โผล่อีก 1 เหยื่อฝรั่งคลั่งบ้ากามแจ้งความเอาผิดข้อหาอนาจาร-ทำร้ายร่างกาย(มีคลิป)
ขอนแก่น -โผล่อีก 1 เหยื่อฝรั่งคลั่งบ้ากาม เป็นสาววัย 12 ปีขายน้ำผึ่งริมถนนมิตรภาพ ถูกคนร้ายจอด จยย.ก่อนบุกเข้ามากระชากคอเสื้อหวังจะข่มขืนริมถนนมิตรภาพ โชคดีคนขับรถพ่วงจดช่วยเหลือไว้ทัน วอนตำรวจเร่งล่า
จากกรณีคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ ก่อเหตุข่มขืนและทำร้ายร่างกาย น.ส.มนัสนันท์ กลิ่นสุคนธิ์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88 ม.1 ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ่ง จ.ลพบุรี ซึ่งเป็นพนักงานประจำร้านดีนะ นวดแผนไทย ซึ่งตั้งอยู่ เลขที่ 3 ถ.รอบเมือง ด้านหลังวิทยาลัยอาชีวะศึกษาขอนแก่น จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งล่าสุดอาการปลอดภัยแล้วแต่ยังต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยที่ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนร่วม ภ.จว.ขอนแก่น,สภ.เมืองขอนแก่น,กก.สส.ตม.4,ตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจทางหลวง ได้เร่งติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายตามหมายจับของศาล จ.ขอนแก่น ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปอย่างต่อเนื่อง
ความคืบหน้าในเรื่อนี้เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 2 ต.ค.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ที่ร้านขายน้ำผึ้งแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ริม ถ.มิตรภาพต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังรับแจ้งว่าเป็นจุดที่คนร้ายรายดังกล่าวก่อเหตุกระทำอนาจารและพยายามข่มขืนนักเรียนสาววัย 12 ปีในจุดดังกล่าวขณะที่จะหลบหนีหลังก่อเหตุข่มขืนและทำร้ายร่างกายพนักงานร้านดีนะนวดแผนไทย
โดเมื่อไปถึงพบกับ น.ส.เอ (นางอุทัย แสงสยาม) อายุ 32 ปีอยู่บ้านเลขที่130 ม.5 ต.ตอประดู่ อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น มารดาของน้องน้ำ (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี เด็กหญิงที่ถูกชายชาวต่างชาติ ทำอนาจาร ที่ร้านขายน้ำผึ้งดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.วันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา
น.ส.เอ กล่าวว่า ครอบครัวเป็นชาวอำเภอโนนศิลา มีอาชีพขายน้ำผึ้งริมถนนมิตรภาพ แต่ช่วงโควิด-19 ค้าขายไม่ดี จึงได้ย้ายมาตั้งแผงขายน้ำผึ้งที่ริมถนนมิตรภาพ อ.บ้านไผ่ โดยแบ่งเป็น 2 ร้าน ร้านแรกตนเองเป็นคนเฝ้าและขาย ร้านที่สองสามีเฝ้าและขาย ทั้งสองร้านอยู่ห่างกันประมาณ 500 เมตร และช่วงโควิดระบาด ลูกสาวไม่ได้ไปโรงเรียนจึงมาช่วยพ่อแม่ขายน้ำผึ้ง โดยช่วยพ่อขายอยู่ที่ร้าน ซึ่งจากการสอบถามลูกสาว ทราบว่า ในวันเกิดเหตุ หลังกินข้าวเที่ยงแล้ว พ่อเข้าป่าบริเวณหลังร้านไปตัดไม้มาซ่อมแซมร้าน โดยให้ลูกสาวขายน้ำผึ้งที่ร้านคนเดียว โดย จังหวะนั้นเห็นรถจักรยานยนต์วิบากบังโคลนสีแดงขาว โครงรถสีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับผ่านร้าน มุ่งหน้าไปตามถนนมิตรภาพ มาจอดข้างร้านริมถนนมิตรภาพ ก่อนที่จะ เข้ามากระชากคอเสื้อและปลุกปล้ำเพื่อจะข่มขืน ลูกสาวได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ โดยคนร้ายก็ต่อยที่ปากลูกสาว 1 ครั้ง ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว มีคนขับรถบรรทุกพ่วง ขับผ่านมาพบเหตุ จึงได้จอดรถและบีบแตรเสียงดัง คนร้ายจึงปล่อยตัวลูกสาว แล้วก็ลุกขึ้นขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามถนนมิตรภาพ
ขณะที่ น้องน้ำ กล่าวว่า อายุ 12 ปี กล่าวว่า ขณะกำลังแกะกล่องข้าวจะรับประทานก็พบเห็นชายชาวต่างชาติดังกล่าวขับรถผ่านไป ก่อนที่ชายชาวต่างชาติจะขับย้อนศรมาแล้วอ้อมมาที่ด้านหลังของตนเอง ก่อนจะจับคอเสื้อของตนเองกระชากจนตนเองล้มลง แล้วคนร้ายก็จับแขนขาตนเองพร้อมกับพูดภาษาอังกฤษจับใจความได้แค่ NO หลายครั้ง ตนเองพยายามร้องตะโกนให้คนช่วยและใช้เท้ายันคนร้ายเอาไว้ซึ่งคนร้ายโน้มตัวลงมาจะหอมแก้ม พร้อมทั้งชกเข้าที่ปากตนเองจนเจ็บ โดยคนร้ายได้รูดซิบกางเกงออกแล้วควักเอาอวัยวะเพศออกมา แต่โชคดีที่มีรถพ่วงบรรทุกน้ำมันเห็นเหตุการณ์ได้บีบแตรไล่คนร้าย แล้วจอดรถลงมาช่วย ทำให้คนร้ายรีบขับรถจักรยานยนต์วิบากหลบหนีไปตามถนนมิตรภาพ ขับรถย้อนศรเข้าไปในเขต อ.บ้านไผ่
ในเวลาต่อมา น.ส.เอ ได้พา น้องน้ำ เข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.บ้านไผ่ เพื่อชี้ภาพรูปหน้าคนร้าย ภายหลังเห็นภาพหน้าคนร้ายที่พนักงานสอบสวนเอาให้ดู น้องน้ำ กล่าวว่า คนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติคนเดียวกันกับคนที่ทำร้ายหมอนวดที่อยู่ร้านนวดดีนะ ในเมืองขอนแก่น เพราะจำใบหน้าได้ เนื่องจากในวันเกิดเหตุ ชายชาวต่างชาติไม่ได้ปิดบังใบหน้า ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย ส่วนเสื้อผ้าก็เป็นชุดเดียวกันกับวันที่ใส่ไปในร้านนวด ส่วนรถจักรยานยนต์ก็เป็นรถวิบากสีแดงขาว โครงรถสีดำ จึงชี้ภาพยืนยันกับพนักงานสอบสวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่ พ.ต.ท.มนตรี สุปะตำ รอง ผกก.(สส.)สภ.บ้านไผ่ กล่าวว่า หลังจากพนักงานสอบสวนรับแจ้งความจากมารดาของเด็กหญิงรายดังกล่าว ก็ส่งรายละเอียดมายังชุดสืบสวน จึงได้ลงพื้นที่ทำการสืบสวนหาเบาะแสคนร้าย จนได้ภาพจากวงจรปิดตามจุดต่างๆบนถนนมิตรภาพ พบว่าคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์วิบาก ไปตามถนนใตรภาพ มุ่งหน้าไปทางอ.พล และไปจ.นครราชสีมา ซึ่งภาพรถจักรยานยนต์และคนขับขี่นั้น ได้นำมาให้เด็กหญิงดูแล้ว ยืนยันว่า ใช่คนร้ายที่เป็นชายชาวต่างชาติที่ทำการอนาจารในวันดังกล่าว และยืนยันว่าเป็นคนร้าย รายเดียวกันกับคนที่ทำร้ายหมอนวด ซึ่งทราบว่า ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้พนักงานสอบสวนได้ประสานทีมสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำเด็กหญิงรายดังกล่าว จากนั้นก็จะรวบรวมหลักฐานที่ได้ ขอศาลออกหมายจับ จับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย