สมัชชาคนจนเปิด 7 เวที ชวนพรรคการเมืองฟังเสียงคนจน

วันที่ 26 มี.ค. 65 กลุ่มสมัชชาคนจน นำโดย นายไพฑูรย์ สร้อยสอด โฆษกสมัชชาคนจน พร้อมด้วยเครือข่าย ซึ่งประกอบด้วย สมัชชาคนจน, เครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง, คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคอีสาน, และสำนักข่าว The Reporters ได้จัดงานแถลงข่าวในหัวข้อ "พรรคการเมือง ฟังเสียงคนจน" โดยนายไพฑูรย์ สร้อยสอด โฆษกสมัชชาคนจน ได้เป็นผู้อ่านแถลงการณ์เชิญชวนพรรคการเมืองเข้าร่วมเวทีสัญจร โดยมีเนื้อหาดังนี้ 
.
“ภายหลังการรัฐประหาร 2549 ได้ฉีกรัฐธรรมนูญ 2540 และการรัฐประหาร 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ฉีกรัฐธรรมนูญ 2550 พวกเราพบว่านอกจากรัฐธรรมนูญไม่เชื่อมโยงกับประชาชนเฉกเช่นรัฐธรรมนูญ 2540 แล้ว รัฐธรรมนูญปี 2560 มีปัญหาหลายประการ อาทิ รัฐธรรมนูญฉบับนี้เพิ่มอำนาจให้กับรัฐ ลดทอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ลิดรอนสิทธิการมีส่วนร่วม ไม่เป็นประชาธิปไตย คนจนเข้าไม่ถึงการจัดการทรัพยากรที่เป็นธรรม ถูกลิดรอนสิทธิชุมชน ได้รับผลกระทบจากการพัฒนา การทำหน้าที่ของรัฐไม่ทั่วถึงไม่ครอบคลุมและไม่เป็นธรรม รัฐไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชน รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลางแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้ ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงทุนและปัจจัยการผลิต แรงงานไม่ได้รับการคุ้มครอง ขาดสวัสดิการและอยู่ในภาวะอ่อนแอ ความเหลื่อมล้ำจากกระบวนการยุติธรรม สถานการณ์การเมืองเป็นไปเพื่อให้รัฐมีอำนาจเหนือประชาชน ไม่คุ้มครองคนผลัดถิ่น คนไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และไม่สามารถแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 
.
แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลหลายรัฐบาลจะประกาศขจัดปัญหาความยากจนให้หมดไป แต่ก็ไม่เคยทำสำเร็จเพราะไม่เคยทำความเข้าใจปัญหาจากคนจน ฟังแต่คนรวย ให้คนรวยเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาความยากจนเพียงฝ่ายเดียว นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้วในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันการแก้ปัญหาคนจนยังซ้ำเติมปัญหาเก่า สร้างปัญหาใหม่ให้รุนแรงยิ่งขึ้น เพิ่มความทุกข์ยากลำบากให้กับคนจนไม่รู้จบ คนจนยังคงจนทั้งสิทธิ จนอำนาจ จนโอกาส และถูกทำให้จน ทั้งในชนบทและในเมือง
.
ดังนั้นพวกเราเครือข่ายองค์กรภาคีคนจน เครือข่ายองค์กรพัฒนาเอกชน เครือข่ายนักวิซาการ และสื่อมวลชน ในนามเครือข่ายรัฐธรรมนูญคนจน เห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ควรจะต้องเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาทั้งฉบับ โดยมาจากการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งเครือข่ายรัฐธรรมนูญคนจนขอรณรงค์รัฐธรรมนูญคนจน โดยการจัดเวทีสัญจร "พรรคการเมืองฟังเสียงคนจน" ขึ้นทั่วประเทศ จำนวน 7 เวที 4 ภาค เพื่อให้พรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วมและฟังเสียงคนจนในการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ”
.
หลังจากการแถลงเสร็จ ทางตัวแทนของสมัชชาคนจนได้ชี้แจงถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของเวที “พรรคการเมืองฟังเสียงคนจน” ว่าจะไม่มีการยื่นหนังสือที่รัฐสภา หรือยื่นหนังสือต่อพรรคต่างๆ ด้วยตนเอง แต่ทางกลุ่มจะใช้วิธีส่งหนังสือเชิญทางไปรษณีย์แทน