หนี้สินนับแสนค้ำคอ!หนุ่มอุทัยธานีย่อมฝ่าเปลวไฟสงครามทำงานในอิสราเอล

หนี้สินนับแสนค้ำคอ!หนุ่มอุทัยธานีย่อมฝ่าเปลวไฟสงครามทำงานในอิสราเอล





ad1

อุทัยธานี-หนุ่มไทยวีดีโอคอลลั่น!! จำใจต้องอยู่ต่อ ภาระหนี้ที่กู้เงินไปนับแสนขอทำงานปลดภาระหนี้ค่าเดินทาง ที่ประเทศอิสราเอล

แรงงานไทยในอิสราเอลหลายราย ยันยังไม่กลับไทยเนื่องจากมีภาระเรื่องหนี้สินกลับก็ตาย  อยู่ต่อก็ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย แต่หากสงครามรุนแรงขึ้นค่อยตัดสินใจอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์เริ่มสงบจึงตัดสินใจว่า จะรอดูเหตุการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง หากสงครามไม่ยุติและมีความรุนแรงขึ้น จุดที่อาศัยอยู่เสี่ยงอันตราย ก็ค่อยตัดสินใจกลับประเทศ เนื่องจากมีภาระหนี้สินและต้องเลี้ยงดูครอบครัวที่รอคอย

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้าน น.ส.วัชรีย์ ศรีเมือง  บ้านเลขที่ 28 ปี หมู่ 6 ต.หนองกระทุ่ม อ.ทัพทัน จ.อุทัยธานี สืบเนื่องจากนายสุนทร สุดสงสาร ซึ่งเป็นสามี เป็นแรงงานไทย ในประเทศอิสราเอล ที่กำลังประสบปัญหาอยู่ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า สามีตนเองได้ไปกู้หนี้ยืมสิน เป็นเงินมาจำนวนนับแสนกว่าบาท  ที่มีค่าใช้จ่ายต่างๆ เพื่อให้ได้ไปทำงาน ที่ประเทศอิสราเอล พึ่งได้ประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา หลังจากที่มีข่าว ทำให้ครอบครัวนั้นไม่สบายใจ  และได้พยายามโทรวีดีโอคอล  พูดคุยกับสามีมาตลอด  ทางครอบครัวก็อยากให้สามีกลับมาก่อน  แต่สามีไม่ยอมกลับ โดยบอกว่ายังใช้หนี้ไม่หมดเลย ขออยู่ต่อก็เพื่อรอด  

หลังจากนั้นได้ต่อวิดีโอคอลกับนายสุนทร สามีพูดคุยกับผู้สื่อข่าว เพื่อยืนยันว่าสถานการณ์ในอิสราเอล  ตนเองและเพื่อนแรงงานไทย 4 คน นั้นมาทำงานในบ้านเจ้านายจ้างที่ประเทศอิสราเอล  ซึ่งก่อนหน้านายจ้างเข้าเคยเป็นทหารมา และ นายจ้างจะคัดคนงานที่ผ่านการเป็นทหารมาแล้ว เข้ามาทำงานในไร่  เช่น ทำงานปลูกพืชผัก ผลไม้ และเลี้ยงสัตว์ อยู่ในแคมป์คนงานห่างจากจุดปะทะที่ฉนวนกาซาประมาณ 60 กม. ในการปะทะในช่วง 1 - 2 วันแรก มีกระสุนตกลงมาในพื้นที่เพาะปลูกหลายนัด แต่ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ซึ่งที่ตนเองยังไม่ขอกลับไทย นั้นเพราะสาเหตุคือการกู้เงินไปแสนกว่าบาท และต้องเสียดอกเบี้ย  แต่ละเดือน พร้อมต้องส่งต้นส่งดอก พึ่งมาได้ 7 เดือน โดยนายจ้างตนเอง นั้นเป็นคนที่ใจดี คอยช่วยเหลือคนงาน และคนไทย เวลามีเหตุนายจ้างจะไม่ออกไปทำงาน ให้อยู่ในที่หลบภัย และบริเวณรอบตนเองอยู่มีแคมป์คนงานไทย กว่า 40คนที่ยังไม่ลงทะเบียนกลับไทย 

โดยจังหวัดอุทัยธานี นั้น จากการตรวจเอกสารพบว่ามีแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอลจำนวน 20คน และบางรายไปลงทะเบียนเพื่อขอกลับ บางรายยังขออยู่ต่อจะรอดูเหตุการณ์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง หากสงครามไม่ยุติและมีความรุนแรงขึ้น จุดที่อาศัยอยู่เสี่ยงอันตราย ก็ค่อยตัดสินใจกลับประเทศ