ฮือฮา"บายศรีพญานาค"มูลค่านับล้าน บูชาพระธาตุพนม วันสัตตนาคารำลึก

ลูกหลานศรัทธาพญานาคจัดพานบายศรีพญานาคชุดใหญ่อลังการมูลค่านับล้านบาท ถวายเป็นพุทธบูชา "องค์พระธาตุพนม" งานวันรวมพญานาค สัตตนาคารำลึก ครบ 66 ปี ย้อนตำนานความเชื่อปาฏิหาริย์องค์พญานาค ทั้ง 7 ปรากฏกาย

เมื่อเย็นวันที่ 18 ตุลาคม 2566 ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตลอดทั้งวันที่ผ่านมา คึกคักไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยว สายมู ลูกหลานสายศรัทธา พญานาค ต่างเดินทางมาจัดเตรียมเครื่องบวงสรวง บายศรีพญานาค ร่วมพิธีวันสัตตนาคารำลึก  เนื่องจากทางวัดพระธาตุพนม ได้จัดพิธีศักดิ์สิทธิ์ ครบรอบ 66 ปี สัตตนาคารำลึก ประจำปี เพื่อประกอบพิธีบูชาบวงสรวงองค์พญานาค ทั้ง 7 องค์ ที่ดูแลปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนม เป็นประเพณีโบราณความเชื่อ ที่จัดสืบทอดมาตั้งแต่ปี 2500 ถึงปัจจุบัน เนื่องจากเคยเกิดปาฏิหาริย์  มีเหตุการณ์ประหลาด  ในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ  เดือน 11  ปี พ.ศ.2500  ได้มีชาวบ้านที่อาศัยในชุมชนวัดพระธาตุพนม  พบเห็นแสงประหลาดเป็นลำขนาดใหญ่เท่าต้นตาล  แบ่งออกเป็น 7 สี  พุ่งแหวกอากาศ  จากทางด้านทิศเหนือ  หายเข้าไปในองค์พระธาตุพนม  สร้างความอัศจรรย์ แก่ชาวบ้านที่พบเห็น ก่อนที่จะมีเหตุการณ์แปลก เชื่อว่าเป็นการแสดงปาฏิหาริย์ขององค์พญานาค

จนกระทั่ง เมื่อมีสามเณรทรัพย์ ลูกวัดพระธาตุพนม ถูกพญานาค ประทับร่างทรง พร้อมบอกชาวบ้านว่า เป็นองค์พญานาค ที่ลงมาดูแลรักษา องค์พระธาตุพนม มีทั้งหมด 7 องค์ เพื่อปกปักษ์รักษา ไม่ให้เทวดาอารักษ์ หรือผู้ไม่หวังดีแอบอ้าง องค์พระธาตุพนม ในทางเสื่อมเสีย รวมถึงโปรดชาวบ้านให้มีความสุข เจริญรุ่งเรือง  ทำให้ทุกปีจะมีการจัดพิธีบวงสรวงเพื่อขอโชคลาภ และเป็นสิริมงคล เชื่อกันว่า ใครได้มีโอกาสมาร่วมพิธี ถวายเครื่องสักการบูชา ถือเป็นอานิสงค์ยิ่งใหญ่ จะประสบความสำเร็จทุกด้าน สุขภาพแข็งแรง เจริญรุ่งเรือง ทำให้มีสายศรัทธา ต่างจัดเครื่องบวงสรวง พานบายศรีพญานาค ทำจากใบตองสด มูลค่าตั้งแต่ 5 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท มาถวายเป็นพุทธบูชา ตามประเพณีความเชื่อ ส่วนพิธีสำคัญจะมีการสวดมนต์ เจริญภาวนา ตั้งแต่ช่วงหกโมงเย็น  จนถึงเวลา ตีสองคืนนี้ และจะมีพญานาคมาประทับร่างทรง เพื่อเทศนาสั่งสอนธรรมมะ  รวมถึงโปรด สายศรัทธาลูกหลาน พญานาค ให้ได้มีโอกาสขอพรตามความเชื่อ โดยทางวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ได้จัดพิธีขึ้นทุกปี ทั้งเป็นการสืบสานพิธีศักดิ์สิทธิ์ ของพลังศรัทธา รวมถึงเป็นการกระตุ้นส่งเสริมการท่องเที่ยว อีกด้วย

พระครูพนมปรีชากร หรือพระครูไก่ อายุ 48 ปี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เปิดเผยว่า สำหรับวันสัตตนาคารำลึก เป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ สำคัญ ที่สืบทอดมาตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2500 ปี ตามประเพณีความเชื่อ เพื่อสักการบูชา สืบเนื่องจาก ในคืนวันขึ้น 5 ค่ำ  เดือน 11  ปี พ.ศ.2500 ได้มีชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดพระธาตุพนม พบเห็นลำแสงประหลาด 7 สี พวยพุ่งมายังองค์พระธาตุพนม จนกระทั่งพบว่า เกิดเรื่องราวปาฏิหาริย์ สามเณรทรัพย์ ลูกวัดพระธาตุพนม มีอาการผิดปกติ บอกเล่าชาวบ้านว่า เป็นพญานาคมาประทับร่างทรง ยืนยันว่า เป็นองค์พญานาคทั้ง 7 มาเพื่อปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนม หลังจากมีเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์บางกลุ่ม ที่แสวงประโยชน์ แอบอ้าง รับเครื่องบวงสรวง สินบน ทำให้เสื่อมเสีย จึงต้องมาดูแลรักษา พร้อมโปรดสายศรัทธา และเตือนใจพุทธศาสนิกชนให้ทำความดี ทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา รักษาองค์พระธาตุพนม และเกิดเรื่องปาฏิหาริย์จากองค์พญานาคหลายประการ ทำให้ชาวบ้านมีความเชื่อศรัทธามากขึ้น เชื่อกันว่าหากใครได้มาร่วมพิธีศักดิ์สิทธิ์ จะมีแต่ความสุขความเจริญ ทำให้สายศรัทธาพญานาค เดินทางมาร่วมพิธีแน่นวัดทุกปี

ด้าน แม่ฟ้าใส อายุ 50 ปี สายมูพญานาค จ.หนองคาย เปิดเผยว่า ตนมีความเชื่อความศรัทธา ต่อองค์พระธาตุพนม รวมถึง องค์พญานาคทั้ง 7 ที่ดูแลปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนม เคยขอพร ประสบความสำเร็จสำหวังหน้าที่การงาน ค้าขาย มาตลอด จึงมีความเชื่อความศรัทธา จึงได้มีโอกาสมาร่วมพิธีตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันไม่เคย ขาด เชื่อว่าทุกคนที่มาร่วมถือเป็นอานิสงค์อันยิ่งใหญ่

ส่วนน้องเปา อายุ 30 ปี เจ้าของร้านบายศรี เรือนบายศรีแก้ว ฬามณี จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า ต้องยอมรับว่าสายศรัทธาพญานาค บางคนประสบความสำเร็จจากการขอพร จึงมีการว่าจ้างให้จัดเครื่องบวงสรวง รวมถึงบายศรีพญานาคขนาดใหญ่ มีราคาตั้งแต่ 5 แสนถึง 1 ล้านบาท ตามความเชื่อความศรัทธา ของแต่ละคน ทุกปีจะมีสายมูพญานาคมาว่าจ้าง จัดเครื่องสักการบูชา พานบายศรีพญานาค มาถวายในงานวันไหว้พญานาค หรือวันสัตตนาคารำลึก เพราะเชื่อกันว่าเป็นวันรวมพญานาค ที่จะมารับการถวายเครื่องสักการะบูชา และให้โชคลาภสมหวังทุกด้าน มั่นใจว่าขอพรสำเร็จจริง แต่ขึ้นอยู่กับบุญบารมีของแต่ละคนด้วย แต่ยอมรับว่าหลายรายได้โชคลาภ สมหวัง จึงมาว่าจ้างจัดบายศรี เครื่องสักการะชุดใหญ่ บางคนมีพลังศรัทธาจัดเครื่องบายศรีถวาย มูลค่านับล้าน

โดย...พัฒนพงษ์ ศรีเพียชัย ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนม