อบจ.พัทลุง นโยบายตรงปก “พัทลุง” “พัทลุงคนฐานราก” ทำได้ทันที ได้งาน ได้เงิน
... สีสันบรรยากาศการเมือง อบจ.จ.พัทลุง ค่อนข้างจะเข้มข้นคึกคักมากว่าทุกสมัย จากที่มีการลงสมัครกันถึง 5 ทีม ทั้งผู้สมัครอิสระ ทั้งเป็นทีมจากเดิม ๆ ที่มีประกาณ 3 ทีม แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วจะเป็นทีมบ้านเล็กเสีย 3 ทีม บ้านใหญ่ 2 ทีมเพราะต่างมีกองหนุนขนาดใหญ่...
จากเหตุผลที่เกิดทีมบ้านเล็กที่มากกว่าทีมบ้านใหญ่ เพราะมีนัยกระแสโมเดลนครศรีธรรมราช ที่ว่าไม่ซื้อ คราวเลือกตั้ง อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งโมเดลนครศรีธรรมราช ที่สามารถล้มทีมเก่าบ้านใหญ่ลงไปได้ ส่งผลให้กระแสโมเดลนครศรีธรรมได้เกิดกระแสขึ้นไปหลายจังหวัด
สำหรับโมเดลนครศรีธรรมราช แหล่งข่าวจากอดีตนายกเทศมนตรีและว่าทีผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลแห่งหนึ่ง จ.พัทลุง ได้ให้ความเห็นต่อโมเดลนครศรีธรรมราชว่า การที่ได้มีการประกาศนำมารณณรงค์หาเสียง อบจ.พัทลุง “ไม่ซื้อ” น่าติดตามมาก เพราะว่าขณะนี้เพียงเดินทางไปได้ประมาณ 5 เมตร จะต้องดูการเดินทางอีก 30-40 เมตร ว่าจะได้รับเสียงการตอบรับถึงเพียงใด
“โมเดลนครศรีธรรมราช ที่นำมาใช้ยัง จ.พัทลุง หลายฝ่ายต่างประเมินว่าไม่น่าจะเป็นผลสำเร็จได้ หากไม่สามารถปลุกกระแสขึ้นได้ และมีเหตุปัจจัยของการปลุกไม่ขึ้น เพราะสถานการณ์นี้ผู้คนต่างหมกมุ่นอยู่กับเงินในกระเป๋าไม่มี จึงเป็นอุปสรรคต่อคิดถึงเรื่องอื่น ๆ ต่างนึกถึงเรื่องปากเรื่องท้องต้องมาก่อน”
เช่น ต้องออกจากบ้านทำมาหากินหาเงินยังชีพวันต่อวันก่อน เพราะจากจากสถานการณ์ประกอบอาชีพที่ฝืดเคืองเพราะฝนตกร่วม2 เดือนยางใม่ได้กรีด แถมยังมาประสบกับน้ำท่วม อีกส่วนผลไม้ก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย ปศุสัตว์ เลี้ยงสุกร เลี้ยงโค ก็ประสบภาวะฝืดยอดขายตกไปประมาณ 50 % อีกทั้งราคาก็ตกต่ำ ขายออกก็จะแสนฝืด และที่ผ่านมาก็ประสบภาวะขาดทุนกันทั้งหมด
“พัทลุงเป็นเมืองการเกษตร เขา ป่า นา เล ไม่ใช่เมืองอุตสาหกรรม เมืองธุรกิจการค้าขนาดใหญ่ ต่างกับจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเมืองขนาดใหญ่ทีมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่าและที่ดีกว่ามาก จึงมีความต่างกัน”
แหล่งข่าว ยังระบุต่ออีกว่า ส่วนแนวทางทางการรณรงค์หาเสียงโมเดลนครศรีธรรมราช ในการเลือกตั้ง อบจ.นครศรีธรรมราช ที่ผ่านมาหลายฝ่ายหลายพวกต่างมีแนวทางไปในทิศทางเดียวกัน เสมือนรุมกินโต๊ะบ้านใหญ่ แต่ที่ จ.พัทลุง เวลาไม่สามารถรวมเป็นไปในทิศทางเดียวกัน จึงได้เห็นความต่างได้ในระยะเวลาชั่วโมงนี้
แต่กลับทีมเดี่ยว ๆ การเมืองตรงปกกับ จ.พัทลุง และการเลือกตั้ง อบจ.พัทลุงหนนี้ จากได้นำนโยบายมาเป็นจุดทำการตลาดทำการโฆษณาที่ตรงปกกับ จ.พัทลุง ของทีมคนสร้างเมือง ทีมคนฐานราก ทีมคนที่มีจิตวิญญาณที่เคลื่อนไหวที่อนุรักษ์เมือง เขา ป่า นา เล
“แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำการปฏิเสธของการพัฒนาเช่นกัน แต่ในการพัฒนาจะต้องยินยอมให้ประชาชนทุกเหล่าสาขาอาชีพได้มีส่วนร่วม ซึ่งร่วมกันออกแบบเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ทุกฝ่าย” แหล่งข่าวในทีมคนสร้างเมือง ระบุ
นายรอสลี ยาประจันทร์ ว่าที่ผู้สมัครรองนายก อบจ.พัทลุง ทีมคนสร้างเมือง กล่าวว่า ทีมคนสร้างเมืองในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง คือการเดินทางพบกับคนในหมู่บ้าน ถ้าเห็นนว่าบางจุดมีประชาชนมีการรวมกลุ่มกันประมาณ 10 คน ก็จะทำการปราศรัย
“จากการที่เดินทางพบปะกันกับประชาชนก็ได้รับการสะท้อนประเด็นต่าง ๆ มากมายก็จะได้รวมรวมมาเป็นนโยบาย”
นายรอสลี กล่าวว่า การเดินทางพบเพื่อหาคะแนนเสียงในกลุ่มทุกอาชีพ ทั้งการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรผสมผสาน กลุ่มเกษตรกรเกื้อกูล เครือข่ายทำมาหากินทุกประเภท
“จะมีการรรงค์เกษตรเกื้อกูล เพราะทำได้ทันที จากต้นทุนที่มีอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีการลงทุนใหม่ เป็นการต่อยอดเพิ่มรายได้ เช่น จาก 300 บาท จะเป็น 500 บาท จาก 500 บาท ได้เป็น 800 บาท ไม่ได้ทำว่ามีรายได้ 100 ล้าน 200 ล้านบาท”
เกษตรเกื้อกูล เช่น มีสวนยางพาราอยู่แล้ว ก็จะมีการต่อยอดไปปลูกเพิ่มเป็นพืชร่วมกับยา เช่น ผักเหกรียง ผักกูด หรือแม้กระทั่งเลี้ยงไก่ เลี้ยงแพะ เลี้ยงโค เลี้ยงปลา เป็นต้น เพราะเมื่อหน้าฝนจะไม่ได้กรีดยาง ก็จะไม่มีรายได้ แต่ก็มีรายได้จากกลุ่มที่ร่วมกับยางได้ไม่ถึงกับลำบากภายในครัวเรือน
นโยบายที่นำมาใช้ของทีมคนสร้างเมือง สามารถทำได้ทันทีและได้เงิน
แต่ละโนยายต่างมีงานวิจัยรองรับอยู่ทั้งหมด เช่น เศรษฐกิจเกื้อกูลพัทลุง ก็จะมีการจะยกระดับถึง 30 อาชีพ เพื่อให้เข้าสู่เมืองอุตสาหกรรมขนาดเล็ก แล้วก็มีแผนบริหารจัดการน้ำและทะเลสาบสู่พัทลุงเมืองสายสีเขียวของประเทศเพราะน้ำมีความสำคัญต่ออาชีพ พร้อมกับสร้างแผนรับมือภัยพิบัติเชิงระบบพัทลุงพื้นที่ปลอดภัยในฐานะพัทลุงจะถูกน้ำท่วมซ้ำซาก
และการสร้างให้เป็นเมืองท่องเที่ยวธรรมชาติของโลกด้วย เพราะพัทลุงมีต้นทุนที่มีศักยภาพสมบูรณ์ของเขา ป่า นา เล จะสร้างศูนย์นวัตกรรมสร้างเมือง และสร้างสถาบันพัฒนาศักยภาพพลเมืองเรื่องของศักยภาพทรัพยากรณ์บุคคล และยังมีคณะยุทธศสาตร์ขับเคลื่อนเมือง พร้อมปรับปรุงทรัพย์สินของ อบจ.ให้ได้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพรองรับประชาชน และจัดสรรงบประมาณที่เป็นธรรมฯลฯ.
“เป็นนโยบายที่สัมผัสได้และทำได้ทันทีเพราะมีอยู่แล้ว มีต้นทุนอยู่แล้วเพียงเข้าไปเพิ่มเติมต่อยอด โดยเกษตรกรเกื้อกูล”. นายรอสลี กล่าว.
ทีมคนสร้างเมือง คือทีมสภาน้ำจังหวัดพัทลุงนั้นเอง เพราะกลุ่มนักเคลื่อนไหวในสายในกลุ่มอนุรักษ์น้ำ และสายคลอง
