ชลประทานขอนแก่นมั่นใจปีนี้น้ำกินน้ำใช้มีเพียงพอ แม้แหล่งน้ำขนาดใหญ่มีปริมาณเฉลี่ย 30%

ขอนแก่น-ชลประทานมั่นใจปีนี้น้ำกินน้ำใช้มีเพียงพอ แม้แหล่งน้ำขนาดใหญ่มีปริมาณเฉลี่ย 30% และคาดดการณ์ปริมาณฝนปีนี้น้อยลง พร้อมขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอทำการเกษตรช่วงนี้ รอฝนที่จะมาช่วงปลายเดือนหน้าค่อยทำการเพาะปลูก

นายสมปอง ฉ่ำกระมล ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 6 ลงพื้นที่ติดตามความพร้อมของเครื่องจักรและอุปกรณ์ในการบริหารจัดการน้ำที่ประตูระบายน้ำคลองระบายน้ำ D8 ห้วยพระคือ อ.เมือง จ.ขอนแก่นหลังคาดการณ์ว่าปีนี้ปริมาณฝนตกในพื้นที่น้อยกว่าช่วงฤดูฝนของปีที่ผ่านมาประกอบกับปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่รับผิดชอบมีปริมาณเฉลี่ยร้อยละ 30 ส่วนน้ำที่เก็บกักไว้ในแก้มลิงในหลายพื้นที่สงวนไว้ใช้ในช่วงที่ฝนอาจจะทิ้งช่วงในเดือน ก.ย.-ต.ค.ซึ่งช่วงนี้ได้ประสานไปยังกรมฝนหลวงให้ขึ้นบินทำฝนหลวงให้มีน้ำมาเติมในพื้นที่ ซึ่งต้องขอความร่วมมือเกษตรกรให้ชะลอการทำการเกษตรไปก่อน รอให้ปริมาณฝนเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมค่อยลงมือทำนา

นายสมปอง กล่าวว่า ฤดูฝนของประเทศไทยปีนี้มาช้ากว่าปกติเล็กน้อยและปริมาณฝนรวมจะน้อยกว่าค่าเฉลี่ยปกติประมาณ 5% อีกทั้งจะมีฝนทิ้งช่วงในเดือน มิ.ย. ต่อเนื่องถึงกลางเดือน ก.ค. 2566 ทำให้เกิดภัยแล้งบริเวณนอกเขตชลประทานอาจทำให้มีน้ำไม่เพียงพอสำหรับการทำการเกษตรได้ในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ ปรากฎการณ์เอลนีโญที่คาดว่าจะมาเยือนคนไทย แม้จะมีกำลังอ่อน แต่กรมชลประทานเตรียมแผนรับมือเพื่อลดผลกระทบจากภัยแล้งและประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์และปรับแผนบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม ขณะเดียวกับก็ไม่ประมาณในการรับมือกับน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วย 12 มาตรการ

 " ปัจจุบัน ปริมาณน้ำกักเก็บของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในพื้นที่สำนักงานชลประทานที่ 6 มี 3  แห่ง ประกอบด้วยเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น อยู่ที่ 781 ล้าน ลบ.ม.จากความจุ  2,431 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 32 ,เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ อยู่ที่ 795 ล้าน ลบ.ม.จากความจุ  1,980 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 40 และเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ อยู่ที่ 61 ล้าน ลบ.ม.จากความจุ  164 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 37"