื่องดังกล่าว และอ้างว่าเป็นเรื่องหวังผลทางการเมืองบางอย่าง  โดยนายสามารถพร้อมให้รางวัล 2 แสนบาทสำหรับคนทมี่ให้ข้อมูลนั้น

เเหล่งข่าวกล่าวว่า กรณีข้างต้นนั้น พรรคพลังประชารัฐได้สอบสวนเรื่องนี้  โดยนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบนายสามารถ   มีมติเอกฉันท์ให้นายสามารถออกจากหน้าที่ทั้งหมด ( ผู้ช่วยรัฐมนตรี, ผอ.ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ, คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล, คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดการฉ้อโกงประชาชนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ และห้ามไม่ให้นายสามารถใช้ตราเครื่องหมายของพรรค เว้นแต่ว่าจะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ) เพราะพรรคตรวจสอบแล้วพบว่ามีมูลเเละลงโทษนายสามารถไปเเล้ว 

"ตอนนี้รอผลการพิจารณาจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำเเหงว่าดำเนินการคืบหน้าอย่างไร 
 ทราบว่าสถาบันภาษาฯ ห้ามนายสามารถเข้าทดสอบกับสถาบันภาษาฯอีกต่อไป  เว้นแต่จะไปนำผลทดสอบจากสถาบันภาษาแห่งอื่นๆที่ได้รับรองมาตรฐานมายืนยันแทน   และคณะรัฐศาสตร์แจ้งผลพิจารณาเบื้องต้นที่มีต่อนายสามารถไปยังผู้บริหารมหาวิทยาลัยรามคำเเหงแล้ว  โดยรอผู้บริหารมหาวิทยาลัยลงมติในเรื่องนี้ แต่แปลกใจว่า เหตุการณ์นี้ผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่มหาวิทยาลัยยังไม่มีความชัดเจนใดๆในเรื่องนี้ออกมา    ทั้งๆที่บุคคลภายนอก เช่น พรรคพลังประชารัฐก็สอบสวนนายสามารถในเรื่องนี้ และมีมติออกมาหลายเดือนแล้ว"แหล่งข่าวกล่าว


แหล่งข่าวกล่าวว่า ส่วนการสอบสวนพ.ต.ท.นายนั้นที่ร่วมกระทำความผิดกับนายสามารถทราบว่า  ผู้บริหารของบช.น.ในขณะนั้นมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนพ.ต.ท.คนดังกล่าวเเล้ว เเต่ยังไม่ทราบความคืบหน้า โดยตอนนี้พ.ต.ท.คนดังกล่าว ได้รับการเลื่อนยศเป็นพ.ต.อ. เเละย้ายไปสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค2    ตรงนี้ก็น่าแปลกใจเช่นกันว่า ทำไมสำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการกับพ.ต.ท.คนนี้ที่ร่วมกระทำการทุจริตกับนายสามารถล่าช้า   จึงขอให้ผู้บริหารสำนักงานตำรวจเเห่งชาติเร่งดำเนินการให้ข้อเท็จจริงปรากฏด้วย

"มหาวิทยาลัยรามคำแหงและสำนักงานตำรวจแห่งชาติน่าจะมีคำตอบเรื่องนี้โดยเร็วเพราะองค์ประกอบความผิด-หลักฐานการร่วมกระทำความผิดของผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองรายชัดเจน  อย่าทอดเวลา เพราะมันมีความเสื่อมเสียขององค์กรเกิดขึ้น และคนอื่นๆเสียหาย  ขอฝากผู้บริหารสององค์กรเร่งชี้แจงผลการสอบสวนด้วย" 
 
เเหล่งข่าวกล่าวว่า  พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ  กล่าวกับสมาชิกพรรคเเละผู้มีตำเเหน่งทางการเมืองเสมอว่าต้องเคารพกฎหมายเเละระเบียบต่างๆ อย่าทำให้พรรคเสื่อมเสีย  ผิด/ถูกว่ากันไปตามหลักฐาน  และตอนนี้พรรคกำลังตรวจคุณสมบัติเบื้องต้นของว่าที่ผู้สมัครส.ส.ครั้งหน้าทั้ง500คนว่าใครเหมาะสมบ้าง หากใครกระทำผิดหรือโดนกล่าวหาในเรื่องต่างๆ พรรคจะพิจารณาว่าสมควรส่งลงสมัครส.ส.หรือไม่    และทราบว่านายสามารถพยายามล็อบบี้ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อขอโอกาสแก้ตัวและขอลงสมัครส.ส.ครั้งหน้า แต่ยังไม่มีสัญญาณใดๆจากผู้ใหญ่ในพรรคในเรื่องดังกล่าว
////