สลดงานศพไม่เคยพบเห็น!! ตั้งสวดศพที่บ้าน ยังไม่ทันนำร่างผู้เสียชีวิตไปเผาที่วัดเกิดเหตุ เพลิงลุกไหม้บ้าน


อุทัยธานี-สลดงานศพไม่เคยพบเห็น!! ตั้งสวดศพที่บ้าน ยังไม่ทันนำร่างผู้เสียชีวิตไปเผาที่วัดเกิดเหตุ เพลิงลุกไหม้บ้าน ที่กำลังมีพิธีตั้งสวดศพกลางบ้าน !!เจ้าภาพต้องเชิญพระมาทำพิธีกลางดึกเพื่อให้ผู้ตายไปสู่สุขติ งานนี้เสียคนไปแล้วยังมาสูญเสียบ้านอีก
เมื่อเวลาตี 01.00.น ของวันที่ 01 พ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานที่บ้านทรัพย์สมบูรณ์เลขที่ 246 หมู่ 12 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ได้มีเหตุสลดเพลิงไหม้กลางดึก ขณะจัดงานศพไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากเกิดเพลิงโหมลุกไหม้ขณะที่มีร่างผู้ตายที่อยู่ในโลงเย็น แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจหาสาเหตุดังกล่าว ว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากจุดไหน
หลังจากได้รับแจ้งเพลิงไหม้กลางดึก เจ้าหน้าที่กู้ภัยอุทัยธานีจุดลานสัก ได้ประสานไปยัง นาย อนุพันธ์ สารสุวรรณ์ กำนันในพื้นที่ตำบลระบำและหน่วยข้าราชการที่เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ พร้อมประสานไปยังรถน้ำไปยังจุดเกิดเหตุจึงนำรถสน 29 พร้อมอุปกรณ์ส่องแสงสว่าง ชุดดับเพลิงขนาดเล็กเครื่องสูบน้ำ 1 หัวฉีด 2 สายต่อและอุปกรณ์ชุดผจญเพลิงกำลังอาสาสมัครพร้อมเจ้าหน้าที่ 5 นายเข้าสนับสนุนรดน้ำองค์การบริหารส่วนตำบลระบำใช้เวลาร่วม 2 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงไว้ได้ขณะนี้ยังประเมินค่าความเสียหาย
ทราบต่อมาว่าร่างผู้ตายที่อยู่ในโลงเย็นในงานจัดงานศพไว้ที่บ้านเกิดเหตุ ชื่อนายลี มาชัยภูมิ อายุ 92 ปี สภาพไหม้ไปกับเพลิงที่ลุกโหมจนเอาไม่อยู่ จากการสอบถามนางสูบรรณ อายุ 66 ปี ซึ่งเป็นญาติของเจ้าภาพที่จัดงานศพพิธีที่บ้านหลังดังกล่าว ได้เปิดเผยว่าระหว่างช่วงเที่ยงคืนกว่า ตัวป้าเองและญาติพี่น้องนอนไม่หลับได้มาพบปะพูดคุยกัน อยู่ได้กลิ่นเหม็นไหม้พร้อมกับลุกไปดูที่โลงเย็นขณะที่ศพอยู่ในโลงก็ไม่มีกลิ่นไหม้ จึงได้เดินกลับมาดูอีกที่ภายในบ้านก็เห็นเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อยู่ทางเข้าบ้าน
จากการสอบถามนายหม่ำ อายุ 50 ปี ได้เล่าเหตุการณ์ว่าตนเองกำลังตำส้มตำกลางดึกใกล้กับจุดที่เพลิงลุกไหม้ ตนเองทำอะไรไม่ถูกตอนนั้น ได้อุ้มเมียของผู้ตายออกไปจากในที่เกิดเหตุ เนื่องจากกลัวเหตุจะซ้อนเหตุ แค่ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจอีกครั้ง
สาเหตุในครั้งนี้ มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นเฉพาะทรัพย์สินก็เป็นแสน รวมกับบ้านที่เสียหายยังรวมมูลค่าไม่ได้ พร้อมกับหน่วยข้าราชการจะเข้ามาช่วยเหลือบ้านเกิดเหตุดังกล่าว พร้อมกับรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง