(คอลัมนีสต์)เพื่อพระพุทธศาสนา

พุทธศาสนา

(คอลัมนีสต์)เพื่อพระพุทธศาสนา





ad1

(คอลัมนีสต์)                                                            @เพื่อพระพุทธศาสนา                                          โดย..ดร.สุวิจักขณ์ ภานุสรณ์ฐากูร                          .

..ประโยคที่ว่า "ไปไม่กลับ หลับไม่ตื่น​ ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น”

คนส่วนมาก รวมทั้งเราด้วย ก็จะเข้าใจว่า พระท่านบอกให้ปลงว่า

ไปไม่กลับ ก็ = ตาย
หลับไม่ตื่น ก็ = ตาย
ฟื้นไม่มี ก็ = ตาย
หนีไม่พ้น ก็ = ตาย ใช่ไหม?

     แต่พระท่านแสดงธรรมว่า
เราท่านทั้งหลายเข้าใจความหมายผิดหมดเลย เราควรจะทำความเข้าใจเสียใหม่ ให้ถูกต้อง จะได้ไปสอนลูกหลานให้เข้าใจ ดังนี้
     จะว่าไปแล้วแปลได้ 2 แบบ คือ
1 ไปอย่างพระพุทธเจ้า ไม่มีทางหวนกลับมาอีกเลย กับ
2 "ไปไม่กลับ" หมายถึง 'กาลเวลา' ที่หมุนผ่านไป ไม่มีวันหวนกลับ อดีตล่วงไปแล้ว เหลือแต่ปัจจุบัน ควรใช้เวลาสร้างแต่ความดีให้คุ้มค่า
     แปลได้อีก 2 แบบเหมือนกันคือ
1 ปุถุชนยังคงหลับไหลกันอยู่ไม่มีใครตื่นกันจริง ๆ สักคน กับ
2 "หลับไม่ตื่น" หมายถึง คนที่ยังหลงอยู่กับ 'โมหะ' ความหลงใน 'กิเลส' สร้างแต่บาปกรรม ไม่ยอมทำความดี เหมือนคนที่หลับไหล ไม่ยอมตื่นรับรู้ตามความจริง
     ยังคงแปลได้อีด 2 แบบเหมือนเดิมคือ
1ก็ในเมื่อยังหลับอยู่ จะฟื้นคืนสติได้อย่างไร เมื่อสติไม่มากำกับชีวิตจึง ดำรงคงอยู่ยาก  
2 "ฟื้นไม่มี" หมายถึง 'สังขารของเราที่ร่วงโรยไป' ในแต่ละวัน ไม่สามารถย้อนคืนความหนุ่มความสาวได้
     แปลได้ 2 แบบเหมือนเคย
1ก็ใครเล่าสามารถพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดนี้ได้ นอกจากผู้ไปแล้วด้วยดีอย่าง พระพุทธเจ้าอย่างพระอรหันต์
2"หนีไม่พ้น" หมายถึง 'กรรม' ที่เราสร้างมาในแต่ละวัน ไม่มีวันที่เราจะหนีกรรมนั้นพ้น

สรุปว่า ท่านบอกให้เรา
ไม่ประมาทใน 'กาลเวลา'
ไม่ประมาทใน 'กิเลส'
ไม่ประมาทใน 'สังขารที่ล่วงไป'
ไม่ประมาทใน 'การสร้างบุญกุศล'????????????

    และต่อจากนี้หลังจากที่กล่าวนำจบไปผมจึงขอเริ่มเรื่อง ทุกวันนี้ข่าวที่เกี่ยวกับความเสื่อมเสียเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ทุกข่าวที่เกิดขึ้นผมไม่ค่อยได้ให้ความสนใจ นาน ๆ อาจจะถามคนข้าง ๆ ดูบ้างเท่านั้น 

     ที่เป็นเช่นนั้นเพราะ ผมเชื่อตามหลักจิตวิทยาว่า "เราให้ความสนใจกับเพิ่มน้ำหนักในเรื่องอะไร เรื่องนั้นจะทวีมากขึ้น"
     ลองไม่มีคนเสนอข่าวดูหน่อย หรือเปลี่ยนจากข่าวเสื่อมเสีย เป็นข่าวส่งเสริมดูบ้าง เพื่อเพิ่มพลังในทางบวกให้กับ พระพุทธศาสนาดูบ้าง...
     พระดี ๆ ยังคงมีให้กล่าวถึงให้ไปทำข่าวอยู่มาก แต่ข่าวอาจดูไม่เร้าใจกันหรืออย่างไร จึงจะทำแต่ข่าวคนที่"ไม่ใช่พระ" (อาศัยผ้าเหลืองเท่านั้น) เพียงเพื่ออยากได้ข่าว 

ผมอยากจะเน้นย้ำในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง 
     มีคนไปหาแม่ชีเทเรซ่าแล้วบอกให้ท่านไปช่วยรณรงค์ต่อต้านสงคราม ท่านบอกไม่ขอไปงานนี้ มีคนถามว่าทำไมไม่ไปท่านได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพนะ ท่านตอบว่าก็นั่นหนะสิฉันได้รับรางวัลสาขาสันติภาพ ถ้ามาชวนฉันไปร่วมรณรงค์เพื่อสันติภาพฉันไป แต่ถ้าต่อต้านสงครามฉันจะไปทำไม (เหมือนกับจะบอกว่ามันผิดสาขา)
     ถ้านำเอามุมมองนี้มาใช้กับพระพุทธศาสนาล่ะ ข่าวเสื่อมเสียก็ลดลงไปเพื่มเติมข่าวส่งเสริมขึ้นมาแทน ผมว่าควรจะเบา ๆ ลงบ้างกับการขยี้หัวใจชาวพุทธ ด้วยชาวพุทธกันเอง หรือที่ขยี้อยู่อาจจะไม่ใช่

     ขอให้นึกถึงในหลวงครับ

     ในหลวงของเราพระองค์ทรงบวชในพระพุทธศาสนา ดังนั่นเชื่อได้ว่า มีสิ่งดี ๆ ในสิ่งนี้แน่ ๆ ขยายความสิ่งนั้นให้เพิ่มขึ้นครับ 
     หวังว่าสังคมจะมอบเห็นคุณค่า ต่อพระสงฆ์มากยิ่งขึ้นครับ.