ทีมแก้สลากแพงตามคำสั่งนายกฯ ประชุมหาทางออก ให้แรมโบ้ อีสาน เป็นหัวหน้าทีมตรวจสอบและติดตาม สลากขายเกิน 80 บาท
แรมโบ้ อีสาน เป็นหัวหน้าทีมตรวจสอบและติดตาม สลากขายเกิน 80 บาท


เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 65 นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยคณะกรรมการฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
.
นายอนุชา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยต่อปัญหาดังกล่าว และให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน จึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง และรายงานผลการดำเนินงาน ปัญหาและอุปสรรคต่อนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีต่อไป วันนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณาถึงระบบการจำหน่ายสลาก ปัญหาและสาเหตุที่ทำให้เกิดการขายสลากเกินราคา รวมถึงการคัดเลือกผู้ค้ารายย่อยใหม่ จำนวน 2 แสนราย โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะนำรายชื่อมาเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อคัดกรองความเหมาะสมด้วย
.
พร้อมกันนี้คณะกรรมการได้เสนอให้มีการปรับปรุงกฎหมายควบคุมการค้าสลากเกินราคา โดยพบว่ากฎหมายปัจจุบันที่บังคับใช้มีความล้าสมัย คือ พระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ที่ระบุรายละเอียดบทลงโทษผู้จำหน่ายสลากเกินราคา ไม่เกิน 10,000 บาท และมีบทลงโทษผู้จำหน่ายสลากในสถานศึกษา และจำหน่ายให้กับเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ซึ่งระยะเวลาในการปรับปรุงกฎหมายอาจมีเวลานาน ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้มีการกำหนดเงื่อนไขการทำสัญญาผู้ค้าสลาก และกำหนดบทลงโทษ เช่น การปรับ หรือตัดสิทธิ์ เป็นต้น
.
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบให้มีการแต่งตั้ง นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจในการตรวจสอบและติดตามผู้ค้าสลากเกินราคา พร้อมแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 3 คณะ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานเชิงรุก ประกอบด้วย คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการเสนอขายหรือขายสลากเกินราคา คณะอนุกรรมการศึกษาแนวทางและมาตรการทางกฎหมายในการแก้ไขปัญหา และคณะอนุกรรมการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์