นักท่องเที่ยว 'มาเลเซีย-สิงคโปร์'ฮิตท่องไพรเมืองพัทลุงดันเศรษฐกิจคึกคัก

นางขวัญใจ กลับสุกใส เจ้าของสวนไผ่ขวัญใจ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ ได้เดินทางมาท่องเที่ยว จ.พัทลุง เป็นจำนวนมากมาตั้งแต่ต้นปี 2566 มาจนถึงขณะนี้ เนื่องจาก จ.พัทลุง มีความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม ตลอดทั้งเรื่องของอาหารการกินที่ถูกรสชาติ ราคาถูก 

“ตลาดวันเสาร์ อาทิตย์ จะเป็นชาวมาเลเซียถึงวันละ 8 บัส นอกนั้นจะมาเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล รถตู้ และรถจักรยานยนต์ แม้กระทั่งเป้นช่วงหน้าฝนฝนตกก็แต่งตัวใส่ชุดกันฝนพร้อมกางร่มในการเดินทางท่องเที่ยว ซื้อสินค้า รับประทานอาหาร จะนิยมรับประทานข้าวขาหมู ข้าวมันไก่ และก๊วยเตี๊ยว” นางขวัญใจ ระบุ

นางขวัญใจ กล่าวอีกว่า ตอนนี้การท่องเที่ยว การค้าขาย ต้องพึ่งพาชาวต่างชาติถึง 85 % ส่วนชาวไทยที่เหลือ 15 % จะเป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียง และชาวต่างจังหวัด ตั้งแต่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี ยะลา และ จ.นราธิวาส คนในพื้นที่ปริมาณน้อยมาก ค่อนข้างจะเงียบมาก ปัจจัยสำคัญเพราะประกอบอาชีพไม่ได้ ฝนตกกรีดยางไม่ได้ อีกหลายปัจจัย จึงไม่มีกำลังซื้อ

เจ้าของสวนไผ่ขวัญใจ กล่าวอีกว่า ตอนนี้จากการทะลักเข้ามาท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ มาเลเซีย - สิงคโปร์ ส่งผลให้ตลาดธรรมชาติ อย่างส่วนไผ่ขวัญใจ นาโปเก สำเภาทอง หนานมดแดงล่องแก่งรีสอร์ต ณลณ ค่อนข้างจะมีทิศทางที่ดี ส่งผลต่อ จ.พัทลุง ทางด้านการค้าเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก

“ชาวมาเลเซีย แจ้งว่าตลาดเป็นธรรมชาติ และสินค้าควรจะปิดป้ายแสดงเป็นภาษาจีน และภาษาอังกฤษ เพื่อสื่สารให้ชาวมาเลเซีย รับทราบ เพราะสามารถสื่อสารได้ 2 ภาษา”นางขวัญใจ กล่าว 

ปัจจุบันสวนไผ่ขวัญใจ ได้มีการปรับปรุงพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ได้ขยายตัวเข้ามายังพื้นที่ จ.พัทลุง ทั้งด้านภาษา และยังยกระดับนำอาหารมุสลิมเข้ามาจำหน่ายในตลาดสวนไผ่ขวัญใจด้วย เพราะขณะนี้นักท่องเที่ยวที่เป็นชาวมุสลิมไทย และมุสลิมมาเลเซีย เข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตามลำดับ

ด้านนายวิทยา แซ่ลิ่ม มัคคุเทศก์อาชีพภาษาไทย จีน กล่าวว่า ขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียต่างมีพฤติกรรมเปลี่ยนเพิ่มขึ้น ซึ่งเมื่อก่อนจะนิยมซื้อสินค้าตามตลาดสด เช่น ตลาดสดเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา และตลาดเปิดท้ายของ ตอนนี้ได้หันเข้าไปซื้อสินค้ายังห้างแมคโครกันแล้วซึ่งบางโอกาสบางวันวันจะมีรถยนต์ส่วนบุคคลป้ายทะเบียนมาเลเซีย เข้าจอดห้างแม็คโครเป้นจำนวนมาก.

โดย...อัสวิน ภักฆวรรณ