ไม่กลัวเวรกรรม! ครูใบ้-หูหนวก ถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกเงินเก็บสูญกว่า 20,000 บาท

แก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกเงินครูใบ-หูหนวก

ไม่กลัวเวรกรรม! ครูใบ้-หูหนวก ถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกเงินเก็บสูญกว่า 20,000 บาท





ad1

21 ธ.ค. 2564 ข่าว-ทุกข์ชาวบ้าน - ระวังภัย!แก๊งค์คอลเซนเตอร์หลอกครูหูหนวกให้โอนเงิน 9,000บาทและเงิน20,000 บาท  ก่อนหน้าหลอกให้ลงทุนสูญหมดมากกว่า 20,000 บาทยังไม่ได้คืน  ชวนสลดครูดังกล่าวหูหนวกพูดไม่ได้ใช้เพียงภาษามือก่อนหน้าเธอได้แท๊งบุตร หลังจากที่สมรถกับสามีที่พิการทางหู และ  การพูดเหมือนกัน   และ เก็บเงินสะสมเพื่อซื้อรถยนต์ในการใช้เดินทางจาก จ.สระแก้ว มาทำงานที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อเตือนระวังภัยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากแก๊งค์คอลเซนเตอร์อีก

เมื่อเวลา22.30 น. วันนี้ 20 ธ.ค.64  ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีได้รับการร้องทุกข์ชาวบ้าน  จากนางสาวกัญญา (ขอสงวนนามสกุล)  อายุ 27 ปี   ครูผู้ช่วย โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดปราจีนบุรีสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจังหวัดปราจีนบุรี เป็นคนพิการทางหู และการพูด ใช้สื่อสารได้เพียงภาษามือ   พร้อมฝ่ายบริหารโรงเรียนฯเพื่อนครูและล่ามแปลภาษามือ  ได้มาร้องทุกข์เพื่อลงประจำวันที่ สภ.เมืองปราจีนบุรี เนื่องจากถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ Call Center ขอเป็นเพื่อนผ่านทางเฟชบุ๊ค และจากนั้นได้ติดต่อแชทกันผ่านทางไลน์ส่วนตัวขอให้ร่วมลงทุน  โดยให้นางสาวกัญญาฝากเงินผ่านทางธนาคารธนาคารแห่งหนึ่ง แล้วได้ผลจะได้ผลตอบแทนครั้งละเท่าตัว   ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมาที่ผ่านมา  โดยผู้เสียหายเข้าใจว่าเป็นการฝากเงิน   ได้จ่ายเงินลงทุนหมดไปแล้วกว่า 20,000 บาท

ครั้งล่าสุดในวันนี้(20ธ.ค.) ได้ถูกแก๊งค์คอลเซนเตอร์  โทรศัพท์ติดต่อขอเงิน   แต่ทาง น.ส.กัญญา ไม่มีเงินโอนให้จึงได้ขอเงินขอยืมเงินจากเพื่อนครู  เป็นเพื่อนร่วมงานพนักงานโรงเรียนโสตศึกษา จำนวน 9,000 บาท และจะให้ผลตอบแทนในการลงทุน จำนวน 20,000 บาท  แต่ทางเพื่อนครูหลังทราบเรื่อง  เกิดเฉลียวใจ  แล้วมีการสอบถามขึ้นจึงทราบปัญหาดังกล่าว ว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาในการถูกให้ร่วมลงทุนนั้น ทางแก๊งค์คอลเซนเตอร์มีแต่การขอให้รวมลงทุน แต่ ผู้ลงทุนยังไม่เคยได้รับผลประโยชน์ตอบแทนแต่อย่างใด และจากรับฟังเสียงผ่านทางโทรศัพท์ บุคคลดังกล่าวพูดสำเนียงภาษาไทยไม่ชัดเจนคล้ายชาวต่างชาติ

คาดว่า น.ส.กัญญาถูกหลอกผ่านการเปิด Facebook –ไลน์   หมดเงินไป 2 หมื่นกว่าบาท    และลาสุด ต่อมาทางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้โทรมาทวงเงินอีกรอบ   ซึ่งในการตั้งใจฟังแล้ว  บุคคลดังกล่าวปรากฏว่าพูดภาษาไทยไม่ชัดเจน 

ทางเพื่อนครู  ,  ฝ่ายบริหาร   นำโดยนางสาวลลิตา รองผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษา  พร้อมด้วย ล่ามแปลภาษามือ   จึงพานางสาวกัลยา   มาลงบันทึกประจำวัน สภ.เมืองปราจีนบุรี   เพื่อร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนในการติดตามในคดีดังกล่าวและแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนทั่วไป

นางสาวลลิตา รองผู้อำนวยการโรงเรียนโสตศึกษา  กล่าวว่า  ผู้เสียหายเป็นผู้พิการทางหู และไม่สามารถพูดได้ ใช้ได้เพียงภาษามือ  อ่านออกเขียนได้ ได้ถูกหลอกลวง  ผ่านทางเฟสบุค และออนไลน์  ในการชักชวนให้ร่วมลงทุน   โดยผู้เสียหายได้แจ้งให้ผู้ชักชวนทราบว่าพิการ และ ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมบุคคลทั่วไปในสังคม  โดยก่อนหน้าเธอได้แท๊งบุตร หลังจากที่สมรถกับสามีที่พิการทางหูและการพูดเหมือนกัน   และเก็บเงินสะสมเพื่อซื้อรถยนต์ในการใช้เดินทางจาก จ.สระแก้ว มาทำงานที่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อเตือนระวังภัยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อจากแก๊งค์คอลเซนเตอร์อีก”นางสาวลลิตา  กล่าว

ต่อมา พ.ต.อ.กสินธุ์ ธำรงศรีสุข. ผกก.สภ.เมืองปราจีนบุรี  ได้ลงมาดูแลการสอบสวนพร้อมกล่าวกับฝ่ายบริหารโรงเรียนโสตฯ-เพื่อนครู  และ ผู้สื่อข่าว   ว่า  เบื้องต้นนี้ทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรีได้รับคดีไว้ได้เร่งรวบรวมพยาน-หลักฐานในการติดตามหาตัวผู้กระทำผิด  

ขอให้ผู้เสียหายได้ไปรวบรวมหลักฐานเกี่ยวกับบัญชีในการโอนเงินแต่ละครั้งของธนาคาร รวมทั้งหมด 6 แผ่น  เพื่อเป็นระบบนำไปสู่เบาะแสหรือหลักฐานหาตัวของผู้หลอกลวงให้ลงทุน   ในการติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในการดูทางเดินบัญชีผ่านทางธนาคาร   

ในเบื้องต้นนี้แก๊งค์ดังกล่าวแจ้งว่าไม่กลัวตำรวจไทย -สำเนียงไม่ชัดเจน คาดเป็นแก๊งชาวต่างชาติ   ที่มีที่ตั้งที่ทำการอยู่นอกประเทศ    ที่เคยมีข่าว โด่งดังมาแล้ว   ในการหลอกลวงคนไทยไปทำงานเกี่ยวกับโลกโซเชียลในการลงทุนทางออนไลน์