กรมศุลกากรจับกุมชายสัญชาติอเมริกา ซุกซ่อนเฮโรอีนในขวดน้ำหอม น้ำหนัก 1,100 กรัม มูลค่า 3.3 ล้านบาท

กรมศุลกากรจับกุมชายสัญชาติอเมริกา ซุกซ่อนเฮโรอีนในขวดน้ำหอม  น้ำหนัก 1,100 กรัม มูลค่า 3.3 ล้านบาท





ad1

กรมศุลกากรจับกุมชายสัญชาติอเมริกา ซุกซ่อนเฮโรอีนในขวดน้ำหอม
น้ำหนัก 1,100 กรัม มูลค่า 3.3 ล้านบาท

กรมศุลกากรจับกุมชายสัญชาติอเมริกา ซุกซ่อนเฮโรอีนในขวดน้ำหอม น้ำหนัก 1,100 กรัม มูลค่า 3.3 ล้านบาท ณ สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

วันนี้ (16 กุมภาพันธ์ 2567) นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหาร
การจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายเดินหน้าปราบปรามยาเสพติดทั้งการผลิต การนำเข้า การนำผ่าน และการลักลอบจำหน่าย โดยสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันเพื่อปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มงวดและเร่งด่วนนั้น เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายธีรัชย์ อัตนวานิช
อธิบดีกรมศุลกากร จึงให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าระวังการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติด ซึ่งปัจจุบันผู้กระทำความผิดมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนวิธีการลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดหลากหลายรูปแบบและลดปริมาณให้น้อยลง เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ให้ได้มากที่สุด

จากการวิเคราะห์ข้อมูลของสถิติการจับกุมยาเสพติดทางอากาศยานในช่วงที่ผ่านมา ตามโครงการ
สกัดกั้นยาเสพติดทางท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) หรือ หน่วยสกัดกั้นยาเสพติด
ทางท่าอากาศยานนานาชาติ ที่เป็นการบูรณาการของกรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ศูนย์รักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย จึงได้เฝ้าระวัง


การลักลอบนำเข้าและส่งออกยาเสพติดทุกรูปแบบ อาทิ ซุกซ่อนมากับพัสดุไปรษณีย์ หรือซุกซ่อนมากับผู้โดยสาร
ที่เดินทางเข้ามาและออกไปนอกประเทศ โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 กรมศุลกากร โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองสืบสวนและปราบปราม
ได้ตรวจพบผู้โดยสารชาย สัญชาติอเมริกา ที่มีความเสี่ยงในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร เดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ปลายทางท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย จึงขอเข้าตรวจค้น ผลปรากฏว่า พบยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ 1 เฮโรอีน ซุกซ่อนอยู่ในขวดน้ำหอม
ภายในกระเป๋าสัมภาระ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม ประมาณ 1,100 กรัม มูลค่ากว่า 3,300,000 บาท โดยชุดปฏิบัติการ AITF จะดำเนินการขยายผลต่อไป

โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่ออีกว่า กรณีดังกล่าว เป็นความผิดตามมาตรา 242 และมาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด
สำหรับสถิติการจับกุมยาเสพติด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (1 ตุลาคม 2566 – 15 กุมภาพันธ์ 2567)
มีทั้งหมด 59 ราย มูลค่ารวมประมาณ 342,619,580 บาท