“ยางพุ่ง”น้ำยางสดราคาแซงยางรมควัน 68 / 65 - 66 บาท / กก.


พัทลุง-ราคาน้ำยางสด ราคาขยับมาอยู่ที่ 68 บาท / กก. ขณะที่ยางรมควันอยู่ที่ 65-66 บาท / กก. ซึ่งตามปกติยางรมควันราคาจะสูงกว่าไม่ต่ำกว่า 6 บาท / กก. เหตุ ปัจจัยทางภาคอีสาน ภาคตะวันออก ต่างปิดหน้ากรีด หยุดกรีดยาง
นายกัมปนาท วงศ์ชูวรรณ ผู้จัดการ เกษตรกรทำสวนธารน้ำทิพย์ สถาบันเกษตรกรแปรรูปยางส่งออกรายใหญ่ทางภาคใต้ เปิดเผยว่า ราคาน้ำยางสด ราคาขยับมาอยู่ที่ 68 บาท / กก. ขณะที่ยางรมควันอยู่ที่ 65-66 บาท / กก. ซึ่งตามปกติยางรมควันราคาจะสูงกว่าไม่ต่ำกว่า 6 บาท / กก. จากค่าบริหารจัดการ
“ปัจจัยสำคัญตอนนี้ยางพารามีไม่พอ ปัจจัยทางภาคอีสาน ภาคตะวันออก ต่างปิดหน้ากรีด หยุดกรีดยาง ส่วนทางภาคใต้ปริมาณน้ำยางก็ปริมาณน้อย เพราะปิดหน้ากรีดไปแล้วบางส่วนหลายจังหวัด ตอนนี้ยางหายไปจากตลาดประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ โดยภาพรวม”
นายเรืองยศ เพ็งสกุล ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อยถ้ำพรรณรา (วคยถ.) และกรรมการสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย (ส.ค.ย.) เปิดเผย ว่า ในพื้นที่เครือข่ายตอนนี้น้ำยางสดหดหายไปเหลืออยู่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นฤดูกาลเริ่มทยอยปิดหน้ากรีด คาดประมาณว่าต้นเดือนมีนาคม 2565 จะปิดหน้ากรีดไปทั่วเป็นไปตามฤดูกาล แต่จะยังมีอยู่ที่มีการกรีดประเภทหยุดวันเว้นวัน
วันนี้ในกลุ่มตนไม่มียางซื้อขาย ตอนนี้ราคาจะใกล้เคียงกันระหว่างน้ำยางสดกับยางรมควัน ซึ่งแต่เดิมยางรมควันจะสูงกว่าน้ำยางสดประมาณ 6 บาท / กก.แต่วันนี้ราคาจะแคบลง เพราะความต้องการน้ำยางสดปริมาณมากที่ต้องการนำไปแปรรูปเป็นน้ำยางข้นเพื่อนำไปแปรรูปผลิตภัณฑ์ถุงมือยางที่เป็นปริมาณมาก เพราะโควิดโอไมครอน กำลังขยับขึ้นอีกระลอก ประมาณว่าในปี 2565 ยางพารา ยังจะมีราคาที่ดีตลอดทั้งปี
แหล่งข่าวจากชาวสวนยางพารา เปิดเผยว่า ขณะนี้ทาง จ.พัทลุง จ.สงขลา มีฝนตกลงมาบ้างหยุดบ้างก็สามารถกรีดยางพาราได้บ้าง ส่งผลให้ต้นยางพาราชุ่มชื่นทำให้ต้นยางได้รับน้ำฝนอยู่ส่งผลให้น้ำยางหดหายไปบ้างก็ตาม แต่ก็ยังส่งผลให้กรีดยางอยู่ได้แม้จะมีปริมาณน้ำยางไม่มากก็ตาม.