สมาคมฮักชุมชน จับมือ หน่วยงานภาคีในพื้นที่อำเภอไชยปราการ ในการจัดงานมหกรรม “ไชยปราการกับการพัฒนาเยาวชนในพื้นที่นำร่องตำบลศรีดงเย็นและตำบลแม่ทะลบ” เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงาน โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบ ในการนำตนเองด้วยสติและชีวิตที่มีคุณค่า ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และ การพัฒนางานด้านเยาวชนและการพัฒนาในมิติต่างๆในอำเภอไชยปราการ นางสาวรักชนก จินดาคำ นายกสมาคมฮักชุมชน กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงาน ว่า
1) เพื่อนำเสนอผลการดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบในการนำตนเองด้วยสติและชีวิตที่มีคุณค่า 2)เพื่อวิเคราะห์แนวทางการทำงานกับเยาวชนในระบบและนอกระบบการศึกษา ตลอดจนเป็นการนำเสนองานพัฒนามิติอื่นๆ ในพื้นที่ตำบลศรีดงเย็น และตำบลแม่ทะลบ การจัดงานในวันนี้ ประกอบไปด้วยหลายภาคส่วนที่ร่วมสร้างสรรค์ มหกรรม จัดบู๊ทนำเสนอผลงานได้แก่
1.สมาคมฮักชุมชนและ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.)
- บริการซ่อมจักรยานยนต์ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง/หัวเทียน ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
- การทำไม้กวาดดอกก๋ง
- การตัดผมสุภาพสตรี ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม
2. โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดป่าไม้แดง
3.ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอไชยปราการ
4.องค์การบริหารส่วนตำบลศรีดงเย็น
5.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านป่าแดง
6.กลุ่มฮักครอบครัวบ้านสันทราย
7.กลุ่มผู้พิการ และอพม. หมู่ 3 บ้านศรีดงเย็น
8.ศูนย์การเรียนรู้ โคกหนองนาโมเดล สวนบ้านปราชญ์ บ้านป่างิ้ว ม.3 ต.แม่ทะลบ
การดำเนินงานต้องอาศัยระยะเวลา เพื่อสร้างความรู้จักและความไว้วางใจ การลดการตีตรา ตัดสินและปักหมุดมุมมองว่าเยาวชนนอกระบบคือปัญหา เพียงเพราะไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษา การทำความเข้าใจ และจัดสรรพื้นที่ปลอดภัยให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่ไว้ใจ พื้นที่ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ร่วมคิด มีพื้นที่ให้นำเสนอความคิด ความต้องการ และมีกลไกที่ให้การยอมรับสนับสนุนกิจกรรมในทางที่สร้างสรรค์ ทั้งในด้านวิชาการ ด้านทักษะชีวิต และ ทักษะอาชีพเสริม น่าจะเป็นอีกทางออกหนึ่ง ที่จะช่วยให้เยาวชนนอกระบบ มีทางเลือกในการใช้ชีวิต อย่างมีสติ รู้คุณค่าในตนเอง มากขึ้น

เวทีเสวนา “คุณค่าและตัวตน เยาวชนตำบลศรีดงเย็น แม่ทะลบ”นายอุทัย สอนจีน ปลัดอาวุโส อำเภอไชยปราการ สถานการณ์ปัญหาในชุมชนที่ส่งผลต่อปัญหาเยาวชนนอกระบบ คือ ปัญหาเรื่องครอบครัว ปัญหาเศรษฐกิจ social media รวมถึง สุรา และสารเสพติด ล้วนส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่สำคัญมีผลกระทบต่อการเรียนของเด็กๆ ทราบว่าการทำงาน โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบ ในการนำตนเองด้วยสติและชีวิตที่มีคุณค่า โดยสมาคมฮักชุมชน ไม่ได้ดำเนินการเพียงหน่วยงานเดียว แต่มีการสร้างความร่วมมือ ขอความรู้ จากหน่วยงาน จากผู้คนในพื้นที่ และลงมือ ลงแรงทำงานร่วมกัน ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการศึกษาและพัฒนาให้มีการหนุนเสริมช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาเยาวชนได้มากขึ้น
พระครูวรสุตเขต ดร. ผู้อำนวยการโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดป่าไม้แดง
ความเจริญของเทคโนโลยีในด้าน การติดต่อสื่อสาร สร้างช่องว่างระหว่างวัย และทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น ปัญหาคาอบครัว บางคนนั่งอยู่ก้วยกันแต่กลับไม่สื่อวารพูดคุยกัน ห่างเหิน รู้จักคนไกลตัว แต่ลืมคนใกล้ตัว และในปัจจุบัน ปัญหาเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า เป็นเรื่องที่เข้าถึงง่าย ซื้อง่าย ล่อตาล่อใจเยาวชนมาก เด็กนอกระบบ ต้องทำให้เขามองเห็นคุณค่าในตนเอง ชุมชนไม่ควรตีตรา และต้องมีความเข้าใจเด็กๆเหล่านี้ เขามีดีในตนเอง เราต้องให้โอกาสเปิดพื้นที่ทำให้เขาแสดงความสามารถและศักยภาพเพื่อพัฒนาเยาวชนต่อไป เช่น กิจกรรมการตัดผม และกิจกรรมการซ่อมรถ
นายคำมูล เมืองใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ทะลบ
ในส่วนของอบต.ตำบลแม่ทะลบมีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ไม่ได้มองในมิติด้านเดียว แต่มองในหลากหลายมิติ ตั้งแต่ ตังครรภ์ ถึง ผู้สูงอายุ เป้าหมายสำหรับเด็กที่นอกระบบการศึกษา ต้องการให้เด็กๆเข้าไปอยู่ในระบบ อย่างน้อย คือ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพราะจะทำให้เด็กได้เรียนรู้ และมีเป้าหมาย และจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจ เนื่องจากมีคุณครูที่สอนทั้งในส่วนการศึกษา และสอนในด้านคุณภาพชีวิต
ปัจจุบัน บ้านป่าหนา ตำบลแม่ทะลบมีกองทุนเยาวชน เพื่อใช้ในการสร้างสนามกีฬา หรือเยาวชนจะนำไปใช้ในส่วนใดสามารถบริหารจัดการได้โดยจะมีกลไกของกองทุนในการพิจารณา การดำเนินงานของสมาคมฮักชุมชน ในโครงการขับเคลื่อนการพัฒนาเรียนรู้สำหรับเยาวชนนอกระบบ ในการนำตนเองด้วยสติและชีวิตที่มีคุณค่า จะช่วยให้การพัฒนางานด้านเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนนอกระบบการศึกษา ที่อาจจะต้องมีหน่วยงานอื่นเข้ามาช่วยในพื้นที่ของตำบลแม่ทะลบ มีส่วนสำคัญ มีความเชี่ยวชาญ เข้าใจด้านวิชาการและทักษะที่ต้องทำงานกับเยาวชน น่าจะทำให้ปัญหาเยาวชนในพื้นที่ของเรา ได้รับการพัฒนาที่ตรงจุดมากขึ้น
นายวุฒิชัย บัวนาค นักวิชาการศึกษา (กองการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม) อบต.ศรีดงเย็น
ในด้านการทำงานกับเยาวชนในพื้นที่ตำบลศรีดงเย็น เยาวชนในระบบการศึกษา ทางอบต. ดูแลในส่วนของสวัสดิการศึกษาต่างๆ ตั้งแต่อนุบาล ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 และมีกิจกรรมที่ดำเนินงานกับเด็กทั้งในระบบและนอกระบบการศึกษา คือ โครงการฯจ้างนักเรียน นักศึกษาทำงาน ในช่วง มีนาคม-เมษายน ซึ่งจะทำในส่วนของ กองช่าง กองคลัง กองศึกษา เป็นต้น เยาวชนนอกระบบการศึกษา อบต.ศรีดงเย็นมีการในส่วนพัฒนาชุมชน เป็นโครงการตามข้อบัญญัติส่งเสริมอาชีพ และดูแลชุมชนผู้ที่มีปัญหายาเสพติด เยาวชนในพื้นที่สูง

การเดินทางยากลำบาก บางช่วงมีปัญหาดินสไลด์ เด็กเหล่านี้เมื่อจบจากชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จะถูกผลักออกการศึกษาด้วยระยะทาง และอาชีพ เช่น ช่วยครอบครัวทำอาชีพ เกษตรกร การออกไปรับจ้าง ที่ต้องย้ายถิ่นฐาน เป็นต้น สถานการณ์เหล่านี้ทำให้การพัฒนาเด็ก เยาวชนค่อนข้างยากต่อการติดตาม และจัดทำกิจกรรมที่มีความต่อเนื่อง กิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิตในด้านอาชีพเสริม แม้ว่าจะติดตามยาก แต่ก็จะมีผลดีต่อการสร้างทางเลือกในการประกอบอาชีพของเด็กได้ไม่มากก็น้อย ในส่วนของน้องๆเยาวชน ที่เราสามารถติดตามได้ อยู่ในพื้นที่เราควรมีกิจกรรมที่เสริมทักษะทางด้านจิตใจ ความคิด ให้น้องๆให้ความสำคัญกับการตั้งเป้าหมายชีวิต ร่วมด้วย จะทำให้มีทิศทางในการดำเนินชีวิตมากขึ้น
นางอุบลรัตน์ แสงบุดดา ครู ศศช. บ้านห้วยน้ำดิบ
หากมองย้อนไปบ้านห้วยน้ำดิบ ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เป็นหมู่บ้านที่ความเจริญเข้าไม่ถึง ซึ่งทำให้เด็กในพื้นที่ไม่ได้ออกนอกชุมชนดำเนินชีวิตในชุมชนเป็นหลัก ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ไม่กล้าแสดงออก และไม่ค่อยพูดสื่อสารกับบุคลทั่วไป
ในปัจจุบันมีหน่วยงานเข้าไปลงพื้นที่ศึกษาและให้ความช่วยเหลือ ทั้งภาครัฐ และองค์กรเอกชน ซึ่งรวมถึงสมาคมฮักชุมชนได้เข้าไปให้ความรู้เรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ ทั้งกับเด็กที่อยู่นอกระบบและในระบบซึ่งเป็นน้องๆเยาวชนในกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มพ่อแม่วัยรุ่น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี ตรงกับวิถีชีวิต น้องๆเยาวชนในพื้นที่ ส่วนใหญ่จะแต่งงานมีครอบครัว มีลูกตั้งแต่อายุยังน้อย ซึ่งเป็นวิถีของชุมชนอยู่แล้ว ในพื้นที่อาจมองว่าไม่ใช่ปัญหา การเข้าไปส่งเสริมความรู้ การตั้งรับกับการเป็นพ่อแม่ในช่วงที่อายุยังน้อย การป้องกันการท้องเมื่อยังไม่มีความพร้อม กับการส่งเสริมอาชีพ ที่ทางสมาคมฮักชุมชนดำเนินการอยู่ จึงคิดว่ามาถูกทางในการพัฒนาที่เหมาะสมกับบริบทชุมชน


