“บิ๊กป้อม”มั่นใจ“บิ๊กน้อย”คุมภาพรวมพรรค"พปชร." ทุกด้านสู้ศึกเลือกตั้ง

“บิ๊กป้อม”มั่นใจ“บิ๊กน้อย”คุมภาพรวมพรรค"พปชร." ทุกด้านสู้ศึกเลือกตั้ง





ad1

“บิ๊กป้อม”เปิดตัว “บิ๊กน้อย”คุมภาพรวมพรรคพปชร. ทุกด้าน - อุตตม คุม เศรษฐกิจ – สนธิรัตน์ คุม ศก. การเมือง =พัฒนาประเทศไปข้างหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง ยึดประโยชน์ ประชาชนเป็นหลัก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงเปิดตัว พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน ที่กลับเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง และ นายอุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พลเอกวิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน ที่กลับเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง

พล.อ.ประวิตร กล่าว่า ขอต้อนรับทั้ง 3 ท่านที่กลับมาทำงานร่วมกัน ซึ่งเป็นเกียรติให้พรรคพลังประชารัฐ เราพร้อมก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมดซึ่งทั้ง 3 ท่านจะมาช่วยในการดำเนินการกิจการบ้านเมือง สร้างเศรษฐกิจ ให้พรรคมีความเข้มแข็ง โดย ดร.อุตตม จะเข้ามาดูแลในเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก นายสนธิรัตน์ จะดูแลเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และพล.อ.วิชญ์ จะดูแลช่วยงานทั้งพรรค ส่วนการจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปนั้น จะต้องให้ประชาชนเป็นคนเลือก ถ้าไม่เลือกจะได้เป็นได้อย่างไร

ส่วนประเด็นที่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณจะมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกของพรรคหรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า  ก็ให้ไปถามมิ่งขวัญเอง ยืนยันว่าตอนนี้ยังอยู่กับพรรค เพราะมีงานให้ทำในพรรคเยอะแยะ ไม่ทับตำแหน่งกับนายอุตตมอย่างแน่นอน ส่วนคนที่เป็นหัวหน้าเศรษฐกิจก็จะเป็นทั้งหมดเลย เราเลือกได้หลายคน และเรื่องของร้อยเอกธรรมนัส พรมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จะกลับมาร่วมกันได้หรือไม่นั้น ก็ต้องไปถามร้อยเอกธรรมนัสเอง

เมื่อผู้สื่อข่าวถาม พล.อ.ประวิตรถึงกระแสตอบรับในการลงพื้นที่ และการแต่งกายที่เปลี่ยนไปว่าเป็นกลยุทธ์หรือไม่นั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ได้รับกระแสตอบรับที่ดี ไปที่ไหนก็มีคนขอถ่ายรูป ไม่ได้ปรับลุคการแต่งตัว เพราะใส่แบบนี้มานานแล้ว ไม่ใช่กลยุทธ์ พร้อมถามนักข่าวกลับว่า เท่มากหรือไม่ ถ้าเท่ก็ต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐ

พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าวว่า ตนเองกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งก่อน พล.อ.ประวิตร  โดยเตรียมช่วยงานการเมืองพรรค พัฒนาประเทศไปข้างหน้าก้าวข้ามความขัดแย้ง ยึดประโยชน์ ประชาชนเป็นหลัก

พร้อมระบุด้วยว่า ความโชคดีของพลังประชารัฐที่มีประวิตรเป็นหัวหน้า และนำพาพวกเราไปสู่จุดมุ่งหมายได้ เรามั่นใจว่าต้องใช้ความเป็นหนึ่งเดียวที่จะทำให้ประเทศพัฒนาไปข้างหน้า ขอโอกาสให้เราทำให้ได้เห็น เต็มใจที่จะทำให้พลังประชารัฐเดินไปข้างหน้า และเป็นรัฐบาลให้ได้ โดยตั้งเป้าว่าจะคว้าเก้าอี้ส.ส. ไม่ต่ำกว่า 150 เขต

ด้าน นายอุตตม ระบุว่า ตั้งแต่ทำงานการเมืองมา ยึดมั่นการสร้างความปรองดอง ในเวลาที่ประเทศชาติต้องการคนมาทำงานให้ปนะเทศเดินหน้า ซึ่งพล.อ.ประวิตร ได้รวบรวมผู้คนจากหลายฝ่ายมาทำงานร่วมกัน ตนเองเคยเป็นสมาชิกเก่าในบ้านหลังนี้ มีส่วนร่วมริเริ่มสร้างพรรคในการที่จะได้คิด ผลักดันนโยบาย จึงเป็นโอกาสที่ดีที่ได้กลับมา

สำหรับประเด็นการร่วมงานพรรคกับไทยสร้างไทย นั้น ดร.อุตตม เผยว่าเป็นเรื่องจริง แต่ขอสงวนรายละเอียดไว้ และเรื่องของความขัดแย้งในอดีตที่ผ่านมาก็ยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้ง และไม่ติดใจอะไร เราก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อมาช่วยกันสร้างความปรองดอง ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ไม่มีเงื่อนไขอะไร พร้อมมั่นใจว่าพรรคสร้างอนาคตไทยจะไปต่อได้ และจะมีผู้บริหารใหม่เข้ามาทำงาน อีกทั้งยังเชื่อว่าจะมีคนทยอยเข้ามาเพิ่ม

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการกลับมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐครั้งนี้ จะส่งผลต่อความสัมพันธ์กับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ หรือไม่นั้น ดร.อุตตม ระบุว่า ความสัมพันธ์ยังปกติดีอยู่ โดยได้มีการปรึกษากันแล้ว ท่านก็ยินดี เพราะมีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน

นายสนธิรัตน์ ได้เปิดเผยความในใจในการกลับมาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐว่า เหมือนได้กลับบ้าน ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไร เรามีความคุ้นเคยกันอยู่แล้ว คิดว่าการกลับมาคือหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ประเทศเราต้องการ การเมืองอ่อนแอเพราะแตกเป็นส่วน ๆ กันมาก ทำให้ความเข้มแข็งอ่อนแอลง สถานบันการเมืองต้องมีพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง มิเช่นนั้นจะแก้ปัญหาบ้านเมืองไม่ได้

“ประชาชนต้องการทางออก ไม่ได้ต้องการความแตกแยกมุ่งร้ายทำลายกัน เรากลับด้วยความตั้งใจ เต็มใจ อย่ามองการเมืองเชิงแตกแยก แข่งขัน มันไม่มีตัวไหนที่แก้ปัญหาการเมืองได้ ถ้าไม่ใช้ความสมานฉันท์ ยึดประโยชน์พี่น้องประชาชนเป็นหลัก”

โดยได้รับเสียงปรบมือ จากแกนนำพรรค และสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัว ทั้ง 3 คน เข้าสู่พรรคพลังประชารัฐ