เปิดแล้ว!“แม่ขรี”ศูนย์ธุรกิจการค้าพัทลุงตอนล่างปลุกศก.ใต้


พัทลุง-“แม่ขรี” ศูนย์ธุรกิจการค้าพัทลุงตอนล่าง เปิดตลาดครบเครื่องต้นเดือนกุมภา 65 สัญญาณหมุนเวียนทางเศรษฐกิจเชิดหัวแล้ว จากเศรษฐกิจการเกษตรที่ดีขึ้น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน โค หมู ไก่ สัตว์น้ำ การท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
นายสำราญ สุบรรณวงศ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่ขรี อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลแม่ขรี ได้ทำการเปิดตลาดการค้าที่เป็นศูนย์กลางการค้าปลีก สินค้าเกษตร ปศุสัตว์ ประมง ที่มีผู้ขายผู้ซื้อมาจากหลายจังหวัดตั้งแต่ จ.นครศรีธรมราช จ.สงขลา ฯลฯ และรับซื้อรับขายส่งออกไปยังต่างจังหวัดและตลาดที่กรุงเทพฯ
เขตเทศบาลตำบลแม่ขรี มี 4 ตลาดนสำคัญ เช่นตลาดหลังวัด เปิดบริการตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึง 05.00 น. ที่ผู้ซื้อผู้ขายทั้งใน จ.พัทลุง และจาก จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สงขลา ตลาดสมพร ตลาดวันอังคาร ตลาดโต้รุ่ง และตลาดคนเดินกลางใจเมือง
นอกจากห้างร้านค้าปลีกค้าส่ง ยานยนต์ ก่อสร้าง ศูนย์การแพทย์ที่มีคลินิกหลายแห่งและโรงพยาบาล ศูนย์การเงิน มีธนาคารจำนวนหลายแห่ง
“แม่ขรี เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจการค้าการบริการของจังหวัดพัทลุงตอนล่าง ที่ประกอบด้วย อ.ตะโหมด ป่าบอน ปากพะยูน กงหรา เขาชัยสน และ อ.บางแก้ว และสำคัญเทศบาลตำบลแม่ขรี ตั้งอยู่เส้นผ่าศูนย์กลางริมถนนเพชรเกษมสายหลัก เชื่อมโยงระหว่างภูมิภาคทั่วประเทศของไทย” นายสำราญ กล่าว
สำหรับในช่วงปกตินั้นทั้งค้าปลีกค้าส่ง บางร้านทำยอดขายวันละ 500,000 บาท เนื้อสัตว์โดยเฉพาะหมูทำยอดขายไม่ต่ำกว่าวันละ 30-50 ตัว ลูกชิ้นแปรูปไม่ต่ำกว่าวันละ 500,000 บาท ในช่วงเทศกาล ยังไม่นับถึงโคและไก่และสัตว์น้ำ ฯลฯ ภาพรวมจะมีเงินหมุนสะพัดไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท / เดือน ในช่วงปกติ
นายสำราญ กล่าวว่า จากที่ซบเซามาเกือบ 2 ปี จากสถานการณ์โควิด 19 และเมื่อได้เปิดมาตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธุ์ 2565 เป็นต้นมา สัญญาณเศรษฐกิจการค้าขายเริ่มเชิดหัวขึ้นตามลำดับ จากภาวะเศรษฐกิจที่เป็นปัจจัยหนุนหลายตัว เช่นยางพารากว่า 66 บาท / กก. (วันที่ 20 กพ.65) ปาล์มน้ำมันเคยสูงสุดถึง 12 บาท / กก. ขณะนี้มาอยู่ที่ระดับ 8 บาท / กก ตลอดจนถึงพืชผลการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง และการท่องเที่ยวธรรมชาติ
และแนวโน้มแม่ขรี จะมีสัญญาณที่ดีขึ้นตามลำดับ จากปัจจัยที่หนุน คือโครงการขยายถนน 4 เลน สายแม่ขรี กงหรา ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ระหว่าง 3 จังหวัด หาดใหญ่สงขลา พัทลุง และตรัง ด้วยงบประมาณ 190 ล้านบาทที่ได้หยุดชะงักไปก่อนน้านั้นเมื่อได้รื้อโครงการขึ้นมาใหม่
ซึ่งเป็นเส้นทางเศรษฐกิจสายสำคัญ โดยเฉพาะจำอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปมา และโดยเฉพาะการเข้าไปท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งเป็นกระแสที่มาแรง ของ จ.พัทลุงและมีโครงการสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา งบลงทุนประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท ระหว่าง จ.พัทลุง จ.สงขลา จะส่งเสริมให้มีผู้เข้ามาใช้บริการทางการค้าขายอีกจำนวนมาก
“ทั้งหมดนี้จะเห็นสัญญาณการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน” นายสำราญ กล่าว