ก๊วนมือปืนรัวยิงเจ้าของวงหมอโร่มอบตัวอ้างโมโหโดนด่า เจอ 3 ข้อหาหนัก


จากกรณีที่นายธนพล บัลลังสำโรง อายุ 25 ปี เจ้าของวงหมอลำ “เสือ ธีรพล ไชยเลิศ” เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น หลังถูกคนร้ายขับรถยนต์รถเก๋งสีขาวไล่ตามยิงขณะขับรถเก๋ง โตโยต้า โคโรล่า อัลติส สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ-5569 ชัยภูมิ กลับที่พัก ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 31 ก.ค. 2567 ที่งานสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น นายวายุ พืมชัยภูมิ อายุ 25 ปี (เสื้อสีขาว) อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่14 ต.ชีลอง อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 547 ลงวันที่ 30 ก.ค. 2567 ข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรใบอนุญาตพกพา และ ร่วมกันขิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน โดยไม่มีเหตุอันสมควร"
นายปัฐทวี จัวหอม อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 /3 หมู่ 4 ต. ในเมือง อ. เมืองชัยภูมิ จ. ชัยภูมิ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 546 ลงวันที่ 30 ก.ค. 2567 ข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรใบอนุญาตพกพา และ ร่วมกันยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน โดยไม่มีเหตุอันสมควร"
ขับรถยนต์เก๋งฮอนด้า สีขาว ทะเบียน กฉ-9538 ชัยภูมิ พร้อมอาวุธปืนสั้น กล็อก 19 ขนาด 9 มม. เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่สภ.เมืองขอนแก่น
ในเวลาต่อมา ก็มี นายพชร แย้มโอวาท อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ 8 ต. ทางพระ อ. โพธิ์ทอง จ. อ่างทอง คนที่นั่งเบาะหลังรถเก๋งคันที่ใช้เป็นยานพาหนะ ในการก่อเหตุ และนายเกียรติศักดิ์ มุ่งสมัคร อายุอายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 344 / 4 หมู่ 1 ต.บ้านเขว้า อ.บ้านเขว้า จ. ชัยภูมิ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า อาร์-15 สีน้ำเงินขาว ทะเบียน 1 กถ-2136 ชัยภูมิ ซึ่งร่วมก่อเหตุในเวลาดังกล่าว เข้ามอบตัวด้วยเช่นกัน
หลังการรับมอบตัว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับ ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ 2 คน คือ ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น , ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่รับอนุญาต , ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรใบอนุญาตพกพา และ ร่วมกันขิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน โดยไม่มีเหตุอันสมควร"
นายเกียรติศักดิ์ มุ่งสมัคร อายุ 26 ปี คนขับรถจักรยานยนต์ กล่าวว่า ตนเองนัดกันจะไปทานอาหารที่ร้านโจ๊กในตัวเมือง ขอนแก่น โดยเพื่อนขับรถเก๋งไป ซึ่งเห็นคู่กรณียืนอยู่กลางถนน แล้วพูดด้วยคำพูดที่ไม่สุภาพ ทั้งที่ ไม่ได้โกรธไม่ได้เคืองแค่จะไปถามว่ามีอะไรหรือเปล่า เพราะไม่ได้รู้จักกัน
"ผมกับเพื่อนจึงเดินเข้าไปถามโดยคู่กรณีได้ขับรถออกไป ก่อนจะจอดด่าเพื่อนตนเองอีกครั้ง ตนเองจึงเห็นเพื่อนขับรถเก๋งตามไปจึงขับตามไปด้วย แล้วเคาะกระจกเรียกให้จอด แต่คู่กรณีไม่จอดและขับไปต่อจึงขับตามไปและมีเสียงปืนดังขึ้น"
ขณะที่ พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก. สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า จากการสอบสวน ผู้ต้องทั้งหมดให้การรับสารภาพทุกคน ว่าการก่อเหตุครั้งนี้ เกิดจากความโมโหที่ถูกฝ่ายหมอลำด่าด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงไม่พอใจ จึงขับรถเก๋งสีขาวไล่ตามไป เพื่อจะถามและเคลียร์กัน แต่เคลียร์ไม่ได้ จนเกิดการยิงรถของหมอลำขึ้น โดยนาย วายุ ที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับเป็นคนใช้อาวุธปืนที่พกติดตัวมายิงใส่รถของเจ้าของวงหมอลำ
"นายปัญทวี เป็นคนขับรถยนต์ นายพัชระ นั่งที่เบาะหลังคนขับ ส่วนนายเกียรติศักดิ์ เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งทั้งหมด 4 คน ร่วมกันก่อเหตุในเวลา 03.00 น.วันที่ 30 กค.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ถือว่า คดียิง นายธนพล นั้น ได้ตัวคนที่ร่วมกันก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และผู้ต้องหาทั้ง 4 คนก็รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว และรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ซึ่งหลังจากสอบสวนปากคำตามขั้นตอนเสร็จสิ้นก็จะนำตัวส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป"