ทร.สกัดจับกุมเรือประมงเวียดนาม 2 ลำ ลูกเรือ 14 คนลักลอบทำประมงฝั่งไทย (มีคลิป)


สงขลา-กองทัพเรือภาคที่ 2 สกัดจับกุมเรือประมงเวียดนาม 2 ลำ ลูกเรือ 14 คน ขณะลักลอบทำการประมงโดยการลากอวนคู่ในพื้นที่เขตน่านน้ำภายใน จับแล้ว 14 ลำลุกเรือ 70 ราย
พลเรือโทสุนทร คำคล้าย ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้สั่งการให้เรือหลวงท้ายเหมือง ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบโดยในวันที่ 5 พฤษภาคม 2565 เวลา 04.30 น. ได้ตรวจพบเรือประมงสัญชาติเวียดนามจำนวน 2 ลำ กำลังลักลอบทำการประมงโดยการลากอวนคู่บริเวณแบริ่ง 086 ระยะ 120 ไมล์ จากทุ่นไฟปากร่องสงขลา มีผู้ควบคุมพร้อมลูกเรือทั้ง 2 ลำ รวมจำนวน 14 คน
จากการตรวจสอบพบว่าเรือประมงเวียดนามทั้ง 2 ลำ ออกมาจากเมืองกาเมา ประเทศเวียดนามวันที่ 1 พฤษภาคม 2565 โดยทำการประมงมาแล้ว 4 วัน จึงได้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือทั้งหมดมาทำการสอบสวนที่ท่าเทียบเรือฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคที่ 2 และส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ที่ 6 พฤษภาคม 2565 พลเรือตรีพิจิต ศรีรุ่งเรือง รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2 ได้เดินทางมาควบคุมดูแลการปฏิบัติ โดยเฉพาะมาตรการป้องกันโควิด-19 ทำการตรวจ ATK เข้มลูกเรือทั้ง 14 คน รวมทั้งจัดอาหารและน้ำดื่มมอบให้กับผู้ควบคุมและลูกเรือชาวเวียดนามทั้ง 14 คน เพื่อเป็นอาหารมือเช้า
พลเรือตรีพิจิต กล่าวว่า สำหรับการดำเนินคดีกับเรือประมงเวียดนาม 2 ลำพร้อมลูกเรือ 14 คน เนื่องจากเป็นการจับกุมในพื้นที่เขตน่านน้ำภายใน จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาผู้กระทำความผิดไว้ 3 ข้อหา
1. ใช้เรือประมงไร้สัญชาติทำการประมงในเขตการประมงไทย (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 มาตรา 10)
2. ร่วมกันทำการประมงพาณิชย์โดยไม่มีใบรับอนุญาตทำการประมง (ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.2558 )
3. ทำการประมงในเขตการประมงไทยโดยทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมเรือโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตาม พ.ร.ก.ว่าด้วยสิทธิการประมงในเขตการประมงไทย พ.ศ.2482 )
สำหรับการจับกุมเรือประมงต่างชาติในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 ในปีงบประมาณ 2565 การจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 10 รวมเรือทั้งหมด 14 ลำ ผู้ควบคุมเรือพร้อมลูกเรือรวม จำนวน 70 คน
สำหรับในพื้นที่รับผิดชอบของทัพเรือภาคที่ 2 มีพื้นที่ประมาณ 113,275 ตารางกิโลเมตร จะปกป้องและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลอย่างเต็มความสามารถ ไม่ยอมให้เรือประมงต่างชาติรุกล้ำเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรในการทำการประมงเป็นอันขาด
“ทั้งนี้เพื่อให้ทรัพยากรของประเทศไทย คงอยู่ตลอดไป.ทัพเรือภาคที่ 2 และ ศรชล.ภาค 2 ขอขอบคุณชาวประมง ในความร่วมมือที่ได้แจ้งเบาะแสของเรือที่กระทำความผิด”