ก้าวที่กล้า “พิทยา บังศรี” นักลงทุนที่ไม่มีวันหยุดนิ่ง
เส้นทางชีวิต “พิทยา บังศรี” กว่าจะก้าวสู่นั่งแท่นเป็นนักบริหารมืออาชีพ อดีตเคยล้มลุกคลุกคลานมาอย่างโชกโชน หลังจากตัดสินใจก้าวเดินสู่อาชีพรับราชการอยู่พักใหญ่ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เนื่องจากก่อนหน้านี้เข้าศึกษาสายงานด้านสาธารณสุข จากวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จังหวัดอุดรธานี จากนั้นหันมาทำงานสายงานด้านพยาบาลมาตลอดตั้งแต่ปี 2531 เป็นต้นมา
พิทยา เล่าวว่า ช่วงที่เรียนจบใหม่ๆไฟแรงมาก อยากทำงานรับราชการ ด้วยความที่เป็นคนต่างจังหวัด ค่อนข้างเป็นอาชีพที่มีเกียรติกับวงศ์ตระกูล แม้เงินอาจไม่ได้สูงมากเท่ากับการทำงานในบริษัทเอกชนยุคนั้น แต่มีความมั่นคง ภูมิใจช่วยหล่อเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย ในระหว่างชีวิตการทำงานได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในสายงานที่ทำ เพื่อนำประสบการณ์ชีวิตออกมาทำอาชีพ เป็นเจ้าของกิจการเองได้ในอนาคต เพราะว่าขอบข่ายงานในช่วงนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับอาหารและสุขภาพเป็นหลัก
“ในช่วงจังหวะชีวิตทำงานสาธารณสุขนั้น ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ไว้มากมาย ทั้งเรื่องการบริหาร การจัดการ ความรู้ด้านสายงานพยาบาล เรื่องอาหารและยาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ พอถึงจุดหนึ่งจึงมีความคิด อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองบ้าง คือว่าอยากรวยเหมือนคนอื่นๆที่เขาประสบผลสำเร็จในชีวิตกัน” พิทยากล่าว
จึงตัดสินใจกระโดดออกมาจากงานรัฐ ขอเป็นเจ้าของธุรกิจ ตั้งบริษัทด้านอาหารและสุขภาพ มีรายได้พอหมุนเวียนในการทำธุรกิจในระดับหนึ่ง ซึ่งการทำธุรกิจนั้น ได้พบกับสัจธรรมของชีวิต ย่อมมีขึ้น มีลง ไม่มีอะไรที่แน่นอน ด้วยความที่เป็นบริษัทขนาดเล็ก บางครั้งเกมธุรกิจอาจสู้ยักษ์ใหญ่ไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมี พิทยาคลีนิกการพยาบาลและผดุงครรภ์
บังเอิญจังหวะชีวิตได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง พรรคพวกเพื่อนฝูงชวนมาเป็นนักขายอิสระ เลยสมัครเข้ามาเป็นนักขายให้กับค่ายขายตรงเบอร์หนึ่งประเทศ ในช่วงขณะนั้นตนได้ฝึกอบรมเป็นนักขายแบบมืออาชีพ พร้อมกันนั้น ตนได้รับโอกาสไปร่วมบรรยายให้ความรู้คนมากมาย จึงได้เห็นโลกกว้าง รู้จักผู้คนที่หลากหลาย เนื่องได้ร่วมงานบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียง จึงได้รู้หลักวิธีการทำตลาด การบริหารงานคนและการจัดการทั่วไป
จนได้ผันตัวอีกครั้งมาเป็นนักการเงินและนักลงทุน ที่เกี่ยวการซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ การเทรดเงิน และเทรดทองคำ ในระหว่างนั้นตนได้เป็นวิทยากรออกไปบรรยายให้สมาชิกในประเทศเพื่อนบ้านได้รับฟัง ทั้งในประเทศสสป.ลาว ประเทศมาเลเซีย ซึ่งช่วงขณะนั้นเดินทางไปๆมาๆต่างประเทศร่วม 3ปี จึงตัดสินใจวางมือธุรกิจหันมาเป็นนักลงทุนอย่างเต็มตัว
ซึ่งการเป็นนักลงทุนนั้น ย่อมมีความเสี่ยง มีได้ ย่อมมีเสียคละปนกันไป เนื่องจากช่วงแรกๆตนไม่มีความเชี่ยวชาญในกลเกมธุรกิจมากนัก จะต้องอาศัยการเรียนรู้หาประสบการณ์สักระยะหนึ่ง พอที่นำมาวิเคราะห์เหตุและผลได้ และศึกษาความเป็นไปได้ จึงทำให้นั้นพอมีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ก้อนใหญ่ รายได้หลักหมื่นถึงหลักแสน
ชีวิตหักเหอีกรอบช่วงปี 2565 ทางญาติชวนมาร่วมงานกับค่าย ทรัพย์ยั่งยืนหรือ SYได้มารู้จักผู้บริหารระดับสูง จึงเห็นวิธีการทำงาน แนวคิดและวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล จึงตัดสินใจร่วมงานได้รับการแต่งตั้ง ผู้อำนวยการด้านการวางกลยุทธ์และการตลาดออนไลน์ จากนั้นบริษัทปรับเปลี่ยนเป็นบริษัทมหาชน
จากการที่อยู่ในแวดวงการเงินมาระดับหนึ่ง สามารถเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการเงิน ข้อมูลวิชาการที่ถูกต้อง และสามารถจับต้องได้ อีกทั้ง ยังมองเห็นโมเดลธุรกิจเรื่องการเงินที่กว้างขึ้น สามารถนำมาถ่ายทอดให้คนรอบข้างได้ที่เดินทางอยากเป็นนักลงทุน
อย่างน้อยประสบการณ์ “พิทยา”เก็บเกี่ยวมานาน ย่อมเป็นฟันเฟืองหนึ่งที่คอยขับเคลื่อนธุรกิจกลุ่ม SY 59 เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ภายใต้แนวทาง “สร้างงาน สร้างอาชีพ อย่างยั่งยืนและมั่นคง”