สองโจ๋เหิมบุกอาละวาดทำร้านจนท.รพ.บ้านเหลี่ยมฉุนหมอไม่ดูแลเพื่อน(ชมคลิป)
นครราชสีมา –2 วัยรุ่น บุกอาละวาด และทำร้ายเจ้าหน้าที่ รพ.บ้านเหลื่อม อ้างแพทย์ไม่ดูแลเพื่อนที่บาดเจ็บ ก่อนชักมีดขู่ว่าเป็นกลุ่มช่างกลชื่อดังย่านฝั่งธน ท้ายสุดถูกตำรวจจับได้ พบเมากัญชา
เพจเฟสบุ๊ค “กู้ชีพ บ้านเหลื่อม” ได้นำคลิปชายวัยรุ่น 2 คน อายุประมาณ 20-25 ปี บุกเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยโรงพยาบาลบ้านเหลื่อม อ.บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา แล้วแสดงอาการไม่พอใจเจ้าหน้าที่พยาบาลที่กำลังทำการรักษาเพื่อนของวัยรุ่น ที่ได้รับบาดเจ็บอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยได้ตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่อยู่นาน ก่อนที่จะออกมาด้านหน้าโรงพยาบาล แล้วตะโกนด่าทอเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจคัดกรองประชาชน ที่กำลังต่อคิวอยู่เป็นจำนวนมาก ยังมีวัยรุ่นอีกคนกระโดนใช้เท้าถีบเจ้าหน้าที่หลายครั้ง รวมทั้งพยายามใช้รองเท้าปาใส่เจ้าหน้าที่ จนประชาชนที่มายืนรอตรวจคัดกรองแตกตื่นพากันเดินหนีกันจ้าละหวั่น ก่อนที่สักพักวัยรุ่นทั้งคู่จะวิ่งหลบหนีออกไป โดยผู้ที่โพสคลิป เขียนข้อความอธิบายเหตุการณ์ว่า
“ขอประณามการกระทำของวัยรุ่นชาย 2 คนนี้ ที่เมาแล้ว ไปเอะอะโวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่ต่างๆนานา หาว่าเจ้าหน้าที่ไม่ดูแลเพื่อนตัวเอง ทั้งๆ เจ้าหน้าที่เขาดูแลเป็นอย่างดี หมิหนำซ้ำยังไปดูหมิ่นสถานพยาบาล ดูหมิ่นพยาบาลที่ให้การดูแล ขว้างขวดน้ำเกลือลงพื้นต่อหน้าพยาบาล ที่หนักสุดคือไปอาละวาดไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลที่เค้ากำลังให้บริการผู้ป่วยท่านอื่นอยู่ คนจำพวกนี้ควรจะถูกดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นการกระทำที่รับไม่ได้จริงๆ เหตุการณ์ครั้งนี้เจ้าหน้าที่ ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่รู้สึกเสียขวัญและกำลังใจเป็นอย่างมาก เหตุการณ์นี้สังคมคิดว่าควรทำอย่างไรกับบุคคลจำพวกนี้ดี”ซึ่งต่อมาได้มีชาวโซเชี่ยล เข้าไปแสดงความคิดเห็น ตำหนิถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของวัยรุ่น 2 คนนี้เป็นจำนวนมาก
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปที่นายนิวัฒน์ ข้องนอก อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.บ้านเหลื่อม ซึ่งเป็นผู้โพสคลิป และเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้รับการเปิดเผยว่า เหตุการณ์นีเกิดขึ้นประมาณเวลา 12.15 น. ของวันที่ 9 พ.ค.65 ที่ผ่านมา ภายหลังจากที่มีวัยรุ่นหามเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บจากการตกที่สูง มาส่งที่โรงพยาบาลบ้านเหลื่อม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฯ จึงได้นำขึ้นเปลมาที่ห้องปฐมพยาบาล ซึ่งจากการตรวจอาการเบื้องต้นพบว่าชายที่ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลที่บริเวณปลายคาง จากการกระแทกกับของแข็ง และมีอาการตาเหม่อลอย เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปฐมพยาบาล และซักประวัติผู้ป่วย ส่งให้แพทย์ประเมินอาการ ซึ่งแพทย์ประเมินอาการเบื้องต้นแล้วว่าผู้ป่วยอาการไม่สาหัส แต่ก็ได้วางคิวเพื่อที่จะทำการเอ็กซเรย์คางอีกครั้ง แต่วัยรุ่น 2 คนกลับแสดงอาการเอะอะโวยวาย ไม่ฟังเสียงอะไร จะให้แพทย์มาทำการรักษาเดี๋ยวนั้นเลย ตนก็พยายามอธิบายแล้วว่ารอคิวเอ็กซเรย์ก่อน หลังจากนั้นวัยรุ่น 2 คนดังกล่าวก็แสดงอาการโมโห ตะโกนเอะอะโวยวาย ด่าทอเจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ พยาบาล แพทย์ และโรงพยาบาล ด้วยคำหยาบคายเสียๆ หายๆ หาว่าโรงพยาบาลไม่มีคุณภาพ ไร้จรรยาบรรพ์ ไม่ดูแลผู้ป่วย จะให้เพื่อนของตนตายก่อนหรือไง นอกจากนี้ยังอ้างว่า รู้หรือไม่ว่าพวกตนเป็นกลุ่มวัยรุ่นช่างกล ที่มีวีรกรรมโด่งดังในพื้นที่ย่านฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ และปริมณฑล ถ้าไม่อยากมีเรื่องก็อย่าทำให้โมโห
หลังจากนั้นวัยรุ่น 2 คนนี้ ก็ได้ออกมาอาละวาดบริเวณหน้าโรงพยาบาลฯ ทั้งด่า ทั้งทำร้ายเจ้าหน้าที่ ต่อหน้าประชาชนที่มาใช้บริการจำนวนมาก ก่อนที่วัยรุ่นเสื้อสีขาว จะชักมีดจากกระเป๋า มาข่มขู่เจ้าหน้าที่ แล้ววิ่งหนีออกไป พวกตนจึงได้เข้าไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านเหลื่อม ซึ่งต่อมาก็ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้สกัดจับวัยรุ่นทั้ง 2 คนได้แล้ว ส่วนเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ ก็มีคนมารับออกไปจากโรงพยาบาลแล้วตั้งแต่วันนั้น ตนเองจึงได้นำคลิปนี้มาโพสในโลกโซเชี่ยล เพื่อประณามการกระทำของวัยรุ่นกลุ่มนี้
ด้านนางวิไล (สงวนนามสกุล) เจ้าหน้าที่ฝ่ายซักประวัติ รพ.บ้านเหลื่อม กล่าวว่า ช่วงที่วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าว นำเพื่อนมารักษาอาการ จากการตกบันได มีแผลที่บริเวณคาง แล้วเจ้าหน้าที่กู้ชีพฯ ก็ได้นำไปทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่วัยรุ่น 2 คน เกิดไม่พอใจ หาว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล ทั้งที่ความเป็นจริงเจ้าหน้าที่กำลังดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด ตนเองก็ต้องซักประวัติผู้ป่วย จึงขอบัตรประชาชน แต่เขาก็โวยวายด่าทอด้วยคำพูดหยาบคาย พร้อมกับบอกว่า โรงพยาบาลเอะอะก็จะขอแต่บัตร เป็นอย่างนี้ทุกที่ ถ้ามีอำนาจจะสั่งปิดโรงพยาบาลทั่วประเทศทั้งหมดเลย ตนเองตกใจมากไม่เคยเห็นเหตุการณ์อย่างนี้เลย
ด้าน พันตำรวจเอก ศิวภาคย์ พวงจันทร์ ผู้กำกับการ สภ.บ้านเหลื่อม เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ชุดสืบสวนออกติดตามตัววัยรุ่นชายทั้ง 2 รายที่ก่อเหตุ และสามารถติดตามจับกุมตัวทั้งสองคนได้ในเวลาต่อมา โดยหลังจับกุมได้นำตัววัยรุ่นชายทั้งสองคนไปตรวจร่างกายพบว่า ทั้งสองคนมีสารเสพติดกัญชาอยู่ในร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาเสพสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (กัญชา) นอกจากนี้พนักงานสอบสวนยังได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะกับวัยรุ่นชายทั้งสองคนด้วย.
ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา รายงาน
