BRN ออกแถลงเรียกร้องกำลังหยุดเคลื่อนไหวลดความรุนแรงตามมติถกสันติสุข

BRN ออกแถลงชี้แจงเครือข่ายองค์กรพุทธฯกรณีเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่หลังจากพูดคุยสันติสุขในห้วงวันที่1- ในการลดความรุนแรง พร้อมขอความร่วมมือกองกำลังภาคประชาชนชาวมลายูพุทธห้ามลาดตระเวนในพื้นที่ของชาวมลายูมุสลิมหวั่นเกรงว่าจะสำคัญผิดว่าเป็นกองกำลังรัฐไทย

วันนี้(5สค.65)ผู้สื่อข่าวรายงาน กรณีแถลงการณ์เครือข่ายกลุ่มเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ ลงวันที่4สิงหาคม65 หลังเกิดเหตุรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ผ่านมา ภายหลังจากมีการพูดคุยสันติสุข เมื่อวันที่1-2สิงหาคม65ที่ผ่านมา  โดยเครือข่ายพุทธเพื่อสันติภาพฯเรียกร้องให้ยุติใช้ความรุนแรง หันมาใช้เวทีพูดคุยหาทางออกโดยสันติวิธี ไม่ใช้ความรุนแรง เพราะการใช้ความรุนแรง เพราะการใช้ความรุนแรงไม่สามารถทำให้ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงสังคมโลกยอมรับได้

เครือข่ายกลุ่มพุทธเพื่อสันติภาพฯได้ยอมรับโดยอ้างคำพูดของนายเจ๊ะมูดอ เจ๊ะเต๊ะ ตัวแทนขบวนการปฏิวัติแห่งชาติมลายูปาตานีBRN ที่กล่าวสดในรายการสนทนาผ่านMITTINGZOOMเมื่อวันที่25มิถุนายน65ที่ผ่านมาที่มีเนื้อหาสำคัญตอนหนึ่งว่า ”ประชาชาติมลายูปาตานีที่ถูกยึดครองหลังปี 1909 ซึ่งรวมทั้งกลุ่มชาติอื่นๆที่อาศัยอยู่ในปาตานี ณ ห้วงเวลาดังกล่าวทั้งพุทธ จีน และอื่นๆ ที่ต่างประสบชะตาเดียวกันกับชาวปาตานี

ดังนั้น ณ วันนี้เราคือก็คือชนชาติมลายูหรือที่ถูกยึดครอง และล่าสุดมีการประชุมร่วมกันของคณะพูดคุยสันติของรัฐบาลไทยกับผู้แทนกลุ่มBRNมีการตกลงร่วมกันถึงการลดเหตุความรุนแรง เพาอเอื้อต่อการเดินหน้าพูดคุยสันติสุขในระยะต่อไป”
 ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี เพื่อไม่ให้มีเหตุรุนแรง ประชาชนเริ่มมีความหวัง แต่เมื่อวันพุธที่3สิงหาคม65 ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มบุคคลหรือขบวนการที่ไม่อาจทราบได้ก่อเหตุโดยใช้อาวุธปืนยิงราษฎรพุทธหาของป่าเสียชีวิต2รายที่บ้านลาแลลูรัส ม.3 ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ส่งผลต่อความไว้เนื้อเชื่อใจ ต่อกระบวนการพูดคุย และการลดความรุนแรง รวมถึงเกิดความหวาดระแวงของคนในพื้นที่ นำสู่ภาวะตั้งต้นและติดลบอกครั้ง

ล่าสุดเช้าวันนี้5สิงหาคม65 BRN ได้แถลงชี้แจงกรณีเครือข่ายกลุ่มพุทธเพื่อสันติภาพชายแดนใต้ผ่านในเพคและเฟสบุ๊กส์BRNต่อกรณีดังกล่าวดังนี้ ขอความร่วมมือ #หน่วยกำลังภาคประชาชนงดเว้นล่าสัตว์หรือลาดตระเวนในพื้นที่ชาวมลายูมุสลิมเนื่องจากตามความร่วมมือระหว่างรัฐไทยและBRNเมื่อวันที่ 1-2 สิงหาคม 2565 ได้มีการนำเสนอและชี้แจงในประเด็นลดความรุนแรงที่ผ่านมา 

#ซึ่งกองกำลังBRNปฏิบัติตามมาโดยตลอดนับตั้งแต่มีข้อตกลง_40_รอมฎอนนับตั้งแต่มีข้อตกลงดังกล่าว

#แม้ทางรัฐไทยยังคงอ้างการบังคับใช้กฎหมายต่อกองกำลังBRNที่พำนักในที่ตั้งก็ตาม อีกทั้งยังเพิ่มระยะเวลา 60 วันฝ่ายเดียว เพื่อใช้เป็นเหตุผลทางการเมือง ปัจจุบันกองกำลังของรัฐไทยหรือตัวแทนพูดคุยยังคงย้ำถึง #สุญญากาศทางการเมืองเพื่อเปิดทางให้กองกำลังในพื้นที่บังคับใช้กฎหมายต่อกองกำลังBRN

ในการนี้กองกำลังBRNในพื้นที่ #ขอความร่วมมือกองกำลังภาคประชาชนชาวมลายูพุทธห้ามลาดตระเวนในพื้นที่ของชาวมลายูมุสลิม
เนื่องจากทางกองกำลังBRN #หวั่นเกรงว่าจะสำคัญผิดว่าเป็นกองกำลังรัฐไทย 

จึงนำเรียนเพื่อของความร่วมมือและปฏิบัติตาม

BRN