รบเดือด!เครื่องบินเมียนมาทิ้งระเบิดถล่มบ้านเรือนเสียหายยับเยิน


ชายแดน ยังสู้รบหนัก - ทหารเมียนมาร่วมกับอาสาสมัครพม่าทหารปาโอ กลุ่ม PNO บุกเข้าสู้รบกับกลุ่ม KNDF และ PNLA (ปาโอฝ่ายต่อต้านรัฐบาล) ในเมืองแผ่โข่ง หรือฝายขุ่น เขต จ.สี่แส่ง รัฐฉานติดกับรัฐคาเรนนี มีการสู้รบอย่างหนักขณะที่เครื่องบินของเมียนมาถล่มบ้านเรือนราษฎรเสียหายยับเยิน
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2568 แหล่งผู้นำระดับสูงของกองทัพกะเหรี่ยงคาเรนนี KA กล่าวถึงสถานการณ์ ชายแดนไทย-เมียนมา ถึงการสู้รบในพื้นที่เมืองแผ่โข่ง / ฝายขุ่น เขต จังหวัดสี่แสง รัฐฉานที่ติดกับรัฐคาเรนนี / รัฐคะยาห์ โดยทหารเมียนมาจำนวนหลายกองพัน ได้เสริมกำลังพร้อมกับอาสาสมัครปาโอกลุ่ม PNO รวมกำลังประมาณ 1,000 นาย บุกเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวข้างต้น ซึ่งมีกองกำลังของ กองทัพป้องกันแห่งชาติคาเรนนี KNDF ที่สนธิกำลังกับ กลุ่มปาโอ PNLA ที่มี พ.อ.ตูเหร่ง เป็นผู้นำ เคลื่อนไหวในพื้นที่ดังกล่าว
โดยทหารเมียนมาร่วมกับอาสาสมัครปาโอกลุ่ม PNO ได้สู้รบกับกองกำลัง KNDF และ โอ PNLA อย่างหนักหน่วง ซึ่งในขณะที่มีการสู้รบกันอยู่นั้น ทางด้านกองทัพอากาศเมียนมา ได้ส่งเครื่องบินรบมาทิ้งระเบิดตกใส่บ้านเรือนและวัด ทำให้เกิดไฟไหม้ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง การปะทะกันเกิดขึ้นในหมู่บ้านริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำแผ่โข่งหรือฝายขุ่น
การสู้รบดังกล่าวทำให้ราษฎรชาวปาโอและไทยใหญ่ จำนวนไม่ต่ำกว่า 15,000 คน ต้องหลบหนีออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยกว่า
รายงานข่าวแจ้งว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ด้านจังหวัดตาก กองกำลังกะเหรี่ยง KNU ยึดค่ายทีกาเปอร์สำเร็จ หลังเปิดปฏิบัติการบุกยืดเยื้อนานกว่า 2 สัปดาห์ ควบคุมพื้นที่โดยรอบ พร้อมยึดอาวุธจำนวนมาก | เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 แหล่งข่าวด้านความมั่นคงรายงานว่า กองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (Karen National Union: KNU) ร่วมกับกองกำลัง KNDO (Karen National Defense Organization) และ KTLA (Kawthoolei Army) ได้ปฏิบัติการทางทหารเข้ายึด “ค่ายทีกาเปอร์” ของกองทัพเมียนมาร์ได้สำเร็จ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอวาเล่ใหม่ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมาร์ ตรงข้ามกับบ้านหนองหลวง ตำบลหนองหลวง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
การยึดค่ายทีกาเปอร์ครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของปฏิบัติการรุกคืบของฝ่ายกะเหรี่ยง ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยมีการปะทะอย่างต่อเนื่องระหว่างกองกำลังทั้งสองฝ่าย ท่ามกลางสภาพภูมิประเทศที่ซับซ้อน และการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจากหน่วยความมั่นคงฝั่งไทย
.
แหล่งข่าวระบุว่า หลังปฏิบัติการที่ยืดเยื้อกว่าสองสัปดาห์ กองกำลังของ KNU สามารถเข้าควบคุมค่ายทีกาเปอร์ได้ทั้งหมด พร้อมยึดอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากจากกองทัพเมียนมาร์ ขณะเดียวกันรายงานเบื้องต้นระบุว่า ทหารเมียนมาร์มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขอย่างเป็นทางการจากฝ่ายรัฐบาลเมียนมา
การยึดค่ายทีกาเปอร์ครั้งนี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ของ KNU ที่มุ่งผลักดันกองทัพเมียนมาร์ออกจากพื้นที่แนวชายแดนติดกับประเทศไทย โดยที่ผ่านมา กองกำลังกะเหรี่ยงสามารถยึดค่ายทหารเมียนมาร์ในพื้นที่แนวชายแดนได้แล้วรวมทั้งสิ้น 4 แห่ง ได้แก่
.
1.ฐานคะเนแร – ตรงข้ามบ้านหารผ่านศึก หมู่ที่ 4 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จ.ตาก
2.ค่ายทีบาโบ – ตรงข้ามบ้านหมื่นหรือตำบลพะละ อ.พบพระ จ.ตาก
3.ค่ายบุเรงนอง – ตรงข้ามบ้านพระดี ตำบลวาเล่ห์ อ.พบพระ จ.ตาก
4.ค่ายทีกาเปอร์ – ตรงข้ามบ้านหนองหลวง อ.อุ้มผาง จ.ตาก
.
การเคลื่อนไหวของ KNU และกองกำลังพันธมิตรในระยะหลังสะท้อนให้เห็นถึงความเข้มข้นของสถานการณ์ในรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งมีความเชื่อมโยงโดยตรงกับเสถียรภาพของพื้นที่ชายแดนฝั่งตะวันตกของไทย โดยเฉพาะในจังหวัดตากที่มีพื้นที่ติดต่อกับรัฐกะเหรี่ยงเป็นแนวยาว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลเมียนมาร์ หรือคำตอบโต้จากกองทัพเมียนมาร์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่ทางการไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเรื่องผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดน และการเตรียมความพร้อมรับมือในกรณีที่มีผู้อพยพข้ามแดนเข้ามาในฝั่งไทย
.
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงยุทธศาสตร์ในพื้นที่ชายแดนที่ยืดเยื้อมานานนับปี หลังรัฐประหารในเมียนมาร์ปี 2564 ที่ส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ รวมถึง KNU กลับมาเคลื่อนไหวทางทหารอย่างเข้มข้นอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงยึดมั่นในสิทธิในการปกครองตนเอง