กลุ่มสนับสนุน “นายพิธา” เป็นนายกรัฐมนตรี อ่านจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องเคารพประชาธิปไตย

กลุ่มสนับสนุน “นายพิธา” เป็นนายกรัฐมนตรี อ่านจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องเคารพประชาธิปไตย





ad1

เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น.วันที่ 12  กรกฎาคม 2566 ที่สวนสาธารณะเทศบาลเมืองพัทลุง อ.เมือง ต.พัทลุง ได้มีกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกล จ.พัทลุง ใช้ชื่อว่า“ประชาชนผู้ทรงอำนาจ จังหวัดพัทลุง” ได้จัดกิจกรรมแสดงเจตจำนงคนเมืองลุง  เพื่อให้มีการรับรองนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 โดยมีสนับสนุพรรคก้าวไกลมมาร่วมกิจกรรม และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประมา 50 คน โดยกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลได้หมุนเวียนแสดงแนวคิดกันอย่างหลากหลาย

นายชาญชัย สุวรรณภักดี อดีต สจ.พัทลุง เขต อ.ป่าพะยอม สนับสนุนพรรคก้าวไกล กล่าวในตอนหนึ่งว่า ในวันนี้นายพิธา กำลังมัดมือและถูกนำเข้าสู่หลักประหารทางการเมือง คะแนนเสียง 14 ล้านเสียง ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ความเจริญได้ คนไทยตกอยู่ภายใต้การครอบงำของผู้ถือกฎหมาย

คนไทยตกอยู่ในความกลัวนี่คือสิ่งเลวร้ายที่ไม่สามารถนำประเทศเดินไปข้างหน้าได้ แต่คนหนุ่มสาวและชาวไทยจำนวน 14 ล้านเสียงเขาไม่กลัวกันแล้ว

สำหรับพรรคก้าวไกลนั้นยังถูกยัดเยียดข้อหาหนักๆ ถึง4  ข้อหา  ซึ่งประกอบด้วย การแก้ไขมาตรา 112 แบ่งแยกดินแดน ปฏิรูปล้มล้างการปกครอง และการถือหุ้นไอทีวี  ซึ่งเป็นข้อหาที่หนักแต่ไร้สาระทั้งสิ้น ดังนั้นตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ผู้ที่รักความเป็นธรรมโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวจะต้องออกมาตะโกนให้ดังว่า “กูไม่กลัวมึง ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”

ขณะเดียวกันนางสาวปวชิญา นิลพันธ์ อายุ 25 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่ง เป็นตัวแทนกลุ่มสนับสนุน อ่านจดหมายเปิดผนึก คำประกาศ ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงถึงสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา วันที่ 13 กรกฎาคม  2566 โหวด พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งกลุ่มสนับสนุนอยากฝากไปถึงผู้แทนราษฎร ขอบคุณที่ท่านจะทำหน้าที่แทนพวกเราในการเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ที่ชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

และฝากถึงวุฒิสภาด้วยความเคารพทั้ง 250 ท่าน ท่านคือสติ ท่านคือปัญญา ที่ไม่ใช่ปัญหาของพวกเราและสังคม และท่านต้องพึงกระทำเป็นผู้ยินดีในระบอบประชาธิปไตย ในขณะนี้นำทางประชาธิปไตยนี้เพื่อเปลี่ยนประวัดิศาสตร์ทางการเมืองในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้  โปรดได้ยินเสียงของพวกเราและพลัง 8 พรรค การสนับสนุน 312 เสียง และอีก 27 ล้านเสียง.

โดย...อัสวิน ภักฆวรรณ