แม่กอดรูปลูกชายวัย 17 ร้องขอความเป็นธรรมหลังซิ่งจยย.พุ่งชนท้ายอีแต๊กไม่มีไฟท้ายดับ

แม่กอดรูปลูกชายวัย 17 ร้องขอความเป็นธรรมหลังซิ่งจยย.พุ่งชนท้ายอีแต๊กไม่มีไฟท้ายดับ





ad1

อุทัยธานี-แม่กอดรูปลูกชายวัย 17 ปีเรียกร้องความเป็นธรรม วอนรถอีแต๊กไม่มีไฟท้ายวิ่งถนนดำช่วงใกล้ค่ำออกมารับผิดชอบภายใน 21 วัน ไม่อยากให้ลูกตายฟรี หลังลูกชายขับรถจยย.พุ่งชนท้ายรถอีแต๊กจนดับ

เมื่อเวลา 13.00.น.ของวันที่ 17 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จากนางอบเชย เพ็ชรนา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41/2 หมู่ 18 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี จากกรณีเหตุอุบัติเหตุ เนื่องจากลูกชายของตนเองได้ขับรถจยย.ยี่ฮ้อเวฟ ชนท้ายรถอีแต๊กไม่มีไฟท้ายจนเสียชีวิต ชื่อนายนวพรรณ เพ็ชรนา หรือน้องไผ่อายุ 17 ปี วันเกิดเหตุวันที่ 26 พ.ย.65 ช่วงเวลา ประเวลาประมาณ หกโมงกว่าๆซึ่งเป็นช่วงใกล้ค่ำ ที่ถนนสายลานสัก-ระบำ แถวบริเวณบ้านเขาปีกไก่ดำ หมู่ 8 ต.ระบำ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากเกิดเหตุแล้วรถอีแต๊กคันดังกล่าวก็ได้ขับรถหนีไปจากที่เกิดเหตุ โดยไม่มารับผิดชอบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ลานสักกำลังตรวจหากล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และใกล้เคียง ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ อยู่ในระหว่างการติดตามหารถอีแต๊กคันดังกล่าวมาสอบปากคำ พร้อมกับเรียกพยานสอบสวนผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุแล้ว

โดยนางอบเชย ผู้เป็นแม่ ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเกิดเหตุ คู่กรณีที่เป็นคนขับรถอีแต๊กไม่เคยออกมารับผิดชอบอะไรเลย ตัวแม่เองไม่อยากให้ลูกตายฟรี เนื่องจากลูกก็เป็นเสาหลักของคนครอบครัว หากมีงานลูกชายหรือผู้เสียชีวิตออกไปทำงานรับจ้างแทนตัวแม่ แต่เมื่อตัวแม่มาเสียลูกไปเพียงอายุ 17 ปี โดยเหตุจากรถอีแต๊กออกมาวิ่งถนนดำช่วงใกล้ค่ำ แถมไม่มีไฟท้าย จนเป็นเหตุให้รถตามมาข้างหลังชนจนเสียชีวิต แล้วก็ขับรถหนีหายไป แล้วไม่มารับผิดชอบอะไรเลย ตัวแม่เองทำใจไม่ได้ 21 วัน แล้วหลังลูกเสียชีวิตไปโดยไม่มีใครออกมารับผิดชอบ

ล่าสุดได้สอบถามไปยังนายโอโม่ อายุ 14 ปี ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุ ได้เล่าว่า หากตัวผมขับรถขึ้นหน้าผู้ตายไป ตัวเองอาจจะเป็นผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอน เนื่องจากเวลานั้นตนเองได้ขับรถจยย.มากับเพื่อนและผู้เสียชีวิตหรือนายไผ่ นัดกันมาจะไปที่เขื่อนระบำเพื่อจะไปดูน้ำ ระหว่างนั้นช่วงเวลาใกล้ค่ำแล้ว ผู้เสียชีวิตก็ขับรถจยย.ขึ้นหน้าตนเองและเพื่อนไป จังหวะที่ผมขับรถตามผู้เสียชีวิตไปนั้น ผมเห็นไฟหน้ารถของผู้ตายนั้นชนที่ท้ายรถอีแต๊กแล้ว เนื่องจากรถอีแต๊กนั้นไม่มีไฟท้าย และไม่มีไฟหน้า แล้วเจ้าของรถอีแต๊กก็ขับรถหนีออกไปจากในที่เกิดเหตุ แล้วตนเองกับเพื่อนๆที่ขับรถตามมาเห็นเหตุการณ์ก็รีบนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเป็นการเร่งด่วน แต่ผู้บาดเจ็บเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ตัวแม่เอง ได้พาผู้สื่อข่าวไปชี้รอยจยย.ที่ลูกชายขับไปชนท้ายรถอีแต๊ก พร้อมกับชี้รอยในที่เกิดเหตุ ในสภาพลูกชายนอนเสียชีวิตด้วยเลือดท่วมตัว พร้อมกับธูปมาจุดบอกลูกชาย ให้คู่กรณีคนขับรถอีแต๊กออกมารับผิดชอบ พร้อมกับได้นำภาพกล้องหน้ารถจากพลเมืองดีนำภาพคลิปรถอีแต๊ก คาดคันที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ก่อนเกิดเหตุ จากกล้องหน้ารถมาให้ผู้สื่อข่าว ดู ในเวลาใกล้เคียงกัน ก่อนไม่กี่นาที เนื่องช่วงที่เกิดเหตุชนท้ายรถอีแต๊กนั้น ไม่มีกล้องวงจรปิดเลย บริเวณนั้น แล้วลูกชายก็ขับรถมาชนท้ายขณะรถอีแต๊กจนดับ พร้อมทางนายอนุพันธ์ สารสุวรรณ์ กำนันตำบลระบำ ช่วยเหลือทางแม่ญาติผู้เสียชีวิตหากใครเจอเบาะแสรถอีแต๊กคันดังกล่าวให้แจ้งมา มีรางวัลให้10,000บาท