ผู้ว่าฯ สมุทรสาครสั่งประเมินความเสี่ยง คานสะพานกลับรถพระราม 2 ร่วงทับรถ 4 คนดับ 2 บาดเจ็บ 2 ก่อนเปิดใช้ได้หรือไม่

ผู้ว่าฯ สมุทรสาครสั่งประเมินความเสี่ยง คานสะพานกลับรถพระราม 2 ร่วงทับรถ 4 คนดับ 2 บาดเจ็บ 2 ก่อนเปิดใช้ได้หรือไม่





ad1

สมุทรสงคราม-คืบหน้าเหตุคานสะพานกลับรถพระราม 2 หน้า รพ.วิภารามสมุทรสาคร หล่นใส่รถยนต์ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นคนงานก่อสร้าง สรุปมีผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เผยรอเคลียร์พื้นที่ก่อน ให้กรมทางหลวงตรวจสอบสภาพสะพานและประเมินความเสี่ยง ก่อนเปิดการจราจรช่องทางหลักได้หรือไม่

จากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุคานสะพาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างสะพานกลับรถ ถนนพระรามที่ 2 กม. 34 หน้าโรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร ต.บางกระเจ้า อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร ที่กำลังอยู่ในระหว่างปิดปรับปรุง หล่นลงมาทับรถยนต์ที่กำลังสัญจรบนช่องทางหลัก (Main Road) ขาเข้ากรุงเทพฯ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 31 ก.ค.2565ที่ผ่านมา ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายรวม 4 คัน ประกอบด้วยรถเก๋งเชฟโรเล็ต รถกระบะอีซูซุ ดีแมกซ์ รถบรรทุกน้ำมันยี่ห้อฮีโน่ และรถบรรทุกแก๊ส มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย เป็นคนที่นั่งข้างคนขับรถเก๋งเชฟโรเล็ต ไม่ทราบชื่อ เพศหญิง โดยช่วงเวลาดังกล่าวมีฝนตก และมีรถมากเคลื่อนตัวช้าสะสมยาวกว่า 20 กิโลเมตร เนื่องจากประชาชนกำลังเดินทางกลับกรุงเทพฯ หลังวันหยุดยาวเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซ้ำเติมให้การจราจรติดขัดมากขึ้น ตามที่รายงานข่าวแล้วนั้น

หลังจากที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถเก๋งที่ถูกคานสะพานทับนานกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้สำเร็จแล้ว ได้มีการนำรถเครนยาว มายกคานสะพานที่หล่นลงมาออก ก่อนจะเคลื่อนย้ายรถยนต์เก๋ง และรถยนต์กระบะออกจากจุดที่เกิดเหตุ ด้านการจราจรนั้น ได้สั่งปิดการจราจรบนช่องทางหลัก (Main Road) ทั้งขาเข้ากรุงเทพฯ และขาออกมุ่งหน้าจังหวัดสมุทรสงครามไว้ก่อนอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น เหลือเฉพาะทางขนาน (Frontage Road) ที่ยังเปิดการจราจรตามปกติ

อีกด้านหนึ่ง ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ 2 คน คือ นายฉัตรชัย ศิริมาตร์ อายุ 27 ปี และนายชาญ ชาวทอง อายุ 48 ปี ซึ่งทั้งสองเป็นคนงานก่อสร้างปรับปรุงสะพานกลับรถดังกล่าว ไปยังโรงพยาบาลสมุทรสาคร แต่นายชาญเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนนายฉัตรชัยยังรู้สึกตัว รวมแล้วมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

 ต่อมา นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์, นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกับสั่งการให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งหาสาเหตุและรายงานให้ทราบต่อไป และได้กำชับให้ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกคนต้องทำงานด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะการทำงานใกล้กับสะพานที่เกิดเหตุ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันได้อีกหรือไม่

นายณรงค์ กล่าวว่า เบื้องต้นคงต้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานเคลียร์พื้นที่ด้านล่างให้เรียบร้อย เพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัดก่อน จากนั้นทางกรมทางหลวง โดยศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 ปทุมธานี ก็จะต้องมาทำการตรวจสอบสภาพของสะพานที่กำลังทำการซ่อมบำรุงและประเมินความเสี่ยงว่า จะสามารถเปิดเส้นทางการเดินรถให้เป็นปกติได้หรือไม่ เพราะเกรงว่าหากมีรถใหญ่ขับผ่าน เมื่อเกิดการสั่นสะเทือนก็อาจจะทำให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำเดิมได้อีก ดังนั้นจึงต้องทำการประเมินกันอย่างละเอียดก่อน จึงจะสามารถสรุปถึงแผนการจราจรตรงที่เกิดเหตุอย่างชัดเจนต่อไปได้