พรรคประชาชาติเปิดเวลารับฟังแก้ปัญหาประมงชายแดนใต้

พรรคประชาชาติเปิดเวลารับฟังแก้ปัญหาประมงชายแดนใต้





ad1

นราธิวาส-พรรคประชาชาติเดินสายจัดเวทีรับฟังปัญหาประมงพื้นบ้านนราธิวาส ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง แนะต้องทำ กองทุนอาชีพประมง


           
บรรยากาศการเดินสายเปิดเวทีรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของพรรคประชาชาติ นำโดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ, นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส เขต 4 พรรคประชาชาติ และคณะ ร่วมรับฟังปัญหาพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งนายอัฟฟาน หะยียูโซ๊ะ สมาชิกพรรคประชาชาติ ได้เล็งเห็นถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง จึงได้จัดเวทีประชาคมขึ้นที่ศาลาประมง หาดนราทัศน์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันศุกร์11มีนาคมที่ผ่านมาโดยมีกลุ่มชาวประมงพื้นบ้านจำนวนกว่า 2,000 คนมาร่วมสะท้อนปัญหา โดยได้รับการอำนวยความจากเทศบาลเมืองนราธิวาสในการคัดกรองผู้คนก่อนเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ด้วย 

โดยสมาชิกพรรคประชาชาติ ได้ร่วมพูดคุยถึงปัญหาปัญหาประมง ก่อนที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จะขึ้นเวทีกล่าวขอบคุณนายอัฟฟาน หะยียูโซ๊ะ ที่เล็งเห็นปัญหาของชาวประมงและได้จัดเวทีประชาคมนี้ขึ้นเพื่อหาแนวทางให้ ส.ส.ได้รับทราบปัญหา ซึ่งจะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาต่อไป โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า แม้ตนจะอายุมากกว่าหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แต่เดินได้แข็งแรงกว่า ไม่ต้องให้ใครคอยโอบหรืออุ้มเวลาเดินไปไหน มั่นใจว่าวิ่งรอบหาดนราทัศน์ได้สบาย ดังนั้นวันนี้จึงมาพบพี่น้องชาวประมงเพื่อให้มั่นใจได้ว่าพรรคประชาชาติจะยืนหยัดช่วยแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชนต่อไป วันนี้จะขอแนะนำนายอัฟฟานให้ทุกคนได้รู้จัก ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ รูปหล่อ ไฟแรง ที่ใส่ใจปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ผมในฐานะที่ทำงานการเมืองมานานกว่า 40 ปี อยากบอกว่าขณะนี้รัฐบาลบริหารต่อไม่ไหวแล้ว ถ้าข้าวของสินค้าราคาแพงแบบนี้ ยิ่งถ้าน้ำมันแพง คนไม่มีงานทำ ไม่มีรายได้ ประชาชนจะลุกขึ้นมาขับไล่รัฐบาล วาระของรัฐบาลชุดนี้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 24 มีนาคม 2566 เหลือเวลาอีกเพียง 1 ปีเศษ แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ไม่ครบวาระ เพราะประชาชนที่เดือดร้อนจำนวนมาก จะลุกขึ้นมาขับไล่ 

การเลือกตั้งครั้งหน้ามีบัตรเลือกตั้งสองใบ ที่ประชาชนสามารถเลือก ส.ส.เขตได้ 1 ใบ และเลือกพรรคได้ 1 ใบ เราจึงจำเป็นต้องเลือก ส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติทั้ง 2 ใบ เพราะในบรรดาพรรคการเมืองทั้ง 70 พรรคในสภาผู้แทนราษฏรนั้นมีแต่พรรคประชาชาติเท่านั้นที่มีหัวหน้าพรรคเป็นมุสลิมจากบ้านเรา เคยเป็นรัฐมนตรีมหาดไทยมาแล้ว 2 สมัย เป็นรัฐมนตรีคมนาคมที่เคยมาดูโครงการพัฒนาปากแม่น่ำน้ำบางนรา และเปิดสนามบินนราธิวาสให้มีเที่ยวบินฮัจย์จากซาอุดีอาระเบีย และสำคัญอย่างยิ่งคือสร้างสนามบินสุวรรณภูมิจนเสร็จ ซึ่งเป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และมีห้องละหมาดขนาดใหญ่ เป็นความภาคภูมิใจของเราทุกคน วันนี้อาจจะมีคนเอาเงินเอาสิ่งของมาหลอกให้เราเลือกเขา แนะนำให้เรารับไว้แต่อย่าไปเลือกคนเหล่านี้ เราต้องสอนให้เข็ด ให้เขาหมดหน้าตักให้หมดตัว แล้วต่อไปเราจะได้ผู้แทนราษฏรที่ดี ซึ่งผู้แทนราษฏรที่คือผู้ที่จะมาเหมาความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ใช่มารับเหมางานก่อสร้าง วันนี้พรรคประชาชาติเรามาให้คำมั่นว่าเราจะช่วยเหลือพี่น้องชาวประมง นี่คืออามานะห์ (ความรับผิดชอบ) ของเราที่เราต้องทำ คำว่าอามานะห์สำคัญยิ่ง เราจะเห็นว่าผู้ที่ไม่มีอามานะห์บอกว่าจะอยู่ไม่นาน แต่ก็อยู่ยาว 7 ปี ถ้าประเทศเจริญ ประชาชนเป็นสุขไม่เป็นไร แต่นี่ยิ่งอยู่ยาวประเทศชาติยิ่งแย่ ประชาชนยิ่งจน เราคือพรรคอุมมะห์ (ประชาชาติ) ที่จะเข้ามายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ การศึกษา การศาสนา ความยุติธรรม ของประชาชน เช่นวันนี้ที่เรามาพบชาวประมงเพื่อจะได้รับฟังและแก้ปัญหาประมงต่อไป ซึ่งพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง จะพูดรายละเอียดต่อไป

พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง กล่าวว่า ในประเทศไทยมีจังหวัดที่ติดทะเล 24 จังหวัด และมีประชาชนประกอบอาชีพประมง ประเทศใดที่ถ้าขาด 3 กลุ่มอาชีพนี้ ประเทศนั้นจะอยู่ลำบาก 1.ด้านการเกษตร  ประกอบด้วยการเพาะปลูก ประมง ปศุสัตว์ 2. ด้านการช่าง ก่อสร้าง และเทคโนโลยี 3.ด้านการพาณิชย์ ค้าขาย นี่คือสามกลุ่มอาชีพสำคัญ ขณะเดียวกันประเทศไทยมีสามเสาหลักที่จะทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าไปได้คือ 1.การศึกษา 2.ศาสนา ที่จะช่วยทำให้ประชาชนมีจิตใจดี ไม่คดโกง ไม่เอารัดเอาเปรียบ และ 3.การเมืองและความมั่นคง ที่เป็นความมั่นคงของประชาชนไม่ใช่ความมั่นคงของทหาร และ 4.ด้านเศรษฐกิจและสังคม ที่ทั้ง 4 ด้านต้องสมดุลจะขาดด้านใดด้านหนึ่งไม่ได้

อาชีพเกษตรกรโดยเฉพาะประมงพื้นบ้านในจังหวัดนราธิวาส เป็นกลุ่มเกษตรกรที่ใหญ่ที่สุด มีเรือประมงพื้นบ้านกว่า 200 ลำ และมีเรือประมงพาณิชย์ไม่เกิน 50 ลำ ส่วนในประเทศไทยมีเรือประมงพื้นบ้าน 50,000 ลำ มีเรือประมงพาณิชย์กว่า 10,000 ลำ เกษตรกรคือยุ้งฉางของสังคมและประเทศ คือเป็นผู้ผลิตอาหาร ถ้าสังคมไม่มีอาชีพเกษตรกรรม ก็จะเดือดร้อนอดอยาก เขาบอกว่าคนกินปลาจะฉลาด ดังนั้นอาชีพประมงจึงมีส่วนทำให้คนไทยฉลาด แต่เราโชคร้ายคือมีผู้นำที่ไม่เห็นความสำคัญของประมง ถ้าดูในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 จะเขียนว่า ‘รัฐต้องส่งเสริมเกษตรกร ส่งเสริมปัจจัยการผลิต และหาตลาดและให้ขายสินค้าในราคาสูงสุด’ ต่อมารัฐธรรมนูญปี 2550 ก็เช่นเดียวกัน แต่หลังมีการยึดอำนาจเมื่อปี 2557 มีรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 73 บอกว่า ‘ต้องช่วยเหลือเกษตรกรให้ผลผลิตมีประสิทธิภาพ และให้ขายในราคาตลาด’ ซึ่งผิดกับรัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่านมา การเขียนให้ขายใน’ราคาตลาด’ ก็คือ ‘ขายในราคาถูก’ เราก็รู้อยู่ว่าเจ้าของตลาดคือผู้มีอำนาจ และเขาต้องการซื้อของในราคาถูก ผู้เขียนรัฐธรรมนูญเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มนายทุน จึงเขียนรัฐธรรมนูญเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ดังนั้นอาชีพประมงเป็นอาชีพที่มีอิสระยืนบนความขยันของตัวเอง รัฐควรจะต้องส่งเสริมสนับสนุน เพราะไม่ฉะนั้นรัฐจะมีความคิดว่าต้องให้คนไปเป็นลูกจ้าง ความจริงอาชีพประมงควรจะต้องเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เพราะเป็นเกษตรกรที่เป็นยุ้งฉางของสังคมและประเทศ

นราธิวาสเป็นพื้นที่ใต้สุดของประเทศที่ล้อมรอบด้วยทะเล สิ่งที่เราพบปัญหาคือที่ดินจะเป็นของรัฐเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าป่าสงวนหรืออุทยาน เมื่อเราอยู่ในที่ดินของรัฐ ไม่มีที่ดินของตนเอง ไม่มีบ้านเลขที่ของตนเอง ถ้ามีก็จะเป็นบ้านเลขที่ชั่วคราว ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ทำให้ค่าน้ำค่าไฟแพงกว่าเท่าตัว เช่นค่าไฟ 3 บาทกว่า จะเพิ่มเป็น 6.80 บาท เคยถามปลัดกระทรวงมหาดไทยว่าทำไมไม่แก้ให้คนเหล่านี้มีค่าน้ำค่าไฟถูกกว่าคนทั่วไปเพราะเขาคือผู้มีฐานะยากจน เช่นเดียวกับหมู่บ้านประมงแห่งนี้ ที่มีบ้านเลขที่ชั่วคราว ซึ่งได้หารือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคแล้ว ได้รวบรวมข้อมูลไว้ที่นี่มีจำนวน 3,035 หลัง เมื่อผู้นำไม่ได้มาจากประชาชนก็จะไม่สนใจปัญหาประชาชน เพราะเขามาจากการยึดอำนาจและห้อมล้อมโดยกลุ่มนายทุน เสียงของประชาชนจึงไร้ค่า การเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนต้องคิดให้ดีว่า ใครทำเพื่อตัวเอง ใครทำเพื่อประชาชน วันเลือกตั้งคือวันที่ทุกคนมีความยุติธรรม เพราะคนรวยที่สุดกับคนจนที่สุดมีหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียงเท่ากัน การจะเปลี่ยนแปลงผู้นำที่ไม่ดีสามารถเปลี่ยนได้ในการเลือกตั้ง 

หลายอาชีพมีกองทุนช่วยเหลือ แต่ประมงไม่มีกองทุน  พรรคประชาชาติเราไม่ชอบออกกฏหมายใหม่แต่เราจะปฏิรูปสภาเกษตรกร ที่จะเป็นการปฏิรูปให้ประมงไปอยู่ในกฎหมายนี้ด้วย รู้หรือไม่ว่าสภาเกษตรกรที่ดูแลเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 20 ล้านคนได้งบประมาณจากรัฐบาลปีละประมาณ 300 ล้านบาท ทราบหรือไม่ว่า กอ.รมน. มีงบประมาณบางปีหมื่นล้านบางปีเกือบหมื่นล้าน ตอนมาของบประมาณเขียนสั้นๆว่าเพื่อพัฒนาบุคคล แต่มาตรวจสอบแล้ว 5-6 พันล้านกลับนำมาใช้เป็นงบลับ ถ้านำงบประมาณตรงนี้มาเป็นกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงที่พวกเราไม่สามารถออกไปจับปลาได้ หรือนำเงินนี้มาเป็นการพัฒนาตลาดให้เกษตรกร อย่างน้อยประมงพื้นบ้านที่ไปจับปลาสด จะได้มีตลาดขายปลาที่ราคาสูงขึ้น คนที่มาจากการรัฐประหารยึดอำนาจ จะมองความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนของข้าราชการและทหาร ไม่ได้มองความมั่นคงมั่งคั่งยังยืนของราษฎร

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุด พรรคประชาชาติได้เสนอร่าง พ.ร.บ.บำนาญแห่งชาติ คือผู้สูงอายุ 60 ปีจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุเดือนละ 3,000 บาท ได้เสนอไปตั้งแต่ปี 2563 เป็นสิทธิ์ที่จะให้แก่ผู้สูงอายุอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะรวยหรือจนมีสิทธิเท่ากัน แต่ปรากฏว่า เมื่อเสนอไป รัฐบาลพลเอกประยุทธ์เขียนว่าเป็นพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการเงิน จึงไม่อนุมัติ รู้หรือไม่ว่าพลเอกประยุทธ์ทำร้ายชีวิตครอบครัวผู้สูงอายุเกือบ 12 ล้านคนในประเทศไทย ลองนึกภาพพี่น้องพี่ทำงานใช้แรงงานร้านอาหารที่มาเลเซีย ถ้ามีพ่อแม่อยู่ที่บ้าน ถ้าได้เงินบำนาญวันละ 100 บาท (เดือนละ 3,000 บาท) ก็สามารถเลี้ยงชีพให้อยู่รอดได้ ผู้เป็นลูกที่ทำงานอยู่ต่างประเทศก็ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อแม่มาก นี่คือกฏหมายที่พรรคประชาชาติเสนอไปเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เราคิด เราเสนอ เราทำ แต่วันนี้พอใกล้เลือกตั้ง พบว่ามีหลายพรรคการเมืองหาเสียงด้วยนโยบายผู้สูงอายุ 3,000 บาท ซึ่งนี่คือนโยบายที่พรรคประชาชาติได้ทำมาแล้วแต่พลเอกประยุทธ์ขัดขวาง เรือประมงที่ตากใบจมน้ำ 7 ลำต้องเปลี่ยนสัญชาติเป็นสัญชาติมาเลเซีย เพราะพลเอกประยุทธ์ไปรับกฎหมายที่รุนแรง มีค่าปรับรุนแรง จึงทำให้เรือประมงพาณิชย์ต้องไปใช้สัญชาติมาเลเซีย หรือสัญชาติเขมร เพื่อให้สามารถทำประมงได้ เพราะประเทศอื่นเขาคิดถึงความอยู่รอด เห็นความมั่นคงของมนุษย์สำคัญกว่าความมั่นคงของรัฐบาล 

มีบริษัทประมงมาพบปะพูดคุยว่าจะมาช่วยดูแลเรื่องการตลาด จะทำอย่างไรที่จะให้สินค้าประมงของพี่น้องได้ขายในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งทางพรรคประชาชาติจะต้องผลักดันให้มีกองทุนประมงขึ้นมา เหมือนกองทุนเกษตรกรอื่นๆ เช่น กองทุนสงเคราะห์สวนยางพารา แต่อาชีพประมงเวลาเจอพายุจะกลับไม่มีกองทุนช่วยเหลือ นี่คือสิ่งที่พรรคประชาชาติต้องทำ