ฝนแล้งนาล่มใช้หนี้ 3 ปีไม่มีหมด พลิกผืนนามาเลี้ยงกบ-ขายลูกอ๊อดปลดหนี้

ฝนแล้งนาล่มใช้หนี้ 3 ปีไม่มีหมด พลิกผืนนามาเลี้ยงกบ-ขายลูกอ๊อดปลดหนี้





ad1

เกษตรกรศรีสะเกษเจอฝนแล้งนาล่มหมดตัว
พลิกผืนมามาเลี้ยงกบ ขายลูกอ๊อดปลดหนี้

โดย... เสนาะ วรรักษ์

เกษตรกรชาวศรีสะเกษเจอฝนแล้งนาล่มใช้หนี้สามปีไม่หมดทำให้ต้องขายนามาเลี้ยงกบ ขายลูกอ๊อดปลดหนี้ "เลี้ยงโดยไม่ใช้สเลนบังแดด" ทำให้กบกลายเป็นเพศเมียมีน้ำหนักมากขายได้เงินเพิ่มขึ้นนับเป็นเกษตรกรตัวอย่างที่พลิกผันชีวิตตัวเองจนประสบความสำเร็จ โดยเกษตรกรรายนี้

หนูไทย มิ่งขวัญ ชาวนาบ้านจอก อ.ศรีรัตนะ

มีชื่อว่า นายหนูไทย มิ่งขวัญ อายุ67 ปี บ้านเลขที่1 บ้านจอก หมู่2 ต.สะพุง อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเษ โดยบอกเล่าว่า ทำนาฝนแล้ง 1 ปี ใช้หนี้ 3 ปีจึงหมดหนี้ จึงหันมาปรับพื้นที่นา 8 ไร่ มาเลี้ยงลูกออ๊ดและกบ ทยอยขายนาใช้หนี้และนำมาลงทุนเลี้ยงกบเป็นล่ำเป็นสัน จนกลายเป็นฟาร์มใหญ่แห่งหนึ่งในอีสานใต้ ขายกบหลายจังหวัด ข้ามฝั่งถึงกัมพูชา

นายหนูไทย เล่าถึงแรงบันดาลที่หันมาเลี้ยงกบเมื่อ 6 ปีที่ป่านมา ว่า ตนเป็นคนที่ชอบรับประทานลูกอ๊อดและกบ แต่ด้วยที่ราคาแพง จะกินทีต้องควักเงินซื้อ 400-500 บาท จึงทดลองเลี้ยงลูกอ๊อดดู ซึ่งปรากฏว่าเลี้ยงได้จนสามารถจำหน่ายได้ เริ่มต้นจากการเพาะเลี้ยงลูกอ๊อดที่สวนยางพารา เลี้ยงทดลองดู 2-3 บ่อ แต่เมื่อเห็นว่าสามารถเลี้ยงได้และได้ขาย จึงขยับขยายมาเลี้ยงในที่นา ใช้พื้นที่จำนวน 8 ไร่ สร้างบ่อเลี้ยงและซื้อกบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์มาเลี้ยง จนมีลูกอ๊อด จากนั้นก็อนุบาลลูกอ๊อดจนเติบโตเป็นลูกกบ เลี้ยงจนเติบใหญ่จนสามารถส่งขายได้ เมื่อเห็นว่าสามารถขายได้จึงขยายพื้นที่เลี้ยง

นายหนูไทย บอกอีกว่า ในการเลี้ยงลูกอ๊อดนั้น ตนได้ทำกระชังเลี้ยงเป็นบ่อพลาสติก ขนาด กว้าง 4 เมตร ยาว 20 เมตร เลี้ยงตอนแรกไม่กี่กระชัง แต่เมื่อลูกอ๊อดเติบโตเป็นกบ ก็ได้ขยายบ่อเลี้ยงจนถึงขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้นจำนวน 30 บ่อ โดยส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาซื้อจะมาซื้อลูกอ๊อด เพราะบางรายจะซื้อแล้วนำไปเป็นเหยื่อใส่เบ็ดตกปลา และอีกส่วนก็จะนำไปประกอบอาหาร เช่น ทำหมก และอ่อม ซึ่งการเลี้ยงลูกอ๊อดนั้น 1 กระชัง จะมีลูกอ๊อดประมาณ 70-80 กิโลกรัม ส่วนกระชังกบ ก็จะมีกบอยู่ประมาณ 1 ตัน ต่อ 1 กระชัง

ส่วนในการจำหน่ายนั้น จะมีลูกค้าทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดเข้ามารับซื้อ ร่วมถึงลูกค้าจากต่างประเทศ เช่น กัมพูชา และลาว โดยจะขายลูกอ๊อดในราคากิโลกรัมละ 400 บาท ส่วนกบ จะขายในราคากิโลกรัมละ 60 บาท โดยในแต่ละปีสามารถสร้างรายได้จากการขายลูกอ๊อดและกบ 20ตัน เป็นเงินประมาณ 2 ล้านบาท

เทคนิคในการเลี้ยงกบนั้นค้นพบว่าไม่ต้องใช้สเลนบังแดดให้กับกบ เพราะถ้าแสงไม่จ้ากบเป็นแผลแล้วจะไม่หาย แต่เมื่อถูกแดดแผลจะหายไปเอง เพราะกบจะเหมือนจรเข้ เมื่อกินอาหารอิ่มแล้วก็จะนอนผึ่งแดด แดดจัดยังทำให้ลูกอ๊อดกลายเป็นเพศเมียมากกว่า ซึ่งกบเพศเมียจะตัวใหญ่น้ำหนักมากกว่าตัวผู้ ได้เงินมากขึ้น