รวบอดีตนักแสดงตัวประกอบ-ดาวโป๊ ลวงเด็กถ่ายคลิปลามก โพสต์ขายออนไลน์

รวบอดีตนักแสดงตัวประกอบ-ดาวโป๊ ลวงเด็กถ่ายคลิปลามก โพสต์ขายออนไลน์





ad1

ตามแผนปฏิบัติการพิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมงสํานักงานตํารวจแห่งชาติ พ.ศ.2566 (พดส.ตร.66) ได้กำหนดกลยุทธ์ในการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต โดยมีเป้าหมาย คือ การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในรูปแบบออนไลน์   ทั้งขบวนการค้ามนุษย์ชาวไทย และขบวนการค้ามนุษย์ชาวต่างชาติ ประกอบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล  รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ / ผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชน สตรี ป้องกันการค้ามนุษย์และ ภาคประมง ได้มอบนโยบายในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม โดยให้ระดมกวาดล้าง ขุดรากถอนโคน ขบวนการค้ามนุษย์ทุกรูปแบบ

​กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ​ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งได้กระทำความผิด  ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 คดี ได้แก่
 
คดีที่ 1  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม บก.ปคม. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 ​ได้ร่วมกันจับกุมตัว  นายกฤติเดช ฯ อายุ 20 ปี ในความผิดฐาน  ดังนี้

1.“ค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิต หรือเผยแพร่วัตถุ หรือสื่อลามกเด็ก”  มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 - 15 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 - 1,500,000 บาท


2.“เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวด แก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก” มีอัตราโทษ จำคุกตั้งแต่ 3 - 10 ปี และ ปรับตั้งแต่ 60,000 - 200,000 บาท

3.“กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม
มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 7 - 20 ปี และ ปรับตั้งแต่ 140,000 - 400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต

4.“ขู่เข็ญ ชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด” มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้ทำการสืบสวนพบกลุ่มลับมีการ โพสต์ภาพพร้อมข้อความโฆษณาเชิญชวนให้สมาชิกในกลุ่มซื้อคลิปลามกอนาจาร ก่อนที่สายลับจะทำการติดต่อขอซื้อคลิปเหล่านั้นผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์ ที่มีการระบุว่าเป็นคลิปลับของตนเองที่ถ่ายกับน้องสาวขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งหากสนใจจะขายคลิปละ 25-50 บาท ก่อนจะส่งเลขบัญชีธนาคาร เพื่อให้สายลับโอนเงินค่าซื้อคลิปไปให้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบคลิปที่สายลับได้มา พบว่าเป็นคลิปเด็กหญิง ที่สวมใส่ชุดนักเรียน ของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง คาดว่าเด็กหญิงในคลิปดังกล่าว น่าจะมีอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นเหตุให้เกิดการตรวจสอบโดยละเอียด ก่อนจะทราบชื่อของเด็กหญิงคนดังกล่าว และพบว่ามีอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น

​เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบติดต่อ พร้อมเข้าช่วยเหลือเด็กหญิง ผู้เสียหายรายดังกล่าวทันที ซึ่งจากการสอบถามผู้เสียหายให้การว่ารู้จักกับนายกฤติเดช ฯ ผู้ต้องหา ผ่านทางแอปพลิเคชันหนึ่งบนออนไลน์ และได้พูดคุยกันจนตกลงคบหากันเป็นแฟน  จากนั้นได้มีการนัดเจอกัน ก่อนที่นายกฤติเดช ฯ จะขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซี่งในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ผู้ต้องหาได้ขอถ่ายคลิปวิดีโอ  แต่ผู้เสียหายพยายามบ่ายเบี่ยงและร้องขอเพื่อไม่ให้ถ่ายคลิป แต่นายกฤติเดช ฯ ไม่ยินยอม แต่ด้วยความรักและหลงเชื่อใจ ทำให้ผู้เสียหายยินยอม โดยไม่คิดว่านายกฤติเดช ฯ จะนำคลิปไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์เช่นนี้  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนขอศาลออกหมายจับ นายกฤติเดช ฯ และนำกำลังเข้าจับกุม นายกฤติเดชฯ ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 ทั้งนี้จากข้อมูลยังพบว่า นายกฤติเดช ฯ ผู้ต้องหารายนี้ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านธนบุรี กรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังเป็นเคยเป็น นักแสดงตัวประกอบ อีกด้วย
 
สอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่ารู้จักกับเด็กหญิงรายดังกล่าวจริง และรับว่ามีการถ่ายคลิประหว่างมีเพศสัมพันธ์ อ้างสาเหตุที่นำคลิปมาขายในโลกออนไลน์ เพราะ เงินไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย
 
ส่วนในคดีที่ 2  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ร่วมกันจับกุมตัว  นายศุภมงคล ฯ หรือมายด์  อายุ 19 ปี  

 ในความผิดฐาน  

1. “ค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิต หรือเผยแพร่วัตถุ หรือสื่อลามกเด็ก”       มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่ 6 - 15 ปี และปรับตั้งแต่ 600,000 - 1,500,000 บาท

2. “เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวด  แก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก”
มีอัตราโทษ จำคุกตั้งแต่ 3 - 10 ปี และ ปรับตั้งแต่ 60,000 - 200,000 บาท
 
พฤติการณ์  เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคม. ได้ทำการสืบสวนพบบัญชีบนสื่อออนไลน์ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.3 แสนราย มีพฤติการณ์โพสต์คลิปลามกอนาจารจำนวนมาก พร้อมทั้งเชิญชวนให้บุคคลทั่วไปที่สนใจเข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มลับ เพื่อจะได้ดูคลิปวิดีโอลามกอนาจารมากขึ้น โดยมีคลิปหนึ่งที่โพสต์เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2566 ปรากฏคลิปการมีเพศสัมพันธ์ของชายหญิง 2 คู่ อยู่บนเตียงเดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคู่หนึ่งที่ปรากฎในคลิปนั้น เป็นเด็กชายและหญิง อายุต่ำกว่า 18 ปี จึงได้ทำการแฝงตัวเข้าไปอยู่ในกลุ่มลับ ทำให้ทราบว่าการจะเข้าเป็นสมาชิกนั้น ต้องเสียเงินค่าสมาชิก โดยมีให้เลือก 3 ราคา คือ VIP 199 , VVIP 999 และ SPVIP 2599 บาท เมื่อจ่ายเงินค่าสมาชิก จะได้รับเชิญให้เข้ากลุ่มลับตามราคาข้างต้น โดยพบว่ามีคลิปลามกอนาจาร โพสต์เอาไว้ในเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในนั้น เป็นคลิปเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบและคาดว่าเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ก่อนทำการตรวจสอบโดยละเอียด จนทราบชื่อของเด็กที่ปรากฏในคลิปทั้ง 2 ราย และพบว่ามีอายุต่ำกว่า 18 ปีจริง


 
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบให้ความช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 รายโดยทันที จากการสอบถามเด็กทั้ง 2 ราย ให้การว่ารู้จักกับนายศุภมงคล ฯ มาก่อนหน้านี้ และพักอาศัยอยู่ด้วยกันมาตลอด โดยในวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้ชักชวนเด็กทั้ง 2 ราย ไปเที่ยวที่พัทยา และขอถ่ายคลิปวิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์กัน 2 คู่ (ไม่มีการสลับคู่)  โดยนายศุภมงคล ฯ ไม่ได้บอกว่าจะนำคลิปไปทำอะไร ประกอบกับความไว้วางใจ เชื่อใจ และให้ความเคารพเสมือนเป็นพี่แท้ๆ จึงไม่คิดว่านายศุภมงคล ฯ จะนำคลิปไปเผยแพร่ พวกตนจึงยินยอมให้ถ่าย ก่อนจะมาทราบภายหลังว่าถูกนำคลิปพวกตนไปโพสต์ขายในกลุ่มลับ เก็บเงินค่าสมาชิกในการเข้ากลุ่มเช่นนี้
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสืบสวน กระทั่งทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายศุภมงคล และเป็นสาวประเภทสอง มิหนำซ้ำยังเป็นบุคคลมีชื่อเสียงบนสื่อสังคมออนไลน์ ชื่อดัง มีผู้ติดตามมากกว่า 1.3 แสนราย  มีการโพสต์       โปรโมทคลิปลามกอนาจารบนสื่อออนไลน์ และเชิญชวนบุคคลทั่วไปเข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มลับต่อเนื่อง และยังพบว่า ผู้ต้องหา รายนี้ มีรายได้จากการเป็นแอดมินกลุ่มลับประมาณ 50,000-100,000 บาทต่อเดือน เมื่อได้ข้อมูลทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอศาลออกหมายจับ ก่อนเข้าทำการจับกุมตัว  นายศุภมงคล ฯ นำส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป