ม่วนกรุ๊ป!ชาวบ้านชัยภูมิสนุกสนานกับมหัศจรรย์ตีคลีไฟหนึ่งเดียวในโลกปี 2565
ชัยภูมิ- ผู้ว่าฯชัยภูมิหนุ่นชาวบ้านหนองเขื่อง อำเภอเมืองชัยภูมิ สืบสานสนุกสนานร่วมกันอนุรักษ์ประเพณีการตีคลีไฟ หนึ่งเดียวในโลก ที่มีมาตั้งแต่สมัยที่เจ้าพ่อพญาแล เจ้าเมืองชัยภูมิคนแรก มาจนถึงปัจจุบัน ถือเป็นหนึ่งในมหัศจรรย์ของชาวชัยภูมิ
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.65 เมื่อเวลา19.00น.ค่ำคืนที่อากาศหนาว ที่สนามลานหลังวัดแจ้งสว่าง บ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกันจัดงานมหัศจรรย์ตีคลีไฟ หนึ่งเดียวในโลก เริ่มขึ้นกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น อิ่มอร่อยกับอาหาร ตลาดย้อนยุคเดินแซบ เดินนัว และนั่งรับประทานอาหารพาแลงพื้นบ้านของชาวบ้านหนองเขื่อง ตามตำนานการละเล่นตีคลีไฟที่นี้ ในสมัยโบราณในช่วงเกี่ยวข้าวก่อนอาบน้ำในคลองใกล้บ้านก่อนค่ำ ชาวบ้านนำท่อนต้นนุ่นแห้ง ใช้เหง้าไม้ไผ่ที่อยู่ริมห้วยมาตีแข่งกันเล่นเพื่อสร้างความสนุกนาน ลูกไม้นุ่นแห้ง ได้ถูกตีไปตกบนกองไฟ ลูกคลีได้ติดไฟ นำมาตีต่อเห็นประกายไฟ กระจายไปกับแรงตีและปลิวไปกับลูกคลีไฟอย่างสวยงามในเวลาพลบค่ำ จึงเป็นที่มาของตีคลีไฟในปัจจุบัน
ซึ่งการละเล่นตีคลีไฟ เป็นการละเล่นของชายหนุ่มบ้านหนองเขื่อง ตำบลกุดตุ้ม อำเภอเมืองชัยภูมิ โดยเอาต้นงิ้วแห้ง หรือต้นนุ่นหั่นเป็นท่อนขนาด 10 - 15 เซนติเมตร ก่อนนำมาเผาไฟเพื่อตีแข่งกีฬากัน ส่วนไม้ตีใช้เหง้าไม้ไผ่ ตรงปลายงอ ด้ามยาวประมาณ 1 เมตร ใช้ตีกันอย่างสนุกสนาน คล้ายกับกีฬาฮอกกี้ ต่อมาได้รับการแพร่หลาย และพัฒนามาเป็นกิจกรรมประเพณีที่นำมาเล่นในช่วงหลังฤดูการเก็บเกี่ยวข้าว ไปจนถึงเทศกาลปีใหม่ แข่งขันในช่วงค่ำหรือกลางคืนเท่านั้น ประกอบด้วยผู้เล่นข้างละ 7 คน ใช้ไม้จากต้นหนุนแห้ง มาตัดเป็นท่อนแล้วเผาไฟจนกลายเป็นถ่าน ให้ผู้เล่นใช้ไม้ซึ่งทำจากไม้ไผ่หัวขวานลักษณะคล้ายไม้กอล์ฟ ตีเข้าประตูของฝ่ายตรงข้าม ทีมใดที่สามารถตีลูกคลีไฟเข้ามากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
นายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นผู้เขี่ยลูกคลีไฟ ส่วนกติกาการแข่งขันจะคล้ายการแข่งขันฟุตบอล เพียงแต่ใช้ไม้ตีลูกคลีไฟแทนการเตะลูกฟุตบอล และห้ามยกไม้คลีสูงเกินเอว ส่วนผู้รักษาประตูจะใช้ส่วนไหนของร่างกายรับลูกคลีก็ได้ ในด้านอันตรายที่ผ่านมา จะพบเพียงมีการตีลูกคลีถูกหน้าแข็งของฝ่ายตรงข้าม บาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากผู้เล่นแต่ละคนจะมีน้ำใจเป็นนักกีฬาไม่มีการแกล้งกันแต่อย่างใด ซึ่งในการแข่งขันเมื่อตีลูกคลีไฟไปในทิศทางต่าง ๆ จะเป็นลูกไฟลอยไปอย่างสวยงาม สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้ชมเป็นอันมาก
แต่ในการแข่งขันที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บจากลูกไฟมากนัก จัดการแข่งขัน 20 นาที สร้างความสนุกสนานและตื่นตาตื่นใจในแสงไฟของลูกคลีไฟที่ถูกตีไปยังฝั่งตรงข้ามหวังทำประตูให้ได้มากที่สุด ซึ่งใน 1 ปี ชาวบ้านหนองเขื่อง ต.กุดตุ้ม อ.เมืองชัยภูมิจะมีการละเล่นหลังเก็บเกี่ยวข้าวในเดือนธันวาคมเท่านั้นด้วย
มัฆวาน วรรณกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค