บก.ปส.2 เฉียบ! จับขบวนการค้ายาบ้าอีสานยึดของกลาง 10 ล้านเม็ด มูลค่า 300 ล้านบาท

พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผู้บังคับการ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 (ผบก.ปส.2) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 ได้ร่วมกันจับกุมยาบ้า   ได้ผู้ต้องหาจำนวน 5 คน พร้อมด้วยของกลาง ยาบ้า จำนวน 1,900,000 เม็ด และยาอี จำนวน 50,000 เม็ด ได้ที่บริเวณถนนไม่มีชื่อ ต.โพสะ อ.เมือง จว.อ่างทอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ บก.ขส.บช.ปส.ได้ทำการขยายผล จนทราบว่ายังมีกลุ่มผู้ลักลอบกระทำความผิดที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกจำนวนหนึ่ง จึงได้ติดตามเฝ้าระวังเครือข่ายนี้ และต่อมาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 เจ้าหน้าที่ กก.2 บก.ปส.2 และ บก.ขส.บช.ปส. ได้พบความเคลื่อนไหวของกลุ่มเครือข่ายนี้ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อไปส่งในพื้นที่ จว.สระบุรี โดยมี นายบุญครอง กนกหงษา ผู้ต้องหาที่ 1 และน.ส.ธิดา บุญสูงเนิน ผู้ต้องหาที่ 2 ทำหน้าที่ขับรถยนต์ปิคอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บจ 4926 บึงกาฬ ได้ขนยาเสพติดจาก อ.บ้านม่วง จว.สกลนคร โดยที่กระบะท้าย บรรทุกยาบ้า จำนวน 19 กระสอบ มีการอำพรางโดยติดคอกเหล็กที่กระบะหลังในลักษณะที่ให้เห็นว่าเป็นการบรรทุกสิ่งของทั่วไปแล้วคลุมด้วยผ้ากันฝนและปกคลุมผ้าสแลนสีดำอีกชั้นหนึ่งเพื่อนำไปเก็บไว้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่งใน อ.หนองแค จว.สระบุรี เพื่อรอส่งให้ลูกค้า

พล.ต.ต.ธนรัชน์ สอนกล้า ผู้บังคับการ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 (ผบก.ปส.2)

โดยได้รับการติดต่อจาก น.ส.บุหลัน คำสุนา ผู้ต้องหาที่ 4 ให้ไปขับรถยนต์ที่บรรทุกยาเสพติดไว้พร้อมแล้ว ซึ่งจะจอดทิ้งไว้บริเวณป่าช้าบ้านพุทธรักษา ต.สะอาด อ.บ้านม่วง จว.สกลนคร ซึ่ง น.ส.บุหลัน ฯ ผู้ต้องหาที่ 4 และนายมะณูน สิงห์สถิตย์ผู้ต้องหาที่ 3 ขับรถยนต์ของกลางหมายเลขทะเบียน บธ 3132 นครพนม ทำหน้าที่สำรวจเส้นทางจาก อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร จนถึงจุดจับกุม โดยขบวนการลักลอบลำเลียงยาบ้าของเครือข่าย กลุ่มนี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 และ ผู้ต้องหาที่ 2 (สามีภรรยา) ทำหน้าที่ขับรถที่ใช้ซุกซ่อนยาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 และผู้ต้องหาที่ 4 (สามีภรรยา) ทำหน้าที่ขับรถนำสำรวจเส้นทาง โดยรถในขบวนการครั้งนี้จะได้รับค่าน้ำมันในการลำเลียง ยาเสพติด คันละ 50,000 บาท การจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้สะกดรอยติดตามมาโดยตลอดจนกระทั่งเวลาประมาณ 10.45 น. ของวันที่ 7 มิ.ย.66 พบว่ารถคันหมายเลขทะเบียน บจ 4926 บึงกาฬ ที่บรรทุกยาเสพติด ได้เลี้ยวเข้าปั๊มน้ำมัน บางจาก สาขา ม.14 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา ขาเข้ากรุงเทพฯ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ของกลางเป็นยาเสพติดที่รถยนต์คันดังกล่าว ขณะเดียวกันชุดปฏิบัติการอีกชุดหนึ่ง ได้ติดตามรถนำคันหมายเลขทะเบียน บธ 3132 นครพนม และได้ทำการควบคุมตัวนายมะณูนฯ ผู้ต้องที่ 3 และ น.ส.บุหลัน ฯ ผู้ต้องหาที่ 4 ได้ที่บริเวณถนนมิตรภาพ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา จากนั้น ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ตรวจลายพิมพ์นิ้วมือแฝงผู้ต้องหา ตรวจรถยนต์และยาเสพติดของกลาง และนำส่ง พงส.บก.ปส.2 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

“ในการจับกุมในครั้งนี้ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 ได้ของกลาง จำนวน 4 รายการ คือ  ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 10,000,000 เม็ด ซึ่งมีมูลค่า 300 ล้านบาท รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีบรอนด์ทะเบียน บจ 4926 บึงกาฬ จำนวน 1 คัน (รถลำเลียงยาเสพติด) รถยนต์ปิคอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน บธ 3132 นครพนม จำนวน 1 คัน (รถนำสำรวจเส้นทาง) พร้อมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง ซึ่งสถานที่จับกุมเกิดเหตุบริเวณปั้มน้ำมันบางจาก สาขา ม.14 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา ต่อเนื่องบริเวณถนนมิตรภาพ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จว.นครราชสีมา ได้ผู้ต้องหา จำนวน 4 คน คือ นายบุญครอง กนกหงษา อายุ 48 ปี เป็นชาว ต.กุดชุมแสง อ.หนองบัวแดง จว.ชัยภูมิ (คนขับ รถยนต์กระบะ ทะเบียน บจ 4926 บึงกาฬ )  น.ส.ธิดา บุญสูงเนิน อายุ 36 ปี เป็นชาว ต.กุดชุมแสง อ.หนองบัวแดง จว.ชัยภูมิ นายมะณูน สิงห์สถิตย์ อายุ 48 ปี เป็นชาว ต.บ่อแก้ว อ.บ้านม่วง จว.สกลนคร และน.ส.บุหลัน คำสุนา อายุ 43 ปี เป็นชาว ต.บ่อแก้ว อ.บ้านม่วง จว.สกลนคร”

  พล.ต.ต.ธนรัชน์ กล่าวต่อว่า ในแนวทางการปราบปรามยาเสพติดของ กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 2 นั้น จะเร่งดำเนินการปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ที่มีเป้าหมายในเขตที่รับผิดชอบพื้นที่ภาคอีสานและภาคตั้งวันออก เพื่อการปรามปรามทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติด ซึ่งมีแนวทางการดำเนินการ การสกัดกั้นยาเสพติด สารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ เพื่อไม่ให้เข้าสู่ประเทศและถูกใช้เป็นเส้นทางนำผ่านไปยังประเทศที่สาม ปราบปรามเครือข่ายการค้ายาเสพติด ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเข้มงวด เพื่อให้สังคมไทยปลอดภัยจากยาเสพติดต่อไป