ระทึก!ช้างป่ารำคาญเสียงหมา 2 ตัวรุมเห่าไล่แตะวิ่งหนีหางจุกตูด-ยายหวิดทำร้ายกลางป่า

ระทึก!ช้างป่ารำคาญเสียงหมา 2 ตัวรุมเห่าไล่แตะวิ่งหนีหางจุกตูด-ยายหวิดทำร้ายกลางป่า





ad1


เมื่อวันที่  4 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีรายงานว่าได้รับแจ้ง ที่หมู่บ้านวังกวาง ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งมีโขลงช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา  (ในป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา,จ.สระแก้ว,จ.จันทบุรี,จ.ระยอง และ จ.ชลบุรี)   รวมจำนวนมากกว่า130 ตัว  (+)  อพยพข้ามถิ่นมาหากิน  ในป่าไร่อ้อยในพื้นที่รอยต่อกับ ต.เขาไม้แก้ว  อ.กบินทร์บุรี ย่านป่าสะเดา เนื้อที่มากกว่า 800 ไร่เศษ    ชุดผลักดันได้ผลักดันช้างออกจากพื้นที่ตั้งแต่เมื่อคืนแต่ไม่สามารถผลักดันออกไปได้โขลงช้างป่าได้หลบอยู่ในป่าอ้อย   และมีอาการโกรธ-เครียด  ไล่เตะน้องหมาของ 2 ตัว  ขณะที่ ยายพากันขับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างออกจากบ้านกำลังจะไปช่วยญาติตัดต้นมันสำปะหลัง  ขณะนั้นเกิดพลัดหลงเส้นทาง จึงพากันเดินเท้าเพื่อที่จะไปช่วยญาติตัดต้นมันสำปะหลังต่ออีก  พร้อมกับน้องหมา 2 ตัว

ขณะนั้นน้องหมาสีแดงวิ่งออกหน้าไป ทันใดนั้นได้ยินเสียงหมาเห่า   แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จู่ๆได้ยินเสียงช้างป่าส่งเสียงร้องลั่นและเห็นช้างวิ่งไล่เตะน้องหมาสองตัว    ด้วยความกลัวน้องหมาจึงวิ่งกลับมาหาเจ้าของ หวังให้ช่วย     ขณะนั้นเห็นช้างวิ่งตรงมาด้วยความกลัว   จึงพากันนอนราบกับพื้นอยู่ในป่าหญ้า    ด้วยความกลัวช้างจะวิ่งมาทำร้าย    ทั้งสองนอนอยู่ในป่าหญ้านานกว่าครึ่งชั่วโมง   หลังจากที่ช้างป่าหันหลังเดินกลับไป   จึงได้โทรศัพท์แจ้งผู้ใหญ่บ้าน ให้มาช่วยเหลือนำออกจากป่ากลับบ้าน

นางพิชณัฏ มีภาค ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.11ต.วังท่าช้าง กล่าวว่า     ได้รับโทรศัพท์จากคุณยาย   ซึ่งเป็นลูกบ้านของหมู่ที่ 4 ซึ่งอยู่ติดกัน โทรมาแจ้งว่า   ให้เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างมาช่วยออกจากป่าหนีช้างด้วย

 โดยคุณยายทั้งสองซึ่งเป็นผู้สูงวัยจะไปช่วยญาติตัดต้นมันสำปะหลัง    ซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้าน    โดยขับรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง มีน้องหมาไปด้วย 2 ตัว   ระหว่างทางเกิดหลงทางหาทางเข้าสวนมันสำปะหลังญาติไม่เจอ

 จึงจอดรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างไว้แล้วเดินเท้าเข้าไปแทน    ระหว่างนั้นได้ยินเสียงหมาเห่าอยู่ข้างหน้า และพากันวิ่งกลับมาหา  มองเห็นช้างส่งเสียงร้องพร้อม ๆ กันมันยังวิ่งไล่เตะหมาในระยะ 10 เมตร ด้วยความกลัว2ยายจึงพากันนอนหมอบลงกับพื้น   ซึ่งมีหญ้าเป็นที่หลบซ่อน    ตอนนั้นจำอะไรไม่ได้   สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จากนั้นช้างเดินกลับไป เมื่อตั้งสติได้จึงโทรแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านซึ่งรู้จักกันให้ส่งคนมารับออกจากป่าเพื่อกลับบ้าน

นายอภิชาติ ไชยสงค์เมือง จิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่ากล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน จึงเข้าไปในป่ายูคาลิปตัสอยู่ท้ายหมู่บ้าน   ได้เรียกหาเพื่อนบ้านสูงวัยทั้งสองคนอยู่นาน และได้ยินเสียงตอบรับในเวลาต่อมา  ซึ่งยายทั้งสองนอนอยู่กับพื้นในป่าหญ้าบางๆ จากนั้นพากันเดินออกมาและกลับบ้านด้วยความปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อหาคุณยายทั้งสอง ชื่อนายนกกับยายน้อย   แต่คุณยายทั้งสองปฏิเสธให้สัมภาษณ์   ทั้งสองเป็นชาวบ้านหมู่ที่ 4 บ้านวังมะกรูด  ต.วังท่าช้าง  อ.กบินทร์บุรี  ซึ่งอยู่ติดกันและไม่บอกชื่อนามสกุลจริง   เกรงว่าลูกๆจะต่อว่าออกจากบ้านทำไม เดินจะไม่ไหวอยู่แล้ว   ให้อยู่บ้านเฉยๆ

 แต่ด้วยความขยันตามประสาคนสูงวัยอยากจะออกไปช่วยลูกหลานในสวนบ้าน แต่เกิดเจอช้างระหว่างทางซึ่งเป็นวินาทีเป็นวินาทีตายเสียก่อน ซึ่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็ไม่กล้าบอกชื่อนามสกุล เพราะคุณยายทั้งสองกลัวลูกๆจะดุด่าที่พากันออกจากบ้านหวิดที่จะถูกช้างทำร้าย

ขณะที่นายศุภชัยวัฒน์  หรือ ต้อม   อินทร์จันทร์  อายุ 36   ปี เลขที่ 69 หมู่ 1 ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า  ขณะกำลังขับขี่รถลงจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อกลับบ้าน จ.ปราจีนบุรี   มาตามถนนสาย3077 หรือ สายอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ –ปราจีนบุรี) ขับขี่ประมาณด่านตามแมว  พบช้าง 2 แม่ลูกเดินข้ามฝั่งถนนออกมาจากราวป่า

พบแม่ช้างมีอาการเครียด หูกาง หางชี้  คาดว่าหวงลูก เนื่องจากในขณะนั้น นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่กำลังลงจากเขา  และ  ส่วนหนึ่งพากันรุมถ่ายรูป  ฝากถึง นทท.เกรงอาจเกิดอันตรายได้ ฝึกเตือนภัยให้ระมัดระวังด้วยช่วงท่องเที่ยวนี้

โดย...มานิตย์  สนับบุญ –ข่าว/ทองสุข  สิงห์พิมพ์ /ศุภชัยวัฒน์   อินทร์จันทร์  -   ภาพ  /  ปราจีนบุรี