ภาคีชาวไร่ยาสูบ 13 จังหวัด บุกสภาให้กำลังใจรัฐบาลฝ่ามรสุมรอบด้าน ดัน ส.ส. เพื่อไทย ป้องอาชีพชาวไร่ยาสูบ

ภาคีชาวไร่ยาสูบ 13 จังหวัด บุกสภาให้กำลังใจรัฐบาลฝ่ามรสุมรอบด้าน ดัน ส.ส. เพื่อไทย ป้องอาชีพชาวไร่ยาสูบ





Image
ad1

ภาคีชาวไร่ยาสูบ บุกสภาฯ ให้กำลังใจรัฐบาล สู้กับปัญหารอบด้าน วอน รมช.จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ไม่ทอดทิ้งชาวไร่ยาสูบ ดูแลเรื่องใบยาเหลือ พร้อมหนุนคลังฯ ดูแลผลกระทบชาวไร่ยาสูบจากมาตรการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก

นายกิตติทัศน์ ผาทอง ตัวแทนภาคีชาวไร่ยาสูบแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายขจรศักดิ์ เมฆขจร ตัวแทนชาวไร่ยาสูบบ่มเองจังหวัดเชียงใหม่ นำชาวไร่กว่า 100 คน จาก 13 จังหวัด เข้ามอบดอกไม้และให้กำลังใจนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภาฯ เนื่องจากชาวไร่ได้รับผลกระทบจากใบยาตกค้างที่ยังไม่ได้รับการรับซื้อแม้หมดฤดูเพาะปลูกแล้ว

“เราชื่นชมและสนับสนุนรัฐบาลที่พยายามแก้ไขสถานการณ์เศรษฐกิจและความท้าทายต่าง ๆ ทั้งจากผลกระทบระหว่างประเทศ สงคราม และความไม่แน่นอน เราขอเป็นกำลังใจให้รัฐบาลเดินหน้าดูแลประชาชนและผลประโยชน์ของชาติ รวมถึงการรักษาอาชีพการทำยาสูบ รวมถึงการดูแลเรื่องการรับซื้อใบยาที่ยังคงเหลือเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร” นายกิตติทัศน์กล่าว

“ทุกวันนี้ชาวไร่มีความเดือดร้อน และประกอบอาชีพอย่างยากลำบากมากพอแล้ว ทั้งจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วมที่มาเร็วและหนักหนาขึ้นทุกปี และสภาพอุตสาหกรรมก็หดตัวลงอย่างหนักเพราะบุหรี่เถื่อนที่โตขึ้นและบุหรี่ไฟฟ้าที่มาแย่งตลาด อีกทั้งปีนี้ยังมีเรื่องใบยาตกค้างเป็นจำนวนมาก ชาวไร่ลงทุนไปแล้ว แต่ไม่สามารถขายได้ ทำให้ต้นทุนจม จนต้องมาขอความช่วยเหลือจากการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.) ให้ช่วยรับซื้อ”

จากการพบกับตัวแทนภาครัฐในวันนี้ นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า “ขอขอบคุณท่าน รมช. คลัง จุลพันธ์ที่รับฟังความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบและช่วยเหลือดูแล หาทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมมาโดยตลอด” ด้านนายอรุณ โปธิตา ตัวแทนชาวไร่ยาสูบบ่มเองจากจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวขอบคุณไปยังการยาสูบแห่งประเทศไทยที่รับฟังปัญหาและรับปากว่าจะช่วยซื้อใบยาที่เหลือจากชาวไร่เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ชาวไร่ยาสูบระบุว่า ปีนี้ จะมีการประชุมกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC- COP) ครั้งที่ 11 ที่มักจะตามมาด้วยนโยบายสุดโต่ง เช่น การเสนอให้ชาวไร่เลิกทำยาสูบและไปปลูกพืชอื่นทดแทน หรือการจะให้ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ผลิตเช่น ยสท. เพราะทุกครั้งมีแต่ตัวแทนจากฝ่ายสาธารณสุขไปเข้าร่วมประชุม และกำหนดจุดยืนของประเทศไทยเพียงลำพังโดยขาดความโปร่งใสและการมีส่วนร่วมจากกระทรวงการคลัง     ทำให้ชาวไร่ต่างกังวลกันว่าจะกลายเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนที่มีอยู่แล้วให้แย่ลงไปกว่าเดิมอีก

ทั้งนี้ ชาวไร่ยาสูบได้เรียกร้องให้มีตัวแทนจากกระทรวงการคลังเข้าร่วมการประชุมการประชุมกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก (WHO FCTC - COP) ครั้งที่ 11 ในเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้ด้วย และขอให้กระทรวงการคลังได้มีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็น กำหนดท่าทีของประเทศไทยก่อนการไปประชุม โดยคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดนโยบายสุดโต่ง ที่จะมาซ้ำเติมความเดือดร้อนของชาวไร่อีก  

ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังเผยภายหลังการพูดคุยกับกลุ่มชาวไร่ว่า “กระทรวงฯ จะพิจารณาส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมอย่างแน่นอน เพราะได้รับทราบแล้วว่าผลของการประชุมจะส่งผลกระทบกับ ยสท. และชาวไร่ยาสูบ”