ส่อวุ่นวาย!ไล่ออกอิหม่ามประจำมัสยิด 5 แห่งในพื้นที่ยะลาไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา

ส่อวุ่นวาย!ไม่พอใจไล่อีหม่ามของตัวเองออกหลังถูกคณะกรรมการอิสลามยะลา ไล่ออกอิหม่ามประจำมัสยิด จำนวน 5 คนในจำนวนห้าแห่งฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา

วันนี้( 28 ธ.ค.65)ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีที่คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้ออกหนังสือไล่ออกอิหม่ามประจำมัสยิด จำนวน 5 คนในจำนวนห้าแห่ง ในพื้นที่จังหวัดยะลา เนื่องจากละหมาดอีดิ้ลอัฎฮา(ละหมาดรายอฮัจย์) ประจำปี 2565 ที่ผ่านไม่ตามคำประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี ที่ให้จัดละหมาดอีด วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ให้มีผลทั่วประเทศไทย แต่ก็ยังเกิดการปฏิบัติที่ไม่ตรงกันในบ้างพื้นที่ นำสู่ความสับสนให้กับมุสลิมทั่วในประเทศว่าเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะมัสยิดทั้ง5แห่งดังกล่าวได้จัดละหมาดอีดวันที่ 10 กรกฎาคม 2565 โดยให้เหตุผลว่า ปฏิบัติตามคำประกาศของประเทศซาอุดีอารเบีย เพราะมีที่วุกุฟที่เดียวในโลก เพื่อสร้างความเป็นเอกภาพ คิดต่างได้แต่ไม่แตกแยกของมุสลิมในประเทศไทย อาจนำสู่ความยากต่อการปกครอง

ด้วยเหตุนี้ ทางคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ภายใต้การนำของนายอิสมาอีล ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้มีมติไล่อิหม่ามจาก 5 มัสยิดในจังหวัดยะลา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา

จนกระทั่งล่าสุดเช้าวันนี้ (28/12/65) ได้มีตัวแทนประชาชน ในพื้นที่บ้านตะโล๊ะ ม.3 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา  ได้นัดรวมตัวกันที่ว่าการอำเภอรามัน เพราะไม่พอใจกับการปลดอีกม่ามของพวกเขา และยื่นหนังสือไปยังนายอำเภอรามีน และนำมวลชนเคลื่อนย้ายไปยังศาลากลางจังหวัดยะลาเพื่อยื่นหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาต่อไป เพื่อ ยับหยั่งคัดค้านการไล่ออกอิหม่ามดังกล่าว โดยทางกลุ่มได้ระบุว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ละเมิดต่อรัฐธรรมนูญไทยตามมาตรา 31 พร้อมเตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองอีกด้วยมีความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าปัญหาการออกอี๊ดหรือการรายอของพี่น้องในประเทศไทยดูเหมือน/ม่เป็นเอกภาพ แม้จะเป็นอำนาจของสำนักจุฬาราชมนตรีจะเป็นฝ่ายประกาศวันออกอิ๊ดวันฮารีรายอของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทย แต่ก็ยังมีมุสลิมบางกลุ่มบางคน พยายามที่จะออกอิ๊ดตะรายอพร้อมกับประเทศมุสลิมในบางประเทศ โดยเฉพาะในช่วงการออกอี๊ดอีดิ้ลอัฎฮา มักจะอิงติดกับประเทศซาอุดี้อาราเบีย เพราะมีในเรื่องของการประกาศวันวูกูฟทุ่งอารอฟะห์อีกด้วย แต่สำนึกจุฬาราชมนตรีด็ยังคงยึดหลักการอิสลามและหลักประเพณีที่เคยปฏิบัติกันมา

ในเรื่องการเลือกดูการมองเห็นพระจันทร์เสี้ยววันแรกของเดือนแล้วมากำหนดวันออกอิ๊ดเป็นประจำทุกปี ด้วยเทคโนโลยีที่ควรมเร็วและไว จึงทำให้เกิดกระแสนิยมได้ง่ายจึงอาจนำสู่ความแตกแยกของคนในสังคมมุสลิมกันเองยากต่อแก้ไขในภายภาคหน้าถ้าไม่สามารถหาข้อยุติได้ การออกอี๊ดหรือการรายอเฉลิมฉลองเป็นสุนัตและสุนเนาะห์นบีฯแต่ความแตกแยก ทะเลาะระหว่างพี่น่องกันเองนั้นเป็นบาปใหญ่และไม่ถูกรับรองสวนสวรรค์อีกเลย ควรคิดและตระหนักอะไรควรเป็นทางออก การออกอิ๊ดหรือการรายอเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการและความมีเอกภาพอุมมะตุลวาฮีดะห์ก็เป็นสำคัญที่สุด/ผู้นำศาสนาท่านหนึ่งกล่าว