มหาไพรวัลย์ เปิดใจหลังลาสิกขา เผย ไม่คิดกลับมาครองผ้าเหลืองอีกแล้ว ขอเป็นเสียงสะท้อนตรวจสอบสำนักพุทธฯ หากใช้อำนาจไม่เป็นธรรม

มหาไพรวัลย์ เปิดใจหลังลาสิกขา เผย ไม่คิดกลับมาครองผ้าเหลืองอีกแล้ว ขอเป็นเสียงสะท้อนตรวจสอบสำนักพุทธฯ หากใช้อำนาจไม่เป็นธรรม

วันนี้ (3 ธ.ค.64) นายไพรวัลย์ วรรณบุตร อดีตพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ เปิดเผยว่า สาเหตุของการลาสิกขามาจาก 2 เรื่องคือ ความไม่สบายใจที่มีการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมในทางคณะสงฆ์เกี่ยวกับกรณีแต่งตั้งเจ้าอาวาส วัดสร้อยทอง จึงไม่อยากให้ครูบาอาจารย์มาเดือดร้อนเพราะตนเอง ออกมาดีกว่า "เราเป็นลูกไม่อยากทำให้พ่อเดือดร้อน" 

สาเหตุที่ 2 คือ วันนี้แม่เข้ารับการผ่าตัดเนื้องอกมะเร็ง จึงออกมาให้กำลังใจแม่ อยากกอดแม่ แต่ก็ไม่ได้กอดเพราะแพทย์เตรียมการผ่าตัดแล้ว แต่ก่อนสึกแม่ก็มีโทรมาบอกว่า "ขอให้อยู่ต่อ อยากเห็นภาพมหาฯ ใส่จีวร" แต่ก็ได้ตัดสินใจแล้ว โดยหลังจากนี้จะใช้ช่องทางที่พอมีเพื่อทำมาหากิน เช่น เพจเฟซบุ๊กที่มีผู้ติดตามมากกว่า 2 ล้านคน หรือรายการที่เคยทำร่วมกับพระมหาสมปองก่อนลาสิกขา

หลังจากนี้ก็จะทำงานเพื่อสังคมต่อไป เช่น ติดตามหมอปลาไปช่วยชาวบ้าน และร่วมกับพระมหาสมปอง แจกผ้าห่ม ซึ่งจะไปสนับสนุนในฐานะฆราวาส 

ส่วนที่มีคนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับทรัพย์สิน 300 กว่าล้าน ยืนยันว่า "ไม่มี หากใครมีข้อมูลก็นำเสนอมา เดี๋ยวฟ้อง มีจริงไม่จริงค่อยว่ากันในชั้นศาล" พร้อมฝากไปถึงคนที่โพสต์ถึงตนเองว่า ขอให้ใช้ชีวิตให้สนุกว่า ไม่ต้องห่วงชีวิตคนอื่น เอาเวลาไปห่วงชีวิตตนเองดีกว่า

และจากที่ประกาศในเพจเฟซบุ๊กว่าหลังจากนี้จะรับรีวิวสินค้า ล่าสุดมีหลายแบรนด์ส่งสินค้ามา ก็จะมีทีมที่รู้กฎหมายคอยดูว่า สิ่งใดพูดได้หรือไม่ได้ แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับรีวิวให้แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง 

ที่ผ่านมาหมดศรัทธากับคณะสงฆ์ แต่ไม่เคยหมดศรัทธากับศาสนา ยังจะยึดตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า และยังมีครูบาอาจารย์ที่ยังเคารพนับถืออยู่ เรื่องความเป็นธรรมของเจ้าอาวาสก็สุดแล้วแต่การพิจารณาของผู้ใหญ่ หากหลังจากนี้มีการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรม มีคำสั่งขัดกฎหมายจากสำนักงานพระพุทธศาสนา หรือมหาเถรสมาคม จะขอเป็นส่วนหนึ่งในการสะท้อนและเตือน เพราะสำนักงานพระพุทธศาสนาอยู่ได้เพราะภาษี มีหน้าที่ตรวจสอบพระ ชาวพุทธก็มีหน้าที่ตรวจสอบสำนักงานพระพุทธศาสนาเช่นกัน

"ประเด็นของผมถูกตั้งคณะกรรมการฯสอบจากกรณีหัวเราะมากไป รีวิวสินค้า ไลฟ์สดไม่สำรวม แต่คนที่เป็นโจกท์ยื่นฟ้องคือสำนักพุทธฯ  ใช่หน้าที่ฟ้องพระ  จับพระสึกหรือไม่" 

มหาไพรวัลย์ ทิ้งท้ายว่า อนาคตจะไม่กลับมาครองผ้าเหลืองอีกแล้ว วงการสงฆ์วุ่นวายกว่าฆราวาส โดยหลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน มหาไพรวัลย์ได้เดินทางด้วยรถยนต์สีแดงเพื่อไปหาหมอปลาที่ จ.เพชรบุรี