ปล่องภูเขาไฟเขาพระอังคาร แลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่คนยังไม่รู้จัก ที่ตั้งวัดเขาพระอังคาร โบสถ์สมัยทวาราวดี อายุกว่า 1,000ปี ทาสีดินภูเขาไฟ
18 กรกฎาคม 2565


ปล่องภูเขาไฟ เขาพระอังคาร แลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่คนยังไม่รู้จัก ที่ตั้งวัดเขาพระอังคาร พระอุโบสถอายุกว่า 1,000 ปีสถาปัตยกรรมแบบทวาราวดี ทาสีดินภูเขาไฟ
ภูเขาไฟในประเทศไทย ที่คนส่วนใหญ่รู้จัก คือ ภูเขาไฟเขากระโดง อยู่ที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้ว หลงเหลือเพียงหินที่เกิดจากลาวาที่ปะทุขึ้นมาจากปล่องภูเขาไฟ เมื่อถูกอากาศจะแข็งตัว ทำให้มีโพรงอากาศอยู่ด้านใน เมื่อแข็งตัวจะมีรูพรุน และสามารถลอยน้ำได้ หินที่เกิดจากลาวา เรียกว่าหินบะซอลต์
ในปัจจุบันภูเขาไฟพบที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีทั้งหมด 6 แห่ง จากทั้งประเทศไทยมี 8 แห่ง ได้แก่ เขากระโดง อยู่ในเขต อ.เมืองบุรีรัมย์ เขาพนมรุ้ง เขาพระอังคาร และเขาปลายบัด อยู่ในเขตอำเภอเฉลิมพระเกียรติ ส่วนเขาหลุบ และเขาคอก อยู่ในเขตอำเภอประโคนชัย อายุภูเขาไฟประมาณ 2 ล้านปี ส่วนปล่องภูเขาไฟเขาพระอังคาร ดับแล้วประมาณ 7 แสนปี เป็นฐานปากปล่องที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จากการปะทุของลาวา และแร่ที่พบส่วนมากเป็นแร่ซิลิกา มีลักษณะเป็นสีอิฐหรือน้ำตาลอิฐ
ทางด้านพระดำรง ติกขะวิริโย เลขานุการเจ้าคณะตำบลเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เผยว่า วัดเขาพระอังคาร ตั้งอยู่ที่เขาพระอังคาร มีอายุกว่า 1,000 ปี และเมื่อ 1,200 ปีมาแล้วเคยเป็นสถานที่บรรจุพระอังคารธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงได้ชื่อว่าวัดเขาพระอังคาร ตั้งชื่อตามการบรรจุประดิษฐานพระอังคารธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีลายแทงจารึกของพระธาตุพนม และรอยพระพุทธบาทที่แกะสลักด้วยหินบะซอลต์ และใบเสมาสถาปัตยกรรมแบบตั้งปลัก สมัยทวาราวดี มีอยู่ที่วัดเขาพระอังคารที่เดียวในประเทศไทย อายุประมาณ 1,400 ปี ห่างจากเขาพนมรุ็งประมาณ 50 กิโลเมตร
จึงบ่งบอกถึงดินแดนแห่งนี้เคยมีอารยธรรมที่รุ่งเรืองมาก่อน และประติมากรรมของพระอุโบสถที่สร้างขึ้นเป็นแบบในสมัยทวาราวดี ซึ่งมีลักษณะแตกต่างไปจากที่อื่น เมื่อเร็วๆ นี้โดมวิหารที่ประดิษฐ์พระพุทธรูปนอนขนาดใหญ่ อยู่บริเวณหน้าวัดเขาพระอังคารถูกลมพายุพัดพังเสียหายทั้งหลัง แต่องค์พระไม่ปรักหักพังแต่อย่างใด ทางวัดและคณะกรรมการวัดเขาพระอังคาร จึงขออนุโทนาจากผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคทรัพย์ตามกำลังศรัทธา เพื่อสร้างศาสนสถาน และซ่อมแซมโดมวิหารพระนอนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลังจากลมพายุเมื่อเดือน เมษายน 2565 ที่ผ่านมา
เพื่อเป็นที่สักการะแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป อีกด้วย โดยสามารถบริจาคผ่านธนาคารกรุงไทย สาขานางรอง เลขบัญชี 373-0-83736-2 วัดเขาพระอังคาร จึงขออนุโมทนาสาธุมา ณ โอกาสนี้ด้วยเทอญ สำหรับวัดเขาพระอังคาร ตั้งอยู่บนยอดเขาภูเขาไฟพระอังคาร เป็นภูเขาไปที่ดับสนิทแล้วเมื่อ 7 แสนปี เป็นวัดเก่าแก่ มีอายุกว่า 1,000 ปี พระอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมสมัยทวาราวดี ที่งดงามมาก ทาด้วยสีอิฐ เป็นสีหินภูเขาไฟ ทำให้มีลักษณะโดดเด่นไม่เหมือนใคร และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดบุรีรัมย์ อีกด้วย
ปล่องภูเขาไฟพระอังคาร