ตำรวจนราธิวาสจับแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ยึดของกลางยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด

ตำรวจนราธิวาสจับแก๊งค้ายาเสพติดรายใหญ่ยึดของกลางยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด





Image
ad1

ผู้ว่าฯ นรา ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด พร้อมขยายผลเครือข่าย ตรวจยึดของกลางยาบ้ากว่า 7 แสนเม็ด ยึดทรัพย์มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท

วันนี้ (24ก.ค.68)  ที่ตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9  ,พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซ๊ะ รอง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส  นายอนิรุทร บัวอ่อน ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายซูปียัน แดเมาะเล็ง นายอำเภอสุไหงโกลก แถลงข่าวความคืบหน้าจับกุมยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จับกุมและตรวจยึดยาบ้าจำนวน 670,000 เม็ด ยึดทรัพย์มูลค่า1,500,000 บาท

ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จังหวัดนราธิวาสได้ขานรับนโยบายของรัฐบาลในการเปิดปฏิบัติการ “NO Drugs NO Dealers” เพื่อมุ่งมั่นแก้ไขและปราบปรามปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังในทุกพื้นที่ โดยบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง ความมั่นคง ตำรวจ ทหาร และภาคีเครือข่าย และภาคประชาชน ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมร่วมปฏิบัติการสอดส่องดูแลแก้ไขและปราบปรามปัญหายาเสพติด โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ค.2568 เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าจะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จึงได้รายงานให้รับทราบ

และได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนจัดชุดเข้าทำการจับกุม จนขยายผล ตรวจยึดยาบ้า ได้จำนวนทั้งสิ้น 678,000 เม็ด ทั้งนี้การขยายผบจับกุมในครั้งนี้ เป็นผลจากระดมสรรพกำลังเพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง  จนนำไปสู่ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น จับกุม ทำลายโครงสร้างเครือข่ายกระบวนการผู้ค้ายาเสพติดได้ จึงขอให้ประชาชนมั่นใจในการบูรณาการร่วมกันของทุกฝ่าย ว่าจะสามารถแก้ไขและปราบปรามปัญหายาเสพติดในพื้นที่ให้หมดสิ้นไปได้อย่างแท้จริง

ด้านพล.ท.กฤษฎา แก้วจันดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ได้แถลงในส่วนของคดีว่า  การปฏิบัติการครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการพิเศษ ได้ร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ ดำเนินการสืบสวนและติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยอย่างใกล้ชิด กระทั่งสามารถนำไปสู่การจับกุมเครือข่ายยาเสพติดได้สำเร็จ โดยพฤติการณ์และการขยายผลในการจับกุมครั้งนี้

สืบเนื่องจากวันที่ 22 ก.ค.2568 เวลาประมาณ 15.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดขยายผลยาเสพติดและตรวจยึดทรัพย์สินตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีการนัดส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนจัดชุดเข้าทำการจับกุม พบมีรถยนต์เก๋งต้องสงสัยลักษณะมีพิรุจจอดอยู่บริเวณบนถนน บูเก๊ะสามี ม.7 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดขยายผลฯ จึงได้เข้าตรวจสอบพบ นางสาว อซูรา เจ๊ะมิ ภายในบ้านพักพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าว และมีถุงกระดาษวางอยู่ข้างเบาะคนขับจึงแสดงตัวขอเข้าทำการตรวจสอบพบของกลางยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวน 8,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงกระดาษวางอยู่ข้างเบาะคนขับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดขยายผลฯ ได้ทำการขยายผลได้ทำการขยายผลจนทราบว่ามีการเก็บซุกซ่อนยาเสพติด (ยาบ้า) อีกจำนวนมาก จึงได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบ บ้านเช่าซึ่งมีลักษณะเป็นแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด ในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ผลปรากฏพบของกลางยาเสพติด (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 670,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ขยายผลฯ จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกจับกุมทราบว่ามีความผิดฐาน “จำหน่ายยาเสพ ติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นการกระทำเพื่อการค้า 

และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือ ความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป พร้อมยึดของกลาง ประกอบด้วย ยาบ้า 678,000 เม็ด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ Nissan สีขาว ป้ายทะเบียน งน 6560 สงขลา 1 คัน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Oppo Reno 8 จำนวน 1 เครื่อง และจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 1 ราย คือ น.ส.อซูรา เจ๊ะมิ และอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับบุคคลที่มีส่วน เกี่ยวข้องอีกจำนวนหลายราย และรวมยึดทรัพย์สินตาม พรบ.ยาเสพติด มูลค่า1,500,000 บาท

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการขยายผลการสอบสวน เพื่อสืบหาผู้ร่วมขบวนการและเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยถือเป็นคดีสำคัญที่ส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อสังคมอย่างร้ายแรง จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในพื้นที่ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติหรืออาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ได้ทันที เพื่อร่วมกันสร้างความปลอดภัย และขจัดปัญหายาเสพติดออกจากชุมชนอย่างยั่งยืน

โดย...แวดาโอ๊ะ หะไร จ.นราธิวาส