น้ำมันราคาสูงปรี๊ด!! นายกฯบอกให้ตรวจสอบไปแล้ว ต้องเป็นการขอความร่วมมือโรงกลั่น บังคับไม่ได้เพราะมีกฎหมายคุ้มครอง

14 มิ.ย. 2565  จากกรณีที่ นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้ออกมาลั่น ราคาน้ำมันคนไทยโดนปล้น ค่ากลั่นน้ำมันขึ้นพรวด 10 เท่าในปีเดียว ฟันกำไรจนประชาชนเดือดร้อน  กองทุนน้ำมันติดลบใกล้แสนล้าน  เสนอกำหนดเพดานค่ากลั่นกันค้ากำไรเกินควร และเก็บ “ภาษีลาภลอย” บริษัทน้ำมันนำกำไรส่วนเกินช่วย ปชช. “อรรถวิชช์” เตรียมยกร่างแก้ กม. ชงให้พิจารณา ขณะเดียวกัน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องนายกฯ ปลด นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการพลังงานออกจากตำแหน่ง เนื่องจากละเลยต่อการแก้ปัญหาค่าน้ำมันที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ทั้งยังไม่เข้าร่วมการชี้แจงต่ออนุกรรมาธิการฯ ซึ่งติดตามการแก้ไขปัญหาบรรเทาผลกระทบต่อราคาพลังงานกับประชาชน และเสนอให้ตั้งนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแทน

เมื่อเวลา 12.00 น. วานนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล  พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันที่พรรคกล้ามีข้อเสนอให้ลดค่ากลั่นน้ำมันว่า ตอนนี้กำลังหาทางอยู่ ตนให้ตรวจสอบไปแล้ว ต้องเป็นการขอความร่วมมือ เพราะกฎหมายมันมีอยู่ เราก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ทำให้ได้มากที่สุด ก็ต้องไปติดตามด้วยว่าราคาน้ำมันราคาเท่าไร เพราะราคาขึ้นเกือบทุกวัน ซึ่งรัฐบาลก็ลดภาษีไปเยอะพอสมควร ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินหรือซับซิไดซ์ ก็เหลือแต่โรงกลั่นที่มีกฎหมายคุ้มครองเขาอยู่ ซึ่งก็ขอความร่วมมือเขาไปแล้ว ซึ่งตรงนี้รับทราบจากนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน รัฐบาลก็ทำทุกอย่างเต็มที่ในกรอบที่สามารถดำเนินการได้

ในกรณีกองทุนน้ำมันติดลบใกล้แสนล้านบาท นายกฯ ถามกลับว่า "แล้วจะให้ทำอย่างไร?"  ลองไปดูที่อื่นใช่เฉพาะประเทศไทยหรือเปล่า ก็เป็นกันทุกที่ เราก็ดูแลหลายมิติ ไม่ว่าเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแก๊ส ค่าอะไรต่างๆ ซึ่งก็ต้องใช้เงินจำนวนมากๆ  ครอบคลุมทุกมิติ การดูแลประชาชนต้องใช้เงินจำนวนมากๆ ซึ่งทางออกหาเงินเข้ามาก็มีไม่กี่วิธีที่ต้องหาเงินเข้ามาเสริมตรงนี้  ให้เปรียบเทียบดู กับประเทศอื่นๆเขา ว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้าง  ราคาน้ำมันก็เห็นอยู่แล้วว่าต่างแค่ไหนอย่างไร ต้องมองบริบททั้งหมดที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกด้วย.