ผวาหนักช้างเขาอ่างฤาไนยกโขลงบุกยึดสวนพืชไร่ปราจีนฯพังพินาศ

ผวาหนักช้างเขาอ่างฤาไนยกโขลงบุกยึดสวนพืชไร่ปราจีนฯพังพินาศ





ad1

ปราจีนบุรี –บนเขาอากาศหนาว-แล้งช้างป่าเขาอ่างฤาไน ยกโขลงมาไกลจากแปดริ้วกว่า 130 ตัว ไล่ไม่กลับถิ่นเดิมติดใจไร่อ้อย,มันสำปะหลัง,สัปปะรด,นาข้าวที่กำลังเก็บเกี่ยว ที่ปราจีนบุรี ส่วนกลางคืนพบช้างป่ากำลังตกมัน คืนนี้จะได้ผลักดันกลับผืนป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน  ในป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทย พื้นที่ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก(จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี)  อีกรอบพบปัญหาใหญ่ชาวแปดริ้วจุดปะทัดยักษ์-ตั้งกำแพงรถเพื่อการเกษตรสกัดหวั่นบานปลายคนขัดแย้งคน

เมื่อวันที่  4 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานได้รับแจ้งจากอาสาสมัครชุดเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า    ที่บ้านคลองยางหมู่ที่ 11 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ในพื้นที่ป่าสะเดา บนเนื้อที่มากว่า 700 ไร่เศษ  (ที่ดินสัมทานกรมป่าไม้เดิม)  องค์การบริหารส่วนท้องถิ่นเขาไม้แก้ว (อบต. ) และ องค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้าง (อบต.) อ.กบินทร์บุรี  จ0ปราจีนบุรี   ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา (ในพื้นที่ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก(จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี)    ได้บูรราการร่วมกันผลักดันโขลงช้างป่าที่อพยพข้ามฝั่งจาก จ.ฉะเชิงเทรา ขามฝั่งเข้ามาหากิน   ในป่าอ้อยของเกษตรกร

โดยเจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังเป็น 3 ชุด ประกอบด้วย  ทีมบล็อกพื้นที่โขลงช้างป่า,ทีม เดินเท้าและใช้รถกระบะ -รถไถเพื่อการเกษตรผลักดัน-ติดตาม  และใช้โดรนความร้อนบินสำรวจ  เพื่อค้นหาติดตามตำแหน่งโขลงช้างป่า ซึ่งช้างป่าจำนวนมากกว่า  130 กว่าตัว(+)  หากินอยู่ในป่าอ้อย   ของชาวบ้าน  

 ขณะ  ที่เจ้าหน้าที่จุดประทัดผลักดัน เพื่อให้ช้างป่าออกจากพื้นที่  พบว่าโขลงช้างป่าได้แตกโขลงเป็น 2 โขลงใหญ่ พื้นที่แรกมุ่งหน้าไปบ้านคลองตามั่น ต.เขาไม้แก้ว  พื้นที่ 2 มุ่งหนาไปบ้านเนินจินดาและบ้านโคกไม้แดง ต.วังท่าช้าง  และ พบว่ามีช้างเพศผู้กำลังตกมัน 2 ตัว หากิน-คุมขบวนอยู่ท้ายโขลง

ส่วนการผลักดันช้างป่าได้เข้าไปอยู่ในป่ายูคาลิปตัส และ  แยกตัวออกจากฝูงใหญ่เป็น3กลุ่ม  ดังกล่าวข้างต้น    และย้อนกลับมายังที่จุดเดิมในพื้นที่ป่าสะเดา บนเนื้อที่มากว่า 700 ไร่เศษ

เจ้าหน้าที่พยายามผลักดันออกจากพื้นที่แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ   เนื่องจากช้างป่าตัวใหญ่  อ้อมไปทางด้านหลังของเจ้าหน้าที่ เกรงว่าช้างอาจชาร์ทได้    และพบว่า ในฝั่งตรงข้ามคือพื้นที่แถบหมู่บ้านห้วยกระโดด และ หม่บ้านหนองใหญ่ ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชันเขต จ.ฉะเชิงเทรา เขตรอยต่อกับ จ.ปราจีนบุรี  ได้มีการบล็อกพื้นที่ป้องกันไม่ให้โขลงช้างป่าหวนกลับ  เนื่องจากเกรงทำลายพื้นที่การเกษตรของตนที่เป็นทางผ่าน  ดยการจุดปะทัดยักษ์สกัด และยังนำยวดยานทางการเกษตรอาทิ รถพ่วง,รถไถ รถสิบล้อมาขวางทางผ่านโขลงช้างป่า    เจ้าหน้าที่จึงยุติการค้นหาเพื่อความปลอดภัย

ป้าสายรุ้ง สุทธิโต อายุ 47 ปี ชาวบ้านบ้านคลองยางกล่าวว่าได้ยินเสียงช้างร้องอยู่หลังบ้านหลายวันแล้ว ด้วยความกลัวจึงใช้เชือกขึงบริเวณหน้าบ้านซึ่งติดกับถนน ซึ่งเป็นทางผ่านของช้างป่าที่เคยผ่านหน้าบ้านเมื่อ 2 ปีติดต่อกันที่ผ่านมา กลัวช้างมากเพราะอยู่บ้านคนเดียวนอนตี 2 ทุกคืน

นายอุเทน ฉายาพัด เจ้าพนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปฏิบัติงาน(ปภ.)อบต.เขาไม้แก้วกล่าวว่า นายประยูร สมโภช นายกอบต.เขาไม้แก้ว สั่งให้ออกมาเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าที่มาหากินอยู่ในพื้นที่ ซึ่งได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีช้างป่ามาหากินอยู่ในป่าอ้อยมากกว่า 100 ตัว (+)  ทำให้พืชผลการเกษตรของชาวบ้านได้รับความเสียหาย

 จึงจัดเจ้าหน้าที่ร่วมกับกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านร่วมกับเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ฯและชุดผลักดันอบต.วังท่าช้าง ร่วมกันผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ แต่ก็ไม่สามารถผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากช้างแตกฝูงแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มย่อย และมีช้างตัวใหญ่คุมหลังอยู่ 2 ตัว ฝูงช้างป่าออกจากป่าอ้อยกระจายไปอยู่ในป่ายูคาลิปตัส เจ้าหน้าที่จึงยุติการผลักดันเนื่องจากทราบว่า ฝูงช้างป่าอีก 30 ตัว เข้ามาหาฝูงใหญ่ จึงยุติการค้นหาเมื่อกลางดึก   เวลา 22:00 น.

นายสุนทร คมคาย จิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่ากล่าวว่า พบว่าโขลงช้างป่าเข้ามาหากินในพื้นที่ร้อยกว่าตัว จึงได้ร่วมกับชุดผลักดันช้างป่าวังท่าช้าง  และเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่ก็ไม่สามารถผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่ได้เนื่องจาก การผลักดันของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ได้ผลักดันช้างกลับไปกลับมา เพราะไม่อยากให้ฝูงช้างกัดกินและทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้าน

 การทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันขาดการประสานงานจากผู้บังคับบัญชาระดับสูง ทั้งระดับอำเภอและผู้ว่าฯใน 2 จังหวัด   อยากให้ทางอำเภอและจังหวัด เข้ามาช่วยเหลือทางเจ้าหน้าที่ระดับล่างด้วย  เมื่อ 3วันที่ผ่านมาได้ร่วมกันผลักดันมาแล้วก่อนหน้า   และในคืนนี้จะร่วมกันผลักดันต่อไป

โดย...มานิตย์  สนับบุญ-ข่าว/ทองสุข  สิงห์พิมพ์ - ภาพ   / ปราจีนบุรี