EODเข้าเก็บกู้ระเบิดไปป์บอมย์แนวร่วมนักรบจูแวซุ่ใโจมตีฐายปฏิบัติการทหารพราน

นราธิวาส-EODเข้าเก็บกู้ระเบิดไปป์บอมย์ที่ตกค้างบนหลังคาก่อนที่เข้าเคลียร์ร่องรอยความเสียหายอีกสองลูกที่กองกำลังนักรบจูแวซุ่ใโจมตีฐายปฏิบัติการทหารพรานช่วงค่ำที่ผ่านมา

วันนี้(25 ส.ค. 65) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเหตุกองกำลังไม่ทราบฝ่ายและจำนวนใช้ระเบิดชนิดขว้างไปป์บอมย์ ขว้างปาใส่ฐานปฏิบัติการทหารพรานและระดมยิงด้วยอาวุธสงคราม เป็นระยะๆ ส่วนเจ้าหน้าที่ได้เพียงใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า ป้องกันการเข้ามาก่อเหตุภายในฐาน เนื่องจากเป็นที่ตั้งของชุมชน เกรงเกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จนให้กำลังพลเตรียมความพร้อมอยู่ ณ ที่ตั้ง คนร้ายกาอเหตุในครั้งนี้ไม่น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง จนกว่าก่อนที่กองกำลังเสริมของตำรวจเข้ามาสนับสนุน คนร้ายจึงล่าถอยหนีอย่างลอยนวล

ล่าสุด นายมาหะมะยากี หะยีมะ นายอำเภอเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.อ.ภาคิน เกื้อกูล ผบ.ฉก.กรมทหารพรานที่ 48 พ.ต.ท.หมัดอุสัน เส้นหีม รอง ผกก.สส.รักษาราชการแทน ผกก.สภ.เจาะไอร้อง นำกำลังพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย  และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส ได้ร่วมเดินทางตรวจสอบฐานปฏิบัติการณ์หมวดเฉพาะกิจ นปพ.ที่ 31 ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างแนวเดียวกับสถานีรถไฟเจาะไอร้อง ม.1 ต.จวบ  หลังถูกที่ถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบุกโจมตีในช่วงเวลา 19.10 น.ของคืนวันที่ 23 ส.ค. 65 ที่ผ่านมา ทำให้ ส.ต.ต.อัคพล บัวจันทร์ ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าท้อง 1 นาย ถูกนำส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงปาดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุว่าพบคนร้ายได้ขว้างปาระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมย์ใส่ฐานฯ จำนวน 3 ลูก โดยลูกแรก. ตกคาอยู่บนหลังคาของอาคารน็อคดาวน์ระเบิดไม่ทำงาน จำนวน 1 ลูก เจ้าหน้าที่ EOD อโนทัยเข้าเก็บกู้ได้สำเร็จ  ส่วนอีก 2 ลูก ที่ทำงานนั้น พบว่าลูกแรกตกที่บริเวณหลังคากระเบื้องของศาลาฝั่งตรงข้ามอาคารน็อคดาวน์ 1 ซึ่งเป็นที่ใช้สำหรับนั่งรับประทานอาหารของกำลังพล และลูกที่ 2 ไปตกที่บริเวณทางเดินภายในฐาน ฯ ซึ่งห่างจากเพิงศาลานั่งรับประทานอาหารของกำลังพลเพียง 10 เมตร โดยทั้ง 2 จุด มีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ตกกระจายเกลื่อนไปทั่วบริเวณ

นอกจากนี้ที่บริเวณริมถนนด้านขวามือของฐานฯ ซึ่งเป็นถนนในหมู่บ้านตัดผ่านขั้นกลางกับบ้านเรือนของชาวบ้าน เจ้าหน้าที่พบสลักนิรภัยของระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ที่คนร้ายได้ดัดแปลงจากท่อ พี.วี.วี.สีฟ้า ตกอยู่กับพื้นจำนวน 3 อัน  คาดว่าน่าจะเป็นจุดตำแหน่งที่คนร้ายใช้ขว้างปาเข้าใส่ฐานฯ รวมทั้งรถยนต์หุ้มเกราะ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนส์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของ สภ.เจาะไอร้อง ซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ใกล้กับทางเข้าฐาน ถูกกระสุนปืนของคนร้ายที่บริเวณบังโคลนหลังด้านซ้ายมือของคนขับ 1 นัด ส่วนบริเวณด้านซ้ายมือของฐานฯ ซึ่งเป็นแนวเดียวกับรางรถไฟ เป็นจุดที่คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามระดมยิงเข้าใส่ฐานฯ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงคราม อาก้า และเอ็ม.16 จำนวน30 กว่าปลอก  เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

 จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุคาดว่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 10 คน แยกกำลังออกเป็น 2 ชุดปฏิบัติการณ์ โดยอาศัยความมืดแฝงตัวมาทางด้านซ้ายและด้านขวาของฐานฯ โดยกลุ่มคนร้ายด้านซ้ายมือของฐาน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามระดมยิงเข้าใส่ฐาน และคนร้ายด้านขวามือของฐาน ได้ใช้ระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปป์บอมบ์ ขว้างใส่เข้าไปในฐานฯ จำนวน 3 ลูกซ้อน โดยระเบิดไปตกคาอยู่ที่บริเวณหลังคาของอาคารน็อคดาวน์ 1 แต่ไม่ทำงาน ลูกที่ 2 ไปตกบนหลังคาเพิงศาลาสำหรับให้กำลังพลนั่งรับประทานอาหาร ลูกที่ 3 ไปตกทางเดินในบริเวณบาฯห่างจากเพิงศาลานั่งรับประทานอาหารของกำลังพลประมาณ10 เมตร ซึ่งขณะนั้น ส.ต.ต.อัคพล ที่ได้รับบาดเจ็บกำลังวิ่งเข้าประจำจุด

เพื่อยิงตอบโต้กับคนร้าย หลังจากที่ ร.ต.อ.ชยพล หนูสมจิต ผู้บังคับหมวดชุดเฉพาะกิจ นปพ.ที่ 31 ได้สั่งให้กำลังพลทุกนายเข้าประจำจุด พร้อมยิงตอบโต้กับคนร้าย แต่ด้วยสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย เจ้าหน้าที่กระทำได้เพียงใช้อาวุธปืนประจำกายยิงข่มขู่ขึ้นฟ้า เพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปในฐาน เนื่องจากเกรงกลัวกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่อาจพลาดไปถูกบ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งอาจจะได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานเป็นระยะๆนานกว่า 30 นาที จนกระทั่งกลุ่มคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง เดินทางเข้ามาสนับสนุน คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์หุ้มเกราะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง ก่อนที่จะนำกำลังล่าถอยไปอย่างลอยนวล