สาวผวา!โทรสายด่วนกู้ภัยให้ช่วยจับงู แต่ดันเจอไอ้หื่นสวมรอยกู้ภัยแอดไลน์ขอมีเพศสัมพันธ์

สาวผวา!โทรสายด่วนกู้ภัยให้ช่วยจับงู แต่ดันเจอไอ้หื่นสวมรอยกู้ภัยแอดไลน์ขอมีเพศสัมพันธ์





ad1

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ที่ สภ.สำโรงเหนือ สมุทรปราการ นางสาวแก้มยุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี หอบหลักฐานเป็นภาพจากแชดไลน์ พร้อมคลิปเสียง ที่ถูกชายปริศนาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยเรียกร้องค่าตอบแทนจากการให้มาจับงู ก่อนจะเปลี่ยนเป็นขอมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหายแทน พร้อมทั้งส่งภาพชายเปลือยกายโชว์ของลับให้กับผู้เสียหายทางแชดไลน์ ได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ขอให้ตำรวจติดตามตัวชายปริศนาคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากหวั่นเรื่องความปลอดภัย


          
จากคลิปเสียงที่ผู้เสียหายบันทึกไว้ พบว่ามีชายหนุ่มปริศนาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จะมาช่วยจับงู แต่กลับพบว่า ชายคนดังกล่าวออกมาระบุว่า หากเดินทางมารอบนี้จะขอมีเพศสัมพันธ์ด้วยยินยอมหรือไม่ ด้านผู้เสียหายพยายามสอบถามข้อมูลการช่วยเหลือให้มาช่วยจับงู แต่ชายปริศนาระบุว่าจะช่วยประสานให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยของเทศบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ส่งเจ้าหน้าที่ไปจับงูแทน พร้อมระบุว่าตัวเองชื่อเบล

นางสาวแก้มยุ้ย ผู้เสียหายรายนี้ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงสายของวันที่  2 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา  ที่บ้านพักของตนเองในพื้นที่ตำบลด่านสำโรง อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ พบว่ามีงูเข้ามาในบ้าน ด้วยความกลัว จึงตัดสินใจโทรไปขอความช่วยเหลือที่สายด่วน 1677 จากนั้นไม่นานก็มีหน่วยงานต่าง ๆโทรกลับมาสอบถาม ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เทศบาลด่านสำโรงเข้ามา 3 นาย ไม่นานก็มีกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่สวมเครื่องแบบมากันประมาณ 5-6 คน มาสมทบ แต่ทั้งหมดมาแล้วไม่เจอตัวงู จึงพากันกลับ ต่อมามีเจ้าหน้าที่ที่รับเรื่องและประสานงานท่านหนึ่งเดินทางมาพบและสอบถาม แต่เนื่องจากไม่พบตัวงูจึงกลับไป ซึ่งในตอนแรกตนเองก็ไม่ได้ติดใจอะไร

จนกระทั่งในช่วงบ่ายสองโมงกว่าวันเดียวกัน กลับพบว่ามีชายปริศนาแอดไลน์ทักเข้ามาอ้างตัวชื่อเบลเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัย เธอก็ไม่รู้ว่ามีค่าใช้จ่ายด้วย เขาก็ ขอค่าตอบแทนการจับงูด้วยการมีเพศสัมพันธ์ด้วย แล้วก็ส่งรูปชายหนุ่มเปลือยกายโชว์ของลับมา พร้อมระบุว่าจะส่งคนมามีเพศสัมพันธ์ด้วย และข้อความหยาบคายทำนองหื่นลามกอีกมากมาย หลังจากนั้นเธอจึงไปที่เทศบาลดังกล่าวตามที่ชายปริศนาแอบอ้างว่าทำงานที่นั่น แต่ไปถึงไม่พบตัวและไม่มีเจ้าหน้าที่รู้จักแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลดังกล่าวก็ช่วยเธอหาตัวชายดังกล่าว แต่ก็ยังไม่เจอตัว ชายปริศนาก็ยังทักไลน์มาหาเธอเรื่อยว่าได้ไหมอะไรอย่างเนี่ย เธอจึงแกล้งถามกลับไปว่าถ้าไปไปได้ที่ไหน ชายปริศนาก็บอกเทศบาล

หลังจากที่เธอเจอแบบนี้ จึงเกิดความกลัวเพราะชายปริศนามีข้อมูลเธอทั้งบ้านเลขที่ และเบอร์โทร ซึ่งคาดว่าจะเป็นข้อมูลที่มีการส่งต่อไปยังกลุ่มไลน์ของกู้ภัยต่างๆ ซึ่งเข้าใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่ออกช่วยสังคม แต่อยากให้ตรวจสอบในกลุ่มไลน์ของกู้ภัยว่ามีใครแอบแฝงหาผลประโยชน์หรือไม่


          
ต่อมา ผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปยังเทศบาลด่านสำโรง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบ นายศราวุธ ทวีเหลือ พนักงานดับเพลิงเทศบาลด่านสำโรง ระบุว่า มีการประสานขอความช่วยเหลือให้ไปจับงูจริงและผู้เสียหายคนเดียวกันจริง มีข้อมูลการประสานเรื่องดังกล่าว ทั้งที่อยู่และเบอร์โทรของผู้เสียหายมาจริง หลังจากที่งานป้องกันของเทศบาลด่านสำโรงได้รับการประสานมานั้นก็ส่งเจ้าหน้าที่ ชุดแรกไปทั้งหมด 3  นาย ออกไปตรวจสอบหน้างานแต่พอไปถึงอุปกรณ์ที่จะดำเนินการ  ไม่ครบ จึงประสานกับมาที่ศูนย์ให้ส่งเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ไปสมทบ พอเจ้าหน้าที่เทศบาลไปถึงก็ค้นหาสำรวจบนฝ้าเพดานตามที่ผู้เสียหายแจ้งแต่ไม่พบตัวงู จึงให้เบอร์ประสานงานกับทางผู้เสียหายไว้ หากพบตัวให้แจ้งกลับมาที่เทศบาลด่านสำโรง หลังจากนั้นจังหวะที่จะกลับศูนย์ พบว่ามีอาสากู้ภัยอีกหน่วยงานจำนวนสองคนเข้าไป แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งผ่านไปช่วงบ่ายพบว่าผู้เสียหายติดต่อกลับมาแจ้งว่ามีการแอบอ้างระบุเรียกเก็บเงิน จึงให้ผู้เสียหายมาพบที่เทศบาลและตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว ยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของทางเทศบาล

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสอบถาม จิตอาสาอีกชุดที่เป็นอาสาสมัครร่วมด้วยช่วยกันที่ผู้เสียหายระบุโทรขอความช่วยเหลือ พบกับ นายเดชา บุญดี จิตอาสาร่วมด้วยช่วยกัน ระบุว่า หลังจากที่ผู้เสียหายโทรแจ้งเหตุขอความช่วยเหลือที่ศูนย์วิทยุร่วมด้วยช่วยกันที่สายด่วน 1677  ศูนย์จึงส่งต่อข้อมูลมายังกลุ่มไลน์อาสาของจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งในขณะนั้นตนเองยังทำงานประจำอยู่ พอทราบเรื่องก็อาศัยจังหวะพักงานจึงเดินทางไปพบผู้เสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่ไม่พบตัว ตนเองยืนยันว่าการอออกไปจับงู ไม่มีการเรียกเงินหรือเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆจากผู้เสียหาย          

ด้าน พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบและหาเบาะแสของชายปริศนาที่อ้างตัวเป็นกู้ภัยแล้วคุกคามผู้เสียหาย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ไปดูแลความปลอดภัยให้กับผู้เสียหายเพื่อสร้างความมั่นใจ และประสานการช่วยเหลือผู้เสียหายแล้ว