สาวปวช.วอนคนร้าย นำรถมาคืน เดือดร้อนหนัก เนื่องจากต้องขี่รถไปเรียนหนังสือ

สาวปวช.วอนคนร้าย นำรถมาคืน เดือดร้อนหนัก เนื่องจากต้องขี่รถไปเรียนหนังสือ





Image
ad1

 จากกรณี สาว ปวช ลืมเสียบกุญแจคารถไว้ จอดใกล้ป้อมตำรวจ ถูกคนร้ายใช้จังหวะเจ้าหน้าที่ตำรวจเผลอ ลักขี่รถจยย.ออกไป

ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางสาวพัชราพา อายุ 15 ปี ศึกษาอยู่ปวช.ชั้นปี 1ได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.ลานสัก ว่าได้มีคนร้ายเป็นชายได้ใช้จังหวะตำรวจออกไปปฏิบัติหน้าที่ เข้ามาลักรถจยย.หมายเลขทะเบียนกบย.372 อุทัยธานี ยี่ห้อฮอนด้าสีน้ำเงิน ขับหนีออกจากป้อมตำรวจไป ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เปิดกล้องวงจรปิด ทราบตัวคนร้าย จึง ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.ลานสัก เร่งดำเนินการตรวจสอบเพื่อหาตัวคนร้ายดังกล่าว จากภาพกล้องวงจรปิดว่าผู้ก่อเหตุ มี 2 คน โดยใช้รถจักรยานยนต์สีแดงมา และให้อีกคนที่นั่งมาด้วย ลงมาก่อเหตุ

จากการสอบถามนางสาวพัชราพา อายุ 15 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของจักรยานยนต์ดังกล่าวและตกเป็นผู้เสียหาย ได้ขอให้ผู้ใหญ่บ้านนายใกล้รุ่ง เริงเขตรการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านทุ่งสามแท่ง ต.ประดู่ยืน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ช่วยเหลือในครั้งนี้พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวไปดูยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นป้อมตำรวจ อยู่ในพื้นที่  ซึ่งป้อมดังกล่าวนั้นอยู่ในระหว่างการปรับปรุงพื้นที่ โดยนางสาวพัชราพา ผู้เสียหาย ได้เปิดเผยว่าวันที่ 04 ก.ค.68 ช่วงเช้าตนเองได้ไปรับเพื่อนสาวด้วยกัน โดยขับขี่รถจยย.ซ้อนท้ายรถคันเดียวกันมา เพื่อมาจอดไว้ที่ใกล้ป้อมตำรวจดินแดง และรีบลืมนำกุญแจออกจากรถ เสียบกุญแจคาทิ้งไว้ ที่รถจยย.เนื่องจากตนเองและเพื่อนต้องรีบไปนั่งรถบัสนักเรียนอีกคันที่วิ่งมารับ เพื่อไปถึงเป้าหมายที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี 

หลังจากนั้นตนเองเลิกเรียนนั่งรถกลับมาถึงเวลา 17.30 น.  และจะมาเอารถเพื่อขี่กลับบ้าน ปรากฏว่ารถจักรยานยนต์ของตนเองนั้นหายไปแล้ว จึงได้ไปขอดูตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบชายผู้ต้องสงสัยเป็นชายขับรถจักรยานยนต์ของตนเองขับหนีออกไป ตนเองจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่สภ.ลานสัก ให้จับคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ตนเองจึงฝากไปถึงคนร้าย หากเห็นข่าวแล้ว ขอให้นำรถจยย.ของตนเองมาคืนด้วย เนื่องจากตอนนี้ลำบากมาก ต้องอาศัยรถจยย.ของชาวบ้าน เข้าออกเพื่อมานั่งรถบัสไปเรียน

ล่าสุดได้สอบถามจนท.ตำรวจสภ.ลานสัก ชื่อ ด.ต อภิทักษ์ กุลอัคร์ ที่ปฏิบัติงานอยู่ที่ป้อมตำรวจดินแดงดังกล่าว ว่าตนเองไม่ได้ละเลยหน้าที่แต่อย่างใด โดยเปิดเผยว่า ขณะนั้นช่วงเช้าก่อนที่ผู้เสียหายจะนำรถจยย.มาจอดทิ้งไว้ที่หน้าป้อมตำรวจ  ช่วงเวลาก่อนหน้านั้น ตนเองได้ออกไปปฏิบัติหน้าที่ โดยไปโบกรถการจราจรแถวโรงเรียนในเขตอำเภอลานสักพอดี โดยผู้เสียหายนั้นได้เสียบกุญแจรถจยย.คาทิ้งไว้ และไม่ได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด จึงเป็นเหตุให้คนร้ายนั้นอาศัยจังหวะที่จน.ตำรวจไม่อยู่ เข้ามาลักรถจยย.หนีออกไป เนื่องจากที่ป้อมตำรวจดินแดงดังกล่าวนั้น กำลังปรับปรุงพื้นที่อยู่ และเป็นที่ชุลมุนในการก่อสร้างดังกล่าว จนมาทราบอีกที ว่าผู้เสียหายมาแจ้งว่ารถจักรยานยนต์หายไป ตนเองจึงได้ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลานสัก ดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นติดตามตัวคนร้ายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป