มะนาวแพงคนหันมาบริโภคมะขามเปียกแทนดันยอดขายต้นเดียวหลักหมื่นบาท (มีคลิป)


ยุคมะนาวแพงหูฉี่คนหันมากินมะขามเปียกแทน
ดันยอดขายมะขามต้นเดียวสร้างรายได้หมื่นบาท
โดย...มานิตย์ สนับบุญ
บนความ เปรี้ยว! จี๊ดจ๊าด ๆ จากผลมะนาวที่กำลังแพงราคาสูงลิ่วในตลาดสำหรับผู้บริโภค ตกราคาขายแพงถึง ลูกละ 5 -7 บาท เป็นตัวชูสะท้อนเศรษฐกิจครัวเรือนของรัฐบาล! ยังมีผลไม้อีกหนึ่งชนิด นั่นคือ “มะขาม”ยอดขายดีเป็นพิเศษเนื่องจากคนหันมากินทดแทนมะนาวกันมาก เพราะคงจะทนแบกรับบริโภคมะนาวที่ราคาแพงระยับไม่ไหว!!! อานิสงส์มะนาวแพงส่งผลดีต่อเกษตรกรผู้ปลูกมะนามเปียกขายและมีรายได้พุ่ง
คุณลุงสุภาพ หรือ นายสมยศ ยศคำลือ อายุ 67 ปี อดีตข้าราชการ (บำนาญ) กับ คุณป้าสุภาพ ยศคำลือ อายุ 62 ปี ตั้งร้านค้า ติดริมถนนสายเส้นเลียบเมืองสายหมู่บ้านหนองกระจับ - หลังวัดสง่างาม ต.บางบริบูรณ์ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ร้านปลูกเป็นร้านค้าขายอาหารตามสั่ง, ก๋วยเตี๋ยว ,ปลาร้าสับ , ของชำนานาชนิด น้ำดื่มสะอาด แก่เพื่อนบ้านผู้บริโภค คนสัญจรผ่านไป-มา เป็นร้านติดพื้นโล่ง ใกล้บ้านโปร่งสะอาด ติดกันกับด้านหลังวัดสง่างาม ต.บางบริบูรณ์ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี
ทั้งคู่ได้นำไอเดียจากภูมิปัญญาชาวบ้านในการถนอมหารไทย เอามะขามพันธุ์กระดาน ที่ออกฝักแก่จัด สอยเก็บแกะเปลือก ค่อย ๆ แงะเมล็ดออกทั้งฝักขายเหลือแต่เนื้อมะปามเปียกตากแห้งเปรี้ยวจี๊ดจ๊าด ๆ สร้างรายได้แทนมะนาวที่มีราคาแพงยุคนี้ แกะให้เหลือแต่เนื้อมะขามแท้ ๆ ออกมา ทำเป็น “มะขามเปียก” ตากแห้ง และ บางส่วนบรรจุใส่ขวดโหลขาย
ร้านลุงสุภาพ หรือ “สมยศ” ป้าสุภาพ ที่ขายมะขามเปียก ขายจำหน่ายสร้างรายได้ขายดิบขายดีขายได้ ทุก ๆวัน คนแห่ซื้อกินทดแทนผลมะนาวที่คาแพง ในท้องตลาดกันพรึ่บพรั่บ ๆ ขณะนี้ โดยในหลังบ้าน มีต้นมะขามพันธุ์กระดานฝักใหญ่เบ้อเริ่ม เพียงต้นเดียวเท่านั้น เก็บขายในตอนนี้ ทำเงินมากกว่า 10,000 บาท แล้ว
ในปีที่แล้วตา – ยายทั้งคู่ บอกว่า “ยอดขายมะขามเปียกตากแห้งสุดปัง ! ขาย ได้จนหมดต้น ราคาขายรวมถึง 20,000 บาท / ต้น โดยปีนี้แกะขายเป็นมะขามเปียก ขายไปในราคา กก.ละ 100บาท หากนำใส่ถุง ๆ เป็นขีด ๆ ละ 10 บาท ขาย จนกว่าจะหมดต้น ทุก ๆ ปี หรือ นำใส่ขวดโหล 1กก. ขายดี หมดทุกวันเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังนำไปขายมะขามเปียก ส่งให้แม่ค้าในตลาดหน้าค่ายจักรพงษ์ ใช้ทำน้ำมะขามเปียกขาย หรือทำน้ำพริกเผาขายอีกต่อ พร้อมกับ ที่ร้านตนเองก็ยังขายอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ขายปลาร้าสับทรงเครื่อง ขายของชำเป็นหลัก ในร้านตนเองไม่ว่างเว้นลูกค้าทั้งขาจรขาประจำ
ยามว่าง ทางลุงสุภาพ วัย 67 ปี อดีตข้าราชการบำนาญ ที่ยังแข็งแรง ก็ไปสอยฝักแก่มะขาม ที่มีต้นเดียวหลังบ้านแต่ดกเต็มต้นนี้ เก็บมาทีเป็นกระบุง ๆ นำมาให้ทางภรรยา ยามที่ว่างปลอกกะเทาะเปลือกนอกรอบๆมะขามออก ใช้มีดเล็ก ๆ แคะเมล็ดออกทั้งหมด ให้เหลือแต่เนื้อ นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เป็นเนื้อมะขามสุกให้กลายเป็นเครื่องปรุงรสสีน้ำตาลเข้ม มีรสเปรี้ยวหวานกลมกล่อมธรรมชาติ
ลุงยศ และ ป้าสุภาพ ช่วยกันเล่ากรรมวิธีการทำต่อไปว่า เริ่มจากการแกะเนื้อมะขามสุกจัดออกจากฝัก แก่จัด แยกเมล็ดออกให้หมดไม่เหลือ จากนั้นนำมาปั้นเป็นก้อน และ แช่ในตู้เย็น หรือ หากจะทำเป็นน้ำมะขามเปียกรับประทานเลย เพื่อสะดวกต่อการใช้งานแทนมะนาวได้ มะขามเปียกมีอายุอยู่ได้นานหลายเดือนนำมาทดแทนให้รสชาติเปรี้ยวปรี๊ด ยังคงอยู่แต่กลมกล่อมกว่ากัน
แต่ หากเก็บไม่ดีมะขามเปียก อาจทำให้สีและรสชาติมะขามเปียกเปลี่ยนไป และ อันตรายกว่านั้นคือ การเกิดเชื้อรา และ มอดมะขาม แต่ภูมิปัญญาชาวบ้านมีเคล็ด ไม่ (ลับ) ถนอมมะขามเปียก ให้เก็บได้นานกันขึ้น แถมยังมีสีสันหลังแกะเนื้อมะขามสุกจัด และแยกเมล็ดเรียบร้อยแล้ว
ลุงยศ และป้าเล่าให้ฟังต่อไปว่า มะขามเปียกที่เราพบเห็นตามท้องตลาดทั่วไปนั้น ได้มาจากมะขามสุกจัด ที่แกะเปลือกแกะเมล็ดแล้วหมดเกลี้ยงนำมาปั้นเป็นก้อนๆ หากซื้อมาไว้นานๆเนื้อมะขามเปียกจะแห้ง เปลี่ยนสี อาจมีเชื้อราแล้วทำให้รสชาติเปลี่ยนไป และถ้ามะขามเปียกนั้นไม่ได้แกะเมล็ดออก ภายในเมล็ดมะขามจะมีหนอนเจาะเมล็ด
หากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้มะขามเปียกเสียได้ ปัญหาดังกล่าวแก้ไขได้โดย มะขามเปียกถ้าจะให้เก็บไว้ได้นาน รสชาติดี ไม่เป็นเชื้อรา ต้องนำมะขามเปียกมาถนอมด้วยวิธีการนึ่ง ซึ่งมีหลากหลายวิธีการ ดังนี้
- นำมะขามเปียกที่ได้ ทั้งที่เป็นเมล็ดหรือแกะเมล็ดแล้ว หากปั้นเป็นก้อนๆให้นำมาแยกเป็นชิ้นๆ จากนั้นนำไปนึ่ง ด้วยไหนึ่งชนิดเดียวกับที่ใช้นึ่งข้าวเหนียว นึ่งจนในหม้อน้ำร้อนเดือด 30 นาที แล้วยกออกจากเตา
- รอให้เย็น จากนั้นนำไปบรรจุขวดโหลที่มีฝาปิด สามารถเก็บไว้ได้นานกว่ามะขามเปียกปกติ ที่ไม่ได้นึ่ง ความร้อนที่ใช้นึ่ง ช่วยฆ่าตัวหนอนที่อยู่ในเมล็ดมะขาม และ มะขามเปียกที่ได้ยังมีรสชาติดี เนื้อมะขามฟูไม่แห้ง น่ารับประทานและ มีความหอมอีกด้วย
ทังนี้ มะขามเปียกเป็นสิ่งที่ต้องมีติดไว้ในครัวเรือน เพราะเป็นส่วนประกอบในการปรุงอาหารมากมาย ซึ่งในช่วงฤดูที่มะขามเปียกมีมากคือช่วงหน้าแล้ง ชาวบ้านจะรีบเก็บกักตุนไว้ปรุงอาหาร
ดังนั้น ยังมีต่อไป ก็มีอีกวิธีในการถนอมมะขามเปียก นอกจากข้างต้น คือ เรามาทำการเก็บรักษามะขามเปียกให้ได้นาน เป็นปีก็ไม่เสียเช่นกัน หากเราไม่นึ่ง ก็นำเอาไปตากแห้งผ่านแดดแรงๆ 1 -2 แดดในหน้าแล้งนี้ ให้แห้ง แล้วมาเคล้ากับเกลือคลุกบางๆกันเสีย กำ-ปั้นม้วนเก็บตากไว้ในกระด้งไม้ไผ่ หรือใส่ขวดโหลแก้วที่ดูน่ารับประทานกว่า