ตำรวจทองหล่อแจ้ง 5 ข้อหาหนัก เก๋งแดงหนีตรวจค้น ด้านพี่สาวเสียใจน้องชายหนีไม่พ้นวังวนยาเสพติด

ความคืบหน้ากรณีที่ ตำรวจสายตรวจ สน.ทองหล่อ ยิงสกัดรถเก๋งสีแดง บริเวณแยกประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง เมื่อคืนวันที่ 23 กรกฏาคมที่ผ่านมา หลังชายคนขับแสดงท่าทางมีพิรุธ และไม่ยอมให้ตรวจค้น ก่อนจะพยายามหลบหนี ทำให้ตำรวจตัดสินใจยิงสกัดยางรถ แต่ผู้ต้องสงสัยกลับขับรถหนีไปได้ แล้วจอดทิ้งไว้ห่างจาดจุดเกิดประมาณ 2 กิโลเมตร โดยในรถพบ ไอซ์ 2.77 กรัม และมีดดาบ 2 เล่ม

ซึ่งต่อมา ตำรวจจับกุมคนขับรถดังกล่าวได้แล้ว ก่อนควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สน.ทองหล่อ จากนั้นได้ควบคุมตัวไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยพันตำรวจเอก ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผู้กำกับการ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุขับรถยนต์หลบหนีจริง เพราะเกิดความกลัวว่าจะถูกตรวจค้นจับกุม เนื่องจากเพิ่งจะเสพยาเสพติดมาและมียาเสพติดอยู่ภายในรถด้วย อีกทั้งก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคย ถูกจับกุมคดียาเสพติดมา 2 ครั้ง ในปี 2551 และ 2560 ในคดีครอบครองเพื่อเสพ และครอบครองเพื่อจำหน่าย ส่วนรถยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุนั้น พบว่าเป็นรถยนต์ของคนที่มาจำนำกับผู้ต้องหา และเมื่อสอบถามว่าเหตุใดต้องขับไปที่สามเหลี่ยมดินแดงทำไม ก็เพราะผู้ต้องหาตกใจเลยขับหลบหนีไปเรื่อยๆ แต่เมื่อไปถึงที่จุดจอดทิ้งรถ ก็ไปซ่อนตัวและโทรศัพท์ให้เพื่อนออกมารับตัวกลบหนี และก่อนหน้าที่จะมาถึงด่านตรวจนั้น ผู้ต้องหาบอกว่าไปซื้อยามาเสพเองคนเดียว และตั้งใจจะออกไปหาเพื่อน ส่วนรถยนต์ของกลางที่เสียหายนั้น ผู้ต้องหาต้องรับผิดเอง และหลังจากนี้จะต้องขยายผลเพราะประวัติผู้ต้องหามีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดในย่านคลองตัน

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้ง 5 ข้อหา ครอบครองยาเสพติด ประเภท1 (ไอซ์), พกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, ต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน และทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้ควบคุมตัวก็หาไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติด อย่างไรก็ตาม มีพี่สาวและเพื่อนได้มาเยี่ยม ผู้ต้องหาที่ สน. ทองหล่อ ซึ่งพี่สาวของผู้ต้องหา เล่าว่า รู้สึกตกใจมากที่รู้ข่าวว่าน้องชายเป็นผู้ก่อเหตุตามที่ข่าวปรากฎ และจากที่เข้าไปเยี่ยมก็ได้พูดคุยกันเพียงเล็กน้อย มีความเครียดอยู่บ้าง ก่อนหน้านี้ ได้ออกรถจักรยานยนต์เพื่อให้ไปขับวินจักรยานยนต์รับจ้างที่ซอยเอกมัย 30 แยก 2 เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว พร้อมกับยอมรับว่าที่ผ่านมาผู้ต้องหาเคย ถูกจับกุมคดียาเสพติด ซึ่งก็ได้ตักเตือนว่าอย่าไปยุ่งเกี่ยวอีก จนกระทั่งมาถูกจับกุมครั้งนี้จึงรู้สึกเสียใจที่ยังไม่ถอนตัวออกมา.