ผู้อพยพหนีการสู้รบจากสระแก้วทยอยมาพักที่ศูนย์พักพิงปราจีนบุรีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ปราจีนบุรี –  ผู้อพยพหนีการสู้รบจากสระแก้วทยอยมาปราจีนบุรีเพิ่มขึ้นเป็น 147 คน และเพิ่มขึ้น ๆ ขณะทาง จ.ปราจีนบุรีตั้งศูนย์พักพิงรองรับ รวม 8 แห่งในวันหยุดยาวต่อเนื่อง  ย่านที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม 304 , นิคมอุตสาหกรรมโรจนะใหม่ มีโรงงานมากกว่า 1,000 แห่ง หนุ่ม –สาวฉันทนาจากโรงงานต่าง ๆ ได้ร่วมใจนำอาหาร ข้าวสาร น้ำดื่มสะอาด มาบริจาคจำนวนมาก ให้กับเจ้าหน้าที่ 2 หน่วยกู้ภัยฯ ให้ส่งต่อแก่ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้  27 ก.68 ผู้สื่อข่าวรายงสนจาก จ.ปราจีนบุรี   ตามที่ประชาชนจังหวัดสระแก้วหลบหนีการสู้รบมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดป่าประดู่  หมู่ 13 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เมื่อคืนวานนี้ (26ก.ค.) ที่ผ่านมาจำนวน 29 ราย ต่อมาทางนายวีระพันธ์  ดีอ่อน ผวจ.ปราจีนบุรี -หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจ ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมามีรายงานว่ามีประชาชนจาก จ.สระแก้วทยอยเดินทางมาสมทบเพิ่มอีกอีกจำนวนหนึ่ง รวมยอดจำนวนคนศูนย์พักพิงชั่วคราววัดป่าประดู่ แห่งนี้  รวม   44 คน

นายธรรมรัฏฐ์ งามแสง นายอำเภอกบินทร์บุรี รายงานสถานการณ์ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราววัดป่าประดู่ หมู่ที่ 13 ตำบลเมืองเก่า  อำเภอกบินทร์บุรีระบุว่า   ...    เช้าวันที่ 27 กรกฎาคม 2568    ยอดผู้อพยพ จำนวน 44 คน    เจ็บป่วย 1 คน  ส่งรักษาโรงพยาบาลกบินทร์บุรี     เช้านี้ ได้ช่วยกันประกอบอาหารและทำความสะอาดสถานที่  เหตุการณ์ทั่วไปปกติ …

ด้านนายสมพงษ์ สังข์ดอน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (26ก.ค.) มีประชาชนจากจังหวัดสระแก้วอพยพมาอาศัยอยู่ที่วัดป่าประดู่จำนวนหนึ่ง และช่วงบ่ายได้เดินทางมาเพิ่มเติมอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งตนเองและเจ้าหน้าที่อส.กบินทร์บุรี ได้เข้าเวรดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน และได้ร่วมกันทำกับข้าวให้กับประชาชนไว้ทานในช่วงเช้า ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนที่อยู่แนวชายแดน และเป็นกำลังใจให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามจุดประทะตามแนวชายแดนขอให้ปลอดภัยทุกนาย

นายสมศักดิ์ ธรรมชาติ ผู้อพยพกล่าวว่า หลังจากที่มาพักอาศัยอยู่ที่นี่ได้นอนหลับพักผ่อนเต็มที่ไม่เครียด ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องชาวจังหวัดสระแก้วและจังหวัดที่ได้รับผลกระทบขอให้ปลอดภัย ฝากเป็นกำลังใจให้กับทหารรั้วของชาติขอให้ปลอดภัยทุกคน

ด้านนายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอนาดี   เปิดเผยว่า   สถานการณ์ ผู้ที่อพยพหนีการสู้รบในพื้นที่ จากจังหวัดสระแก้ว เข้ามาในพื้นที่ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี  วันที่ 26 ก.ค.68 เวลา 19.00 น. มีผู้อพยพจากอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว เข้ามาพักกับญาติ ที่หมู่ 3 ตำบล แก่งดินสอ จำนวน 28 คน จากอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เข้ามาพักสำนักสงฆ์ วังวารี หมู่ที่ 8 ตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี จำนวน 35 คน  จากอำเภอตาพระยาเข้ามาพักกับญาติ ที่หมู่ 9 บ้านโนนม่วง ตำบลสะพานหิน จำนวน 50 คน ยอดรวมทั้งสิ้น 113 คน เวลา 19.00 น.

พบผู้อพยพจะเลือกพักตามบ้านญาติในหมู่บ้าน  และเตรียมอาหาร อุปกรณ์ ของใช้ส่วนตัวมาด้วย  ไม่ประสงค์เข้าพักที่ศูนย์พักพิงที่จังหวัดจัดเตรียมไว้ให้ ณ ค่ายลูกเสือห้วยเกษียณ อำเภอเมืองปราจีนบุรี ที่สามารถรองรับได้ 2,000 คน ขอดูสถานการณ์ประมาณ 2-3 วัน ก่อนตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้อำเภอได้สนับสนุนข้าวสารและส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปดูแลสุขภาพด้วยแล้ว  ทุกคนขวัญและกำลังใจดี

นายผ่อง เกตุสอน ผู้อพยพจากคลองน้ำใสจังหวัดสระแก้วกล่าวว่า ตนเองและครอบครัวได้มาอาศัยอยู่ที่บ้านญาติที่บ้านโนนเกาะรอ หมู่ที่ 10 ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี  ครอบครัวของตนเองมีผู้ป่วยติดเตียงได้อพยพมาอาศัยอยู่ที่บ้านญาติเพื่อความปลอดภัย ขอเป็นขวัญและกำลังใจให้พี่น้องชาวจังหวัดสระแก้วและตามแนวชายแดนทุกจังหวัดขอให้แคล้วคลาดปลอดภัย ขอให้ทหารแคล้วคลาดปลอดภัยทุกนาย

ด้านนายวีระพันธ์  ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และสมาชิกเหล่ากาชาด  ร่วมกันเตรียมความพร้อมจัดตั้งศูนย์รับบริจาค เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว ณ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้เชิญชวนประชาชน ช่วยกันบริจาค สิ่งของอุปโภค-บริโภค อาหารสด อาหารแห้ง รวมถึงยาและเวชภัณฑ์ เพื่อนำส่งไปช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยสามารถร่วมบริจาคได้ที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดปราจีนบุรี   โทร 037-210-729

พร้อมเตรียมที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว รวม 9 แห่ง เพื่อรองรับช่วยเหลือประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาด้วย

ต่อมาเวลา  14.10 น. ในวันหยุดยาวต่อเนื่อง  อ.ศรีมหาโพธิ ย่านที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม 304 , นิคมอุตสาหกรรมโรจนะใหม่ มีโรงงานมากกว่า 1,000 แห่ง หนุ่ม –สาวฉันทนาจากโรงงานต่าง ๆ ได้ร่วมใจนำอาหาร ข้าวสาร น้ำดื่มสะอาด มาบริจาคกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน จ.ปราจีนบุรี  และ  อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดปราจีนบุรีจำนวนมาก   พบหน่วยกู้ภัยฯทั้ง 2 หน่วย  กำลังทำการลำเลียงข้าวของเครื่องใช้เครื่องอุปโภคบริโภคขึ้นรถยนต์รถสิบล้อเพื่อเตรียมออกเคลื่อนย้ายให้ประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาต่อไป

โดย...มานิตย์ สนับบุญ ข่าว /ทองสุข –  จุฑารัตน์ – ภาพ / ปราจีนบุรี ###