สาว วัย 29 เข้าร้องทุกข์ บชน. เอาผิด ส.ต.ต. สังกัด บก.อคฝ. กรณีปล่อยคลิปสยิว ทั้งข่มขู่ คุกคาม และทิ้งท้ายว่า "ไม่มีใครทำอะไร ตนเองได้" ยืนยันให้เป็นไปตามขบวนการยุติธรรม

สาว วัย 29 เข้าร้องทุกข์ บชน. เอาผิด ส.ต.ต. สังกัด บก.อคฝ. กรณีปล่อยคลิปสยิว

สาว วัย 29 เข้าร้องทุกข์ บชน. เอาผิด ส.ต.ต. สังกัด บก.อคฝ. กรณีปล่อยคลิปสยิว ทั้งข่มขู่ คุกคาม และทิ้งท้ายว่า "ไม่มีใครทำอะไร ตนเองได้" ยืนยันให้เป็นไปตามขบวนการยุติธรรม





ad1

เมื่อวันที่ 06  ม.ค. 2654  นางสาวพลอย (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยศ ส.ต.ต. สังกัด กองบังคับการหน่วยอารักขาและควบคุมฝูงชน หรือ บก.อคฝ. กรณีปล่อยปล่อยคลิปภาพตอนมีเพศสัมพันธ์กัน และถูกข่มขู่ คุกคาม พร้อมทิ้งท้ายว่า "ไม่มีใครทำอะไร ตนเองได้" จนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และมีผลกระทบกับการใช้ชีวิตอย่างมาก

โดย  นางสาวพลอย กล่าวว่า รู้จักกับสิบตำรวจตรีคนดังกล่าวผ่านแอฟพลิเคชั่นหาคู่ (tinder) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 จากนั้นได้มีการพูดคุย คบหา จนถึงมีขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง จนเวลาผ่านไป 8 เดือน จึงมารู้ว่าฝ่ายชายมีแฟนอยู่แล้ว ในขณะตนเองก็รู้สึกผิดเพราะมีแฟนอยู่แล้วเช่นเดียวกัน  

จึงพยานามตีตัวออกห่างเพื่อจบความสัมพันธ์ แต่สิบตำรวจโทคนดังกล่าวก็ไม่ยอมเลิกลา จึงไปร้องเรียนกับจเรตำรวจ เพื่อให้ดำเนินการทางวินัย เมื่อสิบตำรวจตรีนายดังกล่าวรู้เรื่อง จึงติดต่อมาตนเองให้ถอนเรื่องร้องเรียนที่จเรตำรวจ พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่ถอนเรื่องเรียน อาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น แต่ตนก็ยื่นยันว่าจะไม่ถอนเรื่องร้องเรียน 

จนกระทั่ง  วันที่26 พฤษภาคม 2564  ผู้ก่อเหตุได้ส่งคลิปภาพที่มีเพศสัมพันธ์กันไปให้เพื่อน และน้องสาวของผู้เสียหาย  และในวันเดียวกันคลิปดังกล่าวก็ถูกโพสต์ลงในทวิตเตอร์ ผ่านโปรไฟล์ อวตาร  พร้อมเบอร์โทรศัพท์ของตนเอง และบอกว่าใครอยากมีเพศสัมพันธ์ให้โทรหาเบอร์ดังกล่าว จนมีคนติดต่อมาหาตนหลายคน  ทำให้ตกใจมาก เพราะไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีการแอบถ่ายคลิปของคนเองไว้ ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2564 จึงไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด ดำเนินคดีในฐานความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ  ซึ่งคดีอยู่ในชั้นการพิจารณาของอัยการ ซึ่งล่าสุดพนักงานอัยการได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวน ทำการสอบสวนเพิ่มเติมในบางประเด็น

ขณะที่การดำเนินการทางด้านวินัย ยังไม่ทีความคืบหน้า วันนี้จึงมาร้องทุกข์กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งเป็นต้นสังกัด เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรม และดำเนินการทางวินัยกับสิบตำรวจตรีนายนึ้ด้วย ซึ่งได้มีตัวแทนจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลมารับเรื่องร้องทุกข์ พร้อมเปิดเผยว่าจะส่งเรื่องไปยังต้นสังกัด เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย