เอกชนอีสานอยากได้รมต.จากพรรคร่วมรัฐบาลมีกรึ่นเร่งขับเคลื่อน-ผลักดันศก.ไทยเติบโตบนเวทีโลก

เอกชนอีสานอยากได้รมต.จากพรรคร่วมรัฐบาลมีกรึ่นเร่งขับเคลื่อน-ผลักดันศก.ไทยเติบโตบนเวทีโลก





ad1

นครราชสีมา –เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคอีสาน วอนพรรคร่วมรัฐบาล จัดสรรบุคคลเป็น ครม.ให้เหมาะสมกับตำแหน่ง ไม่แบ่งเค้ก แบ่งเก้าอี้เพื่อประโยชน์ของพรรคอย่างเดียว เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยให้เติบโตในเวทีโลก

นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวถึงความคาดหวังทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 12 พรรคว่า โดยส่วนตัวแล้วตอนนี้มองว่ารัฐบาลยังไม่นิ่ง จึงไม่แน่ใจว่าทีมเศรษฐกิจของ ครม.รัฐบาลชุดใหม่จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไร เนื่องจากรัฐบาลก่อนหน้านี้กับรัฐบาลชุดปัจจุบัน สถานการณ์เปลี่ยนไป โดยรัฐบาลก่อนหน้านี้สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่มีความมั่นคง จึงจำเป็นที่จะต้องมีรัฐบาลที่สามารถควบคุมความมั่นคงได้ แต่สถานการณ์ขณะนี้เศรษฐกิจมีความเปราะบาง เนื่องจากว่าเศรษฐกิจโลกไม่มีความเข้มแข็ง เศรษฐกิจไทยเองก็อยู่ในระยะกำลังฟื้นตัว เรื่องการท่องเที่ยวก็ไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายที่เราคาดหวังไว้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของปัญหาภัยแล้งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้นภาคเอกชนก็คาดหวังว่าผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ ทั้งของไทย และของโลกด้วย เนื่องจากปัจจุบันนี้เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก มีความเชื่อมกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ถ้าผู้ที่จะมาเป็น ครม.ไม่มีความรู้ความเข้าใจสิ่งเหล่านี้ ก็จะทำให้ประเทศไทยล้าหลังได้

การที่รัฐบาลชุดนี้ ประกอบไปด้วยหลายพรรคการเมืองหลายพรรค แม้จะทำให้รัฐบาลมีความเสถียร แต่ก็ทำให้ภาคเอกชนรู้สึกเป็นห่วงมากเช่นกัน เนื่องจากอาจจะทำให้การแก้ไขปัญหาต่างๆ ตามที่แต่ละพรรคได้เคยหาเสียงไว้กับประชาชน จะไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่นัก การที่จะได้นักการเมืองรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ ความสามารถ ก็จะถูกข้อจำกัดในแต่ละพรรค ที่จะคัดเลือกตัวแทนเข้ามาทำงานใน ครม.ชุดใหม่นี้ แต่ภาคเอกชนก็อยากเรียกร้องว่า แต่ละพรรคการเมือง จะต้องคัดสรรบุคคล หรือบุคลากร ให้มีความเหมาะสมตามตำแหน่งหน้าที่ ครม.ชุดใหม่ด้วย โดยเฉพาะผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีด้านต่างๆ จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเศรษฐกิจของไทย และเศรษฐกิจของโลกอย่างแท้จริง เช่น เข้าใจเศรษฐกิจในระบบดิจิตอล และเข้าใจนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อให้ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นในเวทีโลก ถ้าจะให้ดีส่วนหนึ่งของ ครม. ควรที่จะเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะด้าน ซึ่งมีอายุระหว่าง 40-55 ปี ถือว่ากำลังเหมาะ

ขณะเดียวกันปัญหาเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ยังมีเรื่องปัญหาภัยแล้วเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ดังนั้น ครม.ทีมเศรษฐกิจ ก็ควรที่จะต้องเข้าใจปัญหาภัยแล้วด้วย เพราะการมีปัญหาเรื่องน้ำ นอกจากจะทำให้การทำการเกษตร ที่เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจระดับรากหญ้า ได้รับผลกระทบอย่างกว้างขวางแล้ว ภาคอุตสาหกรรมก็ดี ภาคการท่องเที่ยวก็ดี ที่เป็นหัวใจหลักของเศรษฐกิจไทย ก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย

ถึงอย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนก็คาดหวังว่า อยากให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากจะมีเรื่องของการอนุมัติงบประมาณปี 2566 เข้ามาเกี่ยวข้อง และเรื่องของการสั่งโยกย้ายข้าราชการหรือบุคลากร เพื่อรองรับผู้ที่จะเกษียณอายุราชการ จะต้องมีการเข้ามาแก้ไขแต่งตั้งให้รวดเร็วด้วย

ซึ่ง ครม.ด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ขณะนี้ ตนเองก็พอที่จะมองเห็นรางๆ แต่เนื่องจากภาวะการเมืองที่ยังไม่นิ่ง พรรคการเมืองต่างๆ ที่เข้ามาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็ยังไม่สามารถที่จะตกลงกันได้ว่า จะได้กระทรวงใดไปบ้าง ดังนั้นผู้ที่จะเข้ามาเป็นว่าที่รัฐมนตรีต่างๆ ก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปแน่นอน แต่ภาคเอกชนก็หวังว่า พรรคการเมืองต่างๆ จะจัดสรรบุคคลเข้ามาเป็น ครม.ตามความเหมาะสม ไม่ใช่การแบ่งเค้ก แบ่งผลประโยชน์ของพรรคอย่างเดียว ควรมองถึงประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญด้วย.

โดย...ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา