“จุรินทร์” สั่งดูแลราคาไข่ไก่ใกล้ชิด พร้อมตรึงราคาสินค้า ยังไม่อนุญาตให้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปรับขึ้น

“จุรินทร์” สั่งดูแลราคาไข่ไก่ใกล้ชิด พร้อมตรึงราคาสินค้า

“จุรินทร์” สั่งดูแลราคาไข่ไก่ใกล้ชิด พร้อมตรึงราคาสินค้า ยังไม่อนุญาตให้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปรับขึ้น





ad1

05 ส.ค. 2565  นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นราคาไข่ไก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้นราคา ว่า

เรื่องราคาสินค้าสำหรับไข่ไก่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เพราะหน้าร้อนไก่จะไข่น้อยราคาจะสูงขึ้น เมื่อถึงบางช่วงไข่ออกเยอะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ราคาจะเปลี่ยนแปลง โดยก่อนหน้านี้ราคาไข่ปรับลดลงเกษตรกรเริ่มเดือดร้อน แต่ขณะนี้เพิ่มสูงขึ้น

ซึ่งเป็นไปตามสถานการณ์ แต่กระทรวงพาณิชย์จะดูแลโดยใกล้ชิด ซึ่งบางช่วง ถ้าสูงขึ้นมา ก็จะห้ามส่งออก และจะปรับไปตามสถานการณ์ เพราะไข่สามารถปรับตัวได้เร็ว โดยราคาช่วงนี้เมื่อเทียบกับอดีตหลายปีถือว่ากลางๆ

ไม่ใช่ไข่ประยุทธ์หรือไข่นายกฯ จะราคาสูงที่สุด ซึ่งไม่ใช่ ฟองละ 3 บาทกว่า มีปรับขึ้นลงหน้าฟาร์มตามสถานการณ์ฤดูกาลและปริมาณขายแต่ละวัน เพราะวันหนึ่งไข่จะออกประมาณ 39-41 ล้านฟอง

ส่วนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ได้ขอขึ้นราคามาปีกว่าแล้ว ที่ขอขึ้นซองละ 2 บาท จาก 6 บาท เป็น 8 บาท แต่ตนให้พยายามตรึงราคาและดูว่าต้นทุนปรับสูงขึ้นเท่าไหร่ โดยมอบอธิบดีกรมการค้าภายใน ช่วยดูแลลึกในรายละเอียด

ทั้งนี้ เห็นใจทั้งผู้บริโภคและเห็นใจทั้งผู้ผลิตว่า ตึงมาก เพราะต้นทุนสูงขึ้นจริง การขอปรับขึ้นซองละ 2 บาทมากเกินไปหรือไม่ จะเป็นภาระกับผู้บริโภคจนเกินสมควรหรือไม่ นั่นคือ สิ่งที่กรมการค้าภายใน ต้องใช้ดุลยพินิจให้ชัดเจนตามหลักวิชาการ

และนโยบายที่มอบไปให้ปรับจากต้นทุนที่เป็นจริง ลงลึกในการวิเคราะห์รายละเอียด ไม่ใช่เหมารวม แล้วเจรจาเหมือนซื้อขายทั่วไป เพราะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของผู้บริโภคจำนวนมาก อีกทั้งต้องไปดูว่า 2 บาทที่ขึ้นไปเกินสมควรหรือเปล่า

หรือถ้าจำเป็นต้องปรับ เพราะต้นทุนสูงขึ้นจริง พิสูจน์แล้ว เพราะดูตัวเลขควรจะปรับได้แค่ไหน เพื่อให้ผู้บริโภครับภาระน้อยที่สุด และผู้ประกอบการยังอยู่ได้ไม่ขาดทุนจนเลิกผลิต เพราะถ้าเลิกผลิตจากกระทบผู้บริโภคก็จะมีปัญหานอกจากบะหมี่แพง

ก็เป็นไม่มีของบริโภคเป็นปัญหาของขาดตลาด และมีการสำรวจตลาดทุกวันทั่วประเทศ

ส่งรายงานมา และการปรับขึ้นกรมการค้าภายในสรุปเป็นตัวเลขทางสถิติ ซึ่งจะปรับขึ้นให้น้อยที่สุดให้กระทบผู้บริโภคให้น้อยที่สุด ใช้วิน-วิน โมเดลได้ผลประโยชน์อยู่ร่วมกันได้ทั้งสามฝ่าย